พระราชาทรงมุ่งมั่นอยู่กับความทุกข์ความสุขของราษฎร คืนวันหนึ่งก่อนจะบรรทม ทรงมีปัญหาซับซ้อนยอกย้อนมากมายให้ใคร่ครวญขบคิด หลายเรื่องยากระดับที่เรียกว่าปัญหาเทวดาแก้ขณะที่ทรงคิดว่า น่าจะมีศาสดาพยากรณ์สักองค์มาช่วยชี้ทางออกให้ ก็ทรงหลับผล็อยไปเสียก่อน(เรื่องง่ายๆ ความหมายดีๆ สุริยเทพ ไชยมงคล สำนักพิมพ์อินสไปร์ พ.ศ.2553)เหมือนปาฏิหาริย์ พระราชาทรงพระสุบินว่า ศาสดาพยากรณ์พระองค์นั้น ปรากฏร่างตรงหน้า หลุดคำสอนออกมาห้าคำ ในพระสุบิน... พระราชาทรงจดจำความรู้สึกของพระองค์ได้แม่นยำชัดเจนคำสอนห้าคำนั้น...เมื่อราษฎรฟังแล้ว ผลประการแรก จะขยันหมั่นเพียรทำงานด้วยความรับผิดชอบ และรอบคอบ ผลข้อต่อมา ราษฎรจะมีชีวิตประจำวันที่มีแต่อารมณ์ดี ไม่มีใครขึ้งเคียดโกรธหรือโทษใครข้อสาม แม้เมื่อยามราษฎรมีความทุกข์ คำพูดห้าคำนั้นก็จะช่วยปลอบประโลมใจ ให้ความทุกข์คลายหายไปและข้อที่สี่ แม้ในยามที่ราษฎรมีความสุข พวกเขาก็จะควบคุมจิตใจไม่ให้ลืมตัวพระราชาทรงเผลอปลื้มดื่มด่ำ ผลสี่ประการที่เกิดจากคำพูดห้าคำนั้น ทบทวนท่องไปกลับ...หลายเที่ยว ขณะที่ทรงยิ้มอิ่มพระทัย งานดูแลราษฎรที่เคยยากหนักหนา ก็จะกลายเป็นงานง่ายๆบ้านเมืองของพระองค์จะได้ขานชื่อลือลั่น เป็นบ้านเมืองที่มีดัชนีความสุขสูงกว่าบ้านเมืองใดในโลกแต่น่าเสียดาย! วินาทีนั้น พระองค์ก็ทรงลืมคำพูดห้าคำประโยคนั้น...ไปหมดสิ้นพระราชาทรงพยายามหลับตา ลืมตา ทบทวนพระสุบินครั้งที่คิดว่าเป็นเรื่องแสนมหัศจรรย์ครั้งนั้น นับเที่ยวไม่ถ้วน แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ก็ทรงนึกไม่ออกอยู่ดีทรงสั่งเปิดท้องพระโรง...ประชุมเสนาบดีผู้ใหญ่...ทรงบรรยายถึงผลที่เกิดจากคำสอนมหัศจรรย์ห้าคำนั้น แล้วขอให้ใครสักคนช่วยบอก...ว่าคำพูดอะไร แต่ก็ไม่มีใครบอกได้ทรงไล่เลียงไปถามคนในสภาสูง ที่ทรงบรรจงแต่งตั้งมากับมือ ไปถึงสภาล่างที่มาจากกระบวนการเลือกตั้ง ก็ยังหาคนที่บอกห้าคำนั้นไม่เจอ ทรงขัดพระทัย ก็เก่งๆกันนั้น ตอนอภิปรายในสภาฯทรงสั่งให้ค้นหาปราชญ์ผู้ฉลาดรอบรู้ ที่อาจแฝงกายอยู่ในที่เร้นลับ ได้ตัวมาแล้วหลายคน ผลก็ยังคงเดิมถึงนาทีที่ขัดสนอับจน พระราชาทรงตัดสินพระทัย ถอดมงกุฎบนพระเศียร ออกวางบนโต๊ะกลม กลางท้องพระโรง แล้วทรงประกาศ “หากใคร คิดออก ข้าจะยกบัลลังก์ให้”ทรงสั่งจัดบรรยากาศให้เป็นที่ลับเฉพาะ สำหรับใครบางคน ที่อาจไม่อยากเปิดเผยตัวตนพระราชาทรงพระฉลาดพอ จะรู้ว่าเงื่อนไขรางวัลใหญ่ คือมงกุฎพระราชานั้น ในบางสถานการณ์อาจสุ่มเสี่ยงเวลาผ่านไปสี่สัปดาห์...นานพอดู ก็มีผู้รู้...คนหนึ่ง เข้ามาเขียนห้าคำนั้นไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเห็นว่า เขาเป็นใคร มาจากไหน แต่ประโยคที่เขาเขียน คือ คำสอนจากศาสดาพยากรณ์ที่พระราชาอ่านแล้ว ก็จำได้แม่นยำประโยคที่เขียนไว้บนมงกุฎนั้นคือ “แล้วมันจะผ่านไป”จบเรื่องง่ายๆ มีคำอธิบายความหมายดีๆ ว่า เวลาที่ผ่านไปแล้วนั้น จะให้บทเรียนที่มีคุณค่า ไม่ว่าจะเคยร้องไห้ เคยเจ็บปวด เคยยิ้ม เคยเมามาย ก็ล้วนแต่เป็นบทเรียนที่ดีในการดำเนินชีวิตถ้าเราใช้ชีวิตวันนี้อย่างมีความสุข วันพรุ่งนี้ที่คิดถึง เราจะมีรอยยิ้มอีกไม่กี่วัน ปีเก่าก็จะผ่านเราไปอีกแล้ว ปีใหม่ปีงูใหญ่ปีนี้มีผู้รู้บางท่านพยากรณ์ว่า เป็นปี “มังกรง่วง”ถ้ามังกรจะง่วงจริงๆ เราจะทำอะไรได้ ก็ต้องรอให้มังกรหลับไปตามนิสัย ได้เวลามังกรจะลืมตาตื่นมา เป็นมังกรทะยานฟ้า อย่าลืมหนา! เราเลือกมังกรตัวเก่งมากับมือของเราเอง.กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ "ชักธงรบ" เพิ่มเติม