ช่วงที่ผ่านมา ตำรวจเร่งรับมือหลายเรื่องได้ดี?ทั้งสืบสวนจับกุม ป้องกันปราบปราม และงานบริการอาทิ การป้องปรามนักเรียนนักเลง วัยรุ่น ตั้งก๊วนเตรียมไล่ทำร้ายไล่ฆ่ากันรายวัน แต่ด้วยความที่ตำรวจให้ความสำคัญตื่นตัว เลยเข้าระงับเหตุได้ทันท่วงที ก่อนเกิดเหตุสลด!หรือแม้แต่งานบริการนักท่องเที่ยว ข้าวของ ทรัพย์สิน โทรศัพท์มือถือหาย หลายโรงพักหลายหน่วยก็เข้าช่วยเหลือติดตามคืนกลับมาได้ สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ไทยขณะที่ตำรวจดีๆเยอะแยะกำลังสร้างชื่อเสียง แต่ดันมีตำรวจเลวๆบางคนคอยทำลายความน่าเชื่อถือ สร้างเรื่องฉาวด้านลบ ถึงขนาดใช้อำนาจหน้าที่ก่ออาชญากรรมซะเอง!?แบบนี้ยังสมควรเป็นตำรวจอยู่หรือไม่?ไม่กี่วันที่ผ่านมาพีอาร์สาวกับแฟนถูกชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จ.ปทุมธานี 7 นาย บุกจับกุมข้อหาครอบครองยาเคเพื่อจำหน่าย อุ้มตัวแยกขึ้นรถคนละคันไปดำเนินคดีที่ บก.ภ.จ.ปทุมธานีแต่แทนที่จะบันทึกจับกุม ส่งตัวให้พนักงานสอบสวนโรงพักดำเนินคดีกลับเห็นเป็นช่องทางหาเงิน ต่อรองรีดทรัพย์นักค้ายารายย่อยคู่นี้ 3 แสนบาท เพื่อเปลี่ยนข้อหาจากค้ายาเคเป็นครอบครองยาบ้าแค่ 2 เม็ด เข้าข่ายผู้เสพแค่เอาตัวไปบำบัด?เท่านั้นยังไม่เลวพอ มีตำรวจ 1 ใน 7 นายพาพีอาร์สาวไปข่มขืนกระทำชำเรา!เป็นเหตุให้เหยื่อทนไม่ไหว เข้าร้องเรียน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด และที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย งานนี้ พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 ถึงกับเต้น สั่งการให้ พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี ตรวจสอบเอาผิดตำรวจทั้ง 7 นายทั้งวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด!ทุกสายตากำลังจับจ้องอยู่ ควรรีบเก็บพยานหลักฐาน ทั้งที่โรงแรมเกิดเหตุ ภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณตู้เอทีเอ็มที่พาเหยื่อไปทัวร์กดเงินสดมาประเคนให้ถึง 2 แห่งถ้าใครคิดจะช่วยอีก คนนั้นก็ไม่ควรเป็นตำรวจเหมือนกัน?สหบาทคลิกอ่านคอลัมน์ “ส่องตำรวจ” เพิ่มเติม