2 ปีแล้ว ที่แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต คืนสู่ธรรมชาติ อันเป็นการคืนไม่ฝืนไว้ และจากไปอย่างงดงามตามเจตนารมณ์ของท่าน โดยเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา เสถียรธรรมสถานจัดกิจกรรม “2 ปี แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต คืนสู่ธรรมชาติ” มีการเสวนาและสัมโมทนียกถา การทำงานศาสนาของแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุตกิจกรรมที่น่าสนใจอันหนึ่งในงานนี้คือ นิทรรศชีวิตผ่านภาพถ่าย ‘ปฏิสนธิจิตจนคืนชีวิตสู่ธรรมชาติ’ ที่ สมคิด ชัยจิตวนิช ช่างภาพซึ่งติดตามคุณแม่ชีไปทุกที่ ทั้งในประเทศและต่างประเทศเพื่อถ่ายภาพท่านในงานที่ท่านทำมานานกว่า 20 ปี สมคิดโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า...สิ่งที่ทำเพื่อถวายท่านในวันนี้วันที่ 7 ธ.ค. เมื่อ 2 ปีก่อน วันที่ไม่ได้มองท่านผ่านเลนส์อย่างถาวรตลอดไปแต่สิ่งที่มองเห็นในปัจจุบันคือ ความงอกงามของสิ่งที่ท่านได้สร้างไว้ และมีอีกหลายสิ่งที่จะช่วยกันสานต่องานของท่าน “ตารามหาสถูป” ปณิธานสุดท้ายของท่านในการสร้างอาคารปฏิบัติธรรมเพื่อพัฒนาโพธิจิต ณ เสถียรธรรมสถาน หุบเขาโพธิสัตว์ ในนิทรรศการครั้งนี้จะมีภาพถ่ายชุดพิเศษ 70 ภาพ ขนาด 20×30 นิ้ว พิมพ์ลงอะคริลิกใส 3 มม. ปิดทับด้วยพลาส วูด 5 มม. ให้ได้ร่วมบุญกันสร้างตารามหาสถูปด้วย ผู้สนใจสามารถมาชมภาพจนถึงสิ้นเดือน ธ.ค.นี้ หรือติดต่อคุณวัชรี โทร.0-2519-1119เป็นการทำงานสานต่อปณิธานของคุณแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ด้วยหัวใจอันเบิกบานและงอกงามตามคำสอนของคุณแม่ ที่ท่านมักสอนเสมอว่า “ถ้าคิดถึงแม่ ให้ช่วยกันทำงาน” เช่นเดียวกับ ดร.สันติ พิเชฐชัยกุล ประติมากรเอกระดับโลกนักปั้นแห่งจิตวิญญาณ ที่เป็นผู้ปั้นประติมากรรมรูปปั้นแบบเหมือนจริง ท่านแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ขนาดเท่าคนจริงลักษณะท่ายืน วัสดุโลหะซิลิคอนบรอนซ์ ซึ่งได้มีการอัญเชิญรูปเหมือนของคุณแม่ประดิษฐสถาน ณ เสถียรธรรมสถานไปแล้วเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2566 ซึ่งเป็นวันครบอายุ 70 ปีชาตกาลของท่านดร.สันติเล่าว่า ได้อธิษฐานจิตที่จะปั้นรูปเหมือนของคุณแม่ โดยได้พบกับคุณแม่เมื่อ 8 ปีก่อน และสัญญากับคุณแม่ว่าจะปั้นรูปเหมือนของท่าน แต่ก็ผัดวันประกันพรุ่งมาโดยตลอด เพราะคิดว่าไม่เป็นไร ยังไงคุณแม่ก็อยู่ที่นี่ อยู่ตรงนี้ และตนเองก็ใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกา ซึ่งตนก็ผ่านไปผ่านมาที่เสถียรธรรมสถานหลายครั้งก็ได้แต่คิดว่าไม่เป็นไร มาตลอด จนกระทั่งเมื่อ 2 ปีก่อน เพื่อนโทรศัพท์มาบอกว่าแม่ไม่อยู่รอแล้วนะ ผมก็คิดว่าต้องทำแล้ว ซึ่งที่ผมตั้งใจจะทำคือ เป็นรูปเหมือนท่านครึ่งตัว แต่ทางเสถียรธรรมสถานบอกว่า ไม่นะ ต้องการแบบเต็มตัวและจะว่าจ้างอาจารย์ให้ทำ ก็เลยออกมาแบบที่เห็น ส่วนประติมากรรมครึ่งองค์นั้น ตนตั้งใจทำถวายท่าน “วันที่อัญเชิญรูปปั้นคุณแม่มาที่นี่ ผมสัมผัสได้ถึงความสุขจากทุกๆคนที่มองรูปปั้นคุณแม่และมองผม และผมเชื่อว่าประติมากรรมรูปเหมือนของคุณแม่จะเป็นตัวแทนคุณความดีที่ท่านได้ทำมาตลอดชีวิตของท่าน” ดร.สันติบอกสำหรับแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต นอกจากเป็นผู้ก่อตั้ง เสถียรธรรมสถาน แล้ว สิ่งที่โดดเด่นคือ การสื่อสารธรรมะให้เป็นเรื่องง่ายๆจับต้องได้ เข้าถึงได้ และพัฒนารูปแบบการสื่อสารให้ทันกับยุคสมัยเพื่อดึงคนเข้าหาธรรมะ ช่วยแก้ไขปัญหาสังคม ท่านมักสอนลูกศิษย์เสมอว่า สื่อสร้างปาฏิหาริย์ได้ เป็นปาฏิหาริย์ของการตื่นรู้ ปี พ.ศ.2534 ท่านเริ่มต้นงาน ‘บ้านสายสัมพันธ์’ เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่เด็กและสตรีที่เคยถูกทารุณกรรมทางเพศและตั้งครรภ์แบบไม่พึงประสงค์ ยืนหยัดด้วยพลังใจและพลังความเป็นแม่ของตัวเอง ซึ่งในเวลาต่อมาท่านมองว่าเป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ ปี พ.ศ.2547 ท่านได้เริ่มทำงานต้นเหตุ คือ โครงการจิตประภัสสรตั้งแต่นอนอยู่ในครรภ์ เพื่อส่งเสริมให้พ่อและแม่ได้ศึกษาและปฏิบัติตนตามหลักธรรมะเป็นแนวทางในการครองชีวิตครอบครัว และให้กำเนิดลูกที่มีจิตประภัสสรปี พ.ศ.2549 ท่านเดินทางไปยังเมืองแวน คูเวอร์ แคนาดา โดยได้รับมอบ ‘พระอารยตารามหาโพธิสัตว์’ อายุกว่า 2,000 ปี ซึ่งเป็นพระโพธิสัตว์ที่ชาวพุทธวัชรยานให้ความนับถือ จาก ดร.ฮง เชม อดีตผู้อำนวยการกองบำรุงกำลัง องค์การสหประชาชาติ ดร.ฮงเป็นบุคคลผู้ที่แม้เพิ่งพบท่านแม่ชีเป็นครั้งแรก แต่ซาบซึ้งกับการทำงานของท่านแม่ชีในฐานะนักบวชหญิงที่เปิดเสถียรธรรมสถานให้เป็นบ้านที่ช่วยเหลือผู้หญิงซึ่งถูกกระทำความรุนแรง นาทีนั้น ดร.ฮงได้กล่าวคำที่มีความหมายมากว่า “ตารา...กลับบ้าน” และนับตั้งแต่วันนั้น คุณธรรมของพระอารยตารามหาโพธิสัตว์ก็กลายมาเป็นพลังใจในการทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยของท่านแม่ชีศันสนีย์และชาวชุมชนเสถียรธรรมสถานปี พ.ศ.2556 ท่านได้สร้าง ถ้ำพระอารยตารามหา โพธิสัตว์ ห้องภาวนาที่เหมือนอยู่ในท้องของแม่ ปี พ.ศ.2558 สร้างพระมหาเจดีย์พระอารยตารามหาโพธิสัตว์หมื่นพระองค์ รองรับการประดิษฐานของพระศรีอริยเมตไตรย รายล้อมด้วยพระอารยตารามหาโพธิสัตว์ ผู้อธิษฐานจิตที่จะเป็นพระมารดาของพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป ปี พ.ศ.2551 ท่านได้ก่อตั้ง สาวิกาสิกขาลัย มหาวิชชาลัยธรรมะเพื่อเยียวยาสังคมกระบวนการศึกษาเรียนรู้เพื่อการบรรลุธรรมในระดับปริญญาตรีและปริญญาโท ปี 2560 ก่อตั้ง ‘Mindfulness Hospital’ (ธรรมาศรม) ที่มีนวัตกรรมแห่งการฉุดช่วยให้คนทุกช่วงวัยอยู่อย่างมีความหมาย...ตายอย่างมีคุณค่า โดยพัฒนาพื้นที่ 2.5 ไร่ด้านในของเสถียรธรรมสถานเป็น ‘อาคารธรรมาศรม’ เพื่อเป็นอาศรมของผู้ปฏิบัติธรรมระยะยาว รองรับชีวิตทุกขั้นตอนตั้งแต่เกิด แก่ เจ็บ ตาย เพื่อตระหนักถึงการสร้างชุมชนแห่งธรรมที่เกื้อกูลกันได้แม้อยู่ในสังคมเมือง ทุกวันนี้เสถียรธรรมสถานยังคงผลิตและพัฒนาสื่อคำสอนของท่านเพื่อสร้างปาฏิหาริย์แห่งการตื่นรู้ให้กับผู้คนในสังคมอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นภาพ Infographic รูปคุณแม่กับคำสั้นๆที่ฉุดช่วยผู้คนให้พ้นทุกข์ สร้างแรงบันดาลใจให้ชีวิต การบวชพุทธสาวิกา 2 แผ่นดิน และล่าสุดที่กำลังจะมาถึงคือ ซีรีส์ ท้า-ทาย-ธรรม โดย “พี่อู๊ด” วิวัฒน์ วงศ์กระพันธุ์ และสารคดี ชีวิตและผลงานแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต โดย “โน้ต” พรรณพันธ์ ทรงขำทั้งหมดนี้คือมรดกธรรมแห่งสื่อสร้างปาฏิหาริย์ตามปณิธานของคุณแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต กับทุกย่างก้าวที่ท่านได้ทำงานกับมนุษย์ในทุกช่วงวัยของชีวิตให้พบกับการ “ตื่นรู้” อย่างแท้จริง.คลิกอ่านคอลัมน์ “THE NEW NORMAL” เพิ่มเติม