น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ตามที่นายกรัฐมนตรีอยากให้โปรโมตการท่องเที่ยวเมืองรองมากขึ้น เพื่อกระจายรายได้ไม่ให้กระจุกตัวเฉพาะในเมืองหลัก สอดรับกับทางหอการค้าไทย ที่เตรียมคลอดโครงการใหม่ ผลักดัน “10 เมืองรอง” ให้เป็นเมืองหลัก ซึ่งเป็นเมืองรองที่มีศักยภาพด้านเศรษฐกิจ ทั้งมิติการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยว โดย ททท.จะร่วมกับหอการค้าคัดเลือกเมืองรอง 10 จังหวัดขึ้นมา มีกำหนดเปิดตัวโครงการนี้ เดือน ม.ค.67 สำหรับภาพรวมแผนส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองของ ททท.ในปี 67 จะต่อยอดจากแคมเปญหลักของตลาดในประเทศ “365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทยเที่ยวได้ทุกวัน” สู่แคมเปญใหม่ “365 วัน มหัศจรรย์เที่ยวเมืองรอง” เร่งประชาสัมพันธ์ภายใต้แนวคิด “เปิดประสบการณ์ใหม่ เที่ยวเมืองรองมิรู้ลืม” มุ่งเน้นการบอกต่อประสบการณ์ทรงคุณค่า และสะท้อนอัตลักษณ์ของเมืองรอง ในเรื่องงานเทศกาลประเพณีและอาหารถิ่นทั้งนี้ ช่วง 9 เดือนแรกปี 66 พบว่า เมืองรอง 55 จังหวัด มีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางท่องเที่ยว 73.32 ล้านคน/ครั้ง เพิ่มขึ้น 34.47% เทียบกับช่วงเดียวกันปี 62 ก่อนโควิด-19 ระบาด ก่อให้เกิดรายได้จากการท่องเที่ยว 169,608 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.86% เทียบกับปี 62 โดยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการเดินทางท่องเที่ยว 2,313 บาทต่อคนต่อทริป เพิ่มขึ้น 3% “คาดว่าตลอดปี 66 ประเทศไทยจะมีรายได้การท่องเที่ยวในเมืองรองเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 40% เมื่อเทียบกับทั้งปี 62 ส่วนปี 2567 ประเมินว่ารายได้การท่องเที่ยวเมืองรองจะเติบโต 10-15% จากปี 66”น.ส.ฐาปนีย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ททท.ได้ส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่เมืองรอง 55 จังหวัด ซึ่งตามนิยามคือจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวไม่เกิน 4 ล้านคนต่อปี ภายใต้แนวคิดต่างๆ มาตั้งแต่ปี 58 ด้วยแนวคิด “12 เมืองต้องห้ามพลาด” จากนั้นในปี 59-61 ใช้แนวคิด “12 เมืองต้องห้ามพลาด Plus” ส่วนปี 62-63 แนวคิด “เมืองรอง ต้องลอง” ขณะที่ปี 64-65 แนวคิด “เมืองรองต้องไป” และล่าสุดปี 66-67 แนวคิด “เปิดประสบการณ์ใหม่ เที่ยวเมืองรองมิรู้ลืม” โดยหลังจาก ททท.ได้ดำเนินกลยุทธ์ส่งเสริมท่องเที่ยวเมืองรอง ทำให้ปัจจุบันบางจังหวัดมีนักท่องเที่ยวเกิน 4 ล้านคนแล้ว.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่