หมูเถื่อนพ่นพิษ ครม.มีมติเด้งฟ้าผ่า “สุริยา สิงหกมล” พ้นอธิบดีดีเอสไอ ไปนั่งตำแหน่งรองปลัดยุติธรรม แต่ยังไม่ตั้งใครแทน “เศรษฐา” ยัน รมว.ยุติธรรมเป็นผู้เสนอย้ายเอง ไม่ตอบว่าเกี่ยวกับคดีหมูเถื่อนหรือไม่ “ทวี สอดส่อง” แจงเหตุเสนอย้าย เพราะอธิบดีดีเอสไอเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ ไม่เกี่ยวกับคดีหมูเถื่อน คดียังต้องดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาต่อไป เจ้าตัวโพสต์เฟซบุ๊กดีเอสไอเปิดใจ “วิถีราชการ ทำใจอยู่ตลอดเวลา นับแต่มานั่งเป็นผู้บริหารสูงสุดที่นี่แล้วว่า ต้องถึงวันนี้ แต่เลือกทางเดินและวิถีตนเองตั้งแต่ต้น ไม่เสียใจเพราะทำเต็มที่แล้ว เป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานกับทุกท่าน”เด้งฟ้าผ่าอธิบดีดีเอสไอครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 28 พ.ย. น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายก รัฐมนตรี แถลงมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไปดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายของกระทรวงยุติธรรมเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และเป็นประโยชน์ต่อทางราชการขณะที่นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายก รัฐมนตรี ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ในที่ประชุม ครม.ไม่มีการอภิปรายใดๆ เป็นข้อเสนอของกระทรวงยุติธรรมเพื่อให้การบริหารราชการของกระทรวงมีความเรียบร้อย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ จึงปรับเรื่องบุคลากรตามที่เสนอมา ครม.เห็นชอบ ไม่มีการวิพากษ์วิจารณ์อะไรมาก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งแต่งตั้งบุคคลมาดำรงตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอ และยังไม่ได้แต่งตั้งใครรักษาการแทน แต่ตามกระบวนการคือ เมื่อไม่มีอธิบดี รองอธิบดีดีเอสไอจะเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนไปก่อนด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ชี้แจงว่า เหตุที่ต้องเสนอโยกย้ายครั้งนี้ สืบเนื่องจาก พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรัตน์ อธิบดีกรมพินิจฯถูกย้ายไปดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ศอ.บต. ทำให้ตำแหน่งอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนว่าง จำเป็นต้องเสนอย้าย พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล รองปลัดกระทรวงยุติธรรมไปดำรงตำแหน่งดังกล่าว และเนื่องจากตำแหน่งรองปลัดกระทรวงยุติธรรมมีความสำคัญต้องขับเคลื่อนงานนโยบายของกระทรวงในภาพรวม กำกับงานของกรมในกลุ่มภารกิจ รวมทั้งประสานงานหน่วยงานต่างกระทรวง พ.ต.ต.สุริยา มีประสบการณ์ผ่านงานระดับอธิบดีที่ปรึกษาหลายหน่วย เป็นผู้มีความรู้ความสามารถเหมาะสมกับตำแหน่งรองปลัดกระทรวงที่ว่างจากการเสนอแต่งตั้งครั้งนี้ โดยเฉพาะการยกระดับหลักนิติธรรมของประเทศ และการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในกระบวนการยุติธรรม เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม“การแต่งตั้งโยกย้ายของกระทรวงยุติธรรมครั้งนี้ คำนึงถึงความรู้ความสามารถของผู้รับแต่งตั้งโยกย้าย รวมถึงเอกภาพและความรู้ความสามารถในการบังคับบัญชา คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนและส่วนรวมเป็นสำคัญไม่มีการกลั่นแกล้งหรือมีอคติใดๆ รวมทั้งไม่เกี่ยวข้องกับคดีที่เป็นที่สนใจของสังคม ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้คือ คดีหมูเถื่อน คดีดังกล่าวจะดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมาจนถึงที่สุด ครอบคลุมผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดโดยยึดหลักกฎหมายเป็นสำคัญ” รมว.ยุติธรรมกล่าวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง กล่าวภายหลังการประชุม ก.ตร.ถึงกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติโยกย้าย พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ไปเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรมว่า รัฐมนตรีเป็นผู้เสนอมา ตามความเหมาะสม ถามย้ำว่าการโยกย้ายเกี่ยวข้องกับการเข้าตรวจหมูเถื่อนใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีไม่ตอบคำถาม ด้านความเคลื่อนไหวที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการโยกย้ายครั้งนี้เริ่มมีกระแสมาตั้งแต่วันที่ 12 พ.ย.จากกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เรียก พ.ต.ต.สุริยาไปตำหนิกลางสนามบินสุวรรณภูมิ เรื่องการปราบปรามคดีลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนล่าช้า ทั้งที่นายเศรษฐาสั่งการลงไปนานแล้ว หลังจากกรณีดังกล่าวจึงเริ่มมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงการโยกย้ายมาอย่างต่อเนื่องก่อนหน้านี้เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 27 พ.ย. พ.ต.ต.สุริยานำกำลังเข้าพบผู้บริหารบริษัทสยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) เพื่อขอหลักฐานการดำเนินคดีขบวนการนำเข้าหมูเถื่อนเพิ่มเติม เนื่องจากมีข้อมูลว่า เป็นผู้รับซื้อชิ้นส่วนหมูแช่แข็งจากบริษัทที่ตกเป็นผู้ต้องหา และช่วงสัปดาห์หน้าดีเอสไอมีหมายจะเปิดปฏิบัติการตรวจค้นสถานบริการธุรกิจค้าปลีกชื่อดังอีกแห่ง ส่วนเสียงวิพากษ์วิจารณ์ภายในกรมสอบสวนคดีพิเศษ ถึงการเด้งอธิบดีในครั้งนี้ ไม่ได้สร้างความแปลกใจกับเจ้าหน้าที่ในกรมสอบสวนคดีพิเศษมากนัก เพราะมีการคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้วว่า ไม่นานจะต้องเกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น เนื่องจากเริ่มมีเค้าลางและเสียงซุบซิบมาหลายวันแล้วขณะที่เพจเฟซบุ๊กของกรมสอบสวนคดีพิเศษเผยแพร่ภาพ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมข้อความ “วิถีราชการ ทำใจอยู่ตลอดเวลา นับแต่มานั่งเป็นผู้บริหารสูงสุดที่นี่แล้วว่า ต้องถึงวันนี้ แต่ตนเลือกทางเดินและวิถีตนเองตั้งแต่ต้น ไม่เสียใจเพราะทำเต็มที่แล้ว เป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานกับทุกท่าน”มีรายงานด้วยว่าเบื้องต้นกระทรวงยุติธรรม มอบหมายให้ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ขึ้นนั่งรักษาราชการแทนในตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษไปก่อน เนื่องจากมีอันดับอาวุโสสูงสุด จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงมีรายงานอีกว่า นอกจากการถูกตำหนิว่าดำเนินการล่าช้าเกี่ยวกับคดีหมูเถื่อนแล้ว กรมสอบสวนคดีพิเศษยังอยู่ระหว่างดำเนินการคดีโกงหุ้นบริษัทมอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) และบริษัทสตาร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หลังดำเนินการมาเป็นปี ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าดำเนินการล่าช้าไม่คืบหน้าเท่าที่ควร ทั้งที่ความเสียหายมูลค่ามหาศาลหลักแสนล้านบาท และสร้างความเสียหายให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยด้วยที่ทำเนียบรัฐบาล ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์กรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สั่งเด้งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เกี่ยวกับเรื่องหมูเถื่อนหรือไม่ว่า ไม่ใช่เป็นการเด้ง แต่เป็นการบริหารราชการของกระทรวงยุติธรรม เป็นเรื่องปกติที่ทุกกระทรวงจะมีการโยกย้าย เมื่อถามย้ำว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องหมูเถื่อนใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ไม่เกี่ยว ท่านก็ทำหน้าที่มาดีอยู่แล้วด้านนายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องการแก้ปัญหาหมูเถื่อน กระทรวงกลาโหมอาจเข้าไปช่วยยับยั้ง ปราบปราม สกัดของกลางที่ยึดมาได้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไม่มีที่ฝังกลบ ก็อำนวยความสะดวกด้วยการไปใช้ที่ของกองทัพในการฝังกลบส่วนนายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการปราบปรามหมูเถื่อนว่า หลังจากมีการจับกุมมาได้แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำลายของกลาง และอยู่ระหว่างตรวจสอบว่า หมูเถื่อนที่นำเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย ค้างอยู่ที่ท่าเรืออีกเท่าไหร่ที่รัฐสภา นายศักดินัย นุ่มหนู สส.ตราด พรรคก้าวไกล ฐานะประธานคณะกรรมาธิการเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงมติ ครม.โยกย้าย พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไปเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม ถูกวิจารณ์เป็นเพราะการแก้ปัญหาลักลอบนำเข้าเนื้อหมูเถื่อนไม่คืบหน้าว่า ก่อนหน้านี้ กมธ.ติดตามการแก้ปัญหาการลักลอบนำเข้าเนื้อสัตว์ผิดกฎหมาย เชิญเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมปศุสัตว์ กรมศุลกากร กรมการค้าภายในมาชี้แจง แต่ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า มีบุคลากรหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ แต่จากการติดตามพบว่า เรื่องการนำเข้าเนื้อหมูเถื่อนที่ดีเอสไอเข้าไปตรวจสอบอยู่ขณะนี้ แต่กลับมีคำสั่งย้าย ดูเหมือนว่าจะไปเจอของแข็งหรือไม่ถามว่าจากข้อมูลที่มีประเมินได้หรือไม่ว่ากรณีอธิบดีดีเอสไอถูกย้าย เป็นเพราะเชือดไก่ให้ลิงดู หรือทำงานแล้วเจอตอ นายศักดินัยกล่าวว่า ยังไม่สามารถประเมินได้ แต่กรณีแก้ปัญหาหมูเถื่อนนั้นปฏิเสธไม่ได้ว่ามีประเด็นผู้มีอิทธิพล เพราะการทำงานของดีเอสไอต้องแสวงหาข้อเท็จจริง ล่าสุดอยู่ระหว่างการตรวจสอบบริษัทใหญ่ แต่กลับมีคำสั่งเด้ง ดังนั้นประเด็นดังกล่าวมีสิ่งที่ต้องติดตาม วันที่ 29 พ.ย. กมธ.นัดประชุมหารือจะเสาะแสวงหาต้นตอปัญหาที่เกิดขึ้น และกระบวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ และปัญหาอื่นของเกษตรกร เช่น สินค้าเกษตรบางตัวราคาตกต่ำ โรคระบาดมะพร้าว การเพาะเลี้ยงสัตว์ รวมถึงหมูเถื่อนด้วย จะเชิญหน่วยงานต่างๆมาสอบหาข้อเท็จจริงถามว่าให้น้ำหนักการโยกย้ายอธิบดีดีเอสไอไปทางใดมากกว่า ระหว่างการเมืองหรือการแก้ปัญหาที่ไม่ได้ผล นายศักดินัยตอบว่า ไม่กล้าให้น้ำหนักเพราะพูดยาก แต่ในฐานะ กมธ.ต้องเดินหน้าพิจารณาข้อเท็จจริงว่ามีประเด็นที่บุคลากรของรัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ การโยกย้ายที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ชวนให้สงสัย ในฐานะ กมธ.จะตามเรื่องนี้ต่อในกระบวนการดำเนินคดี การลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนต้องมีคนผิด รวมถึงกระบวนการที่อาจมีข้อบกพร่อง มีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องหรือไม่อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่