รัฐบาลจะไม่พูดถึงการประกันราคา หรือการรับจำนำพืชผลอีกต่อไปจริงหรือ? นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ประกาศบนเวที “ไทยรัฐฟอรัม” นอกจากสัญญาว่าจะทำให้จีดีพีของไทย โตขึ้นปีละอย่างน้อย 5% จะแจกเงินคนไทยที่อายุ 16 ปีขึ้นไป คนละหมื่นบาท เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์หน้านายกรัฐมนตรีสัญญาว่าจะเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร ต้องให้ความรู้แก่เกษตรกรอย่างรวดเร็วที่สุด เพื่อเพิ่มผลผลิตต่อไร่ ขณะนี้ไม่ว่าจะเป็นข้าวหรือยางพาราของไทย ล้วนแต่ราคาตํ่ากว่า ประเทศเพื่อนบ้าน แต่รัฐบาลนี้จะไม่พูดถึงการประกันราคา การรับจำนำ หรือการจ้างผลิต ซึ่งเป็นวาทกรรมคำประกาศของรัฐบาลที่จะไม่แก้ไขราคาพืชผลตกตํ่า ด้วยการประกันราคาหรือรับจำนำ ตรงกับข้อเสนอของนายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย 1 ข้อ ในทั้งหมด 7 ข้อ ข้อที่ 6 สมาคมชาวนาอยากให้รัฐบาลปรับราคาให้เป็นไปตามกลไกตลาด ส่วนข้อเรียกร้องอื่นๆ มีทั้งขอให้บริหารแหล่งนํ้าแก้ภัยแล้งรวมถึงการพักหนี้เกษตรกร แม้จะมีเสียงท้วงติงจากนักวิชาการ ว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ยั่งยืน และขอให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้เป็น “บำนาญ” ของชาวนาที่ทำมาหากิน 10 ปี และมีอายุครบ 60 ปี ให้มีบำนาญเดือนละ 3,000 บาท และขอเงินสนับสนุนการทำนาไร่ละ 2,000 บาท ไม่เกิน 20 ไร่จากคำประกาศของนายกรัฐมนตรี ชัดเจนว่า รัฐบาลจะไม่อุ้มราคาพืชผล ด้วยการประกันราคา ตามที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ สดุดีว่าใน 4 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลใช้งบเพียง 2.18 แสนล้านบาท ประกันราคาพืชผล เกษตรกรได้ผลประโยชน์เต็มๆ ต่างจากการรับจำนำสินค้าเกษตรอดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีพาณิชย์ ไม่ยอมระบุชื่อโครงการรับจำนำ ที่ก่อความเสียหายมโหฬาร เกือบล้านล้านบาท ยังใช้หนี้ไม่หมดจนถึงขณะนี้ แต่คนไทยทั่วไปรู้กันทั่วว่า หมายถึงโครงการรับจำนำข้าว ภายใต้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่ทำให้รัฐเสียหายมหาศาล และมีการทุจริตมโหฬารเป็นการทุจริตที่เกิดขึ้นจากการจำนำข้าวไว้ในราคาที่สูงกว่าตลาดมาก ออกมาขายในราคาที่ขาดทุน จนโครงการเดินหน้าต่อไปไม่ได้ มีการกล่าวอ้างว่าบางส่วนขายให้ต่างประเทศ แบบรัฐต่อรัฐ แต่ศาลไม่เชื่อ จึงพิพากษาให้จำคุกนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ข้าราชการระดับสูง และนักธุรกิจคนละหลายสิบปี.คลิกอ่านคอลัมน์ "บทบรรณาธิการ" เพิ่มเติม