เจ้าคณะตำบลเขาหินซ้อน โร่เคลียร์ปัญหาเจ้าสำนักวิปัสสนาไล่ตะเพิดพระสงฆ์ 3 รูปกับเณร 5 รูปออกจากสำนัก ต้องหอบข้าวของพะรุงพะรังไปเดินเตร่อยู่ริมถนนดึกๆดื่นๆหาที่จำวัดชั่วคราวจนมีชาวบ้านพบเห็นกลายเป็นข่าวใหญ่โต เผยมีปัญหากับเจ้าสำนักเรื่องเงินกฐินกว่า 3 แสนบาท ภายหลังเจรจาตกลงกันได้ข้อสรุปให้พระเณรทั้งหมดกลับมาอยู่ที่สำนัก ห้ามออกไปบิณฑบาตนอกพื้นที่ ส่วนเจ้าสำนักยอมลาออกจากตำแหน่งแล้วย้ายไปจำวัดที่อื่นพระสงฆ์สามเณรถูกเจ้าสำนักวิปัสสนาขับไล่จนต้องออกมาเดินกลางถนนดึกๆดื่นๆเมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 9 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ว่า มีกลุ่มพระสงฆ์และสามเณรหลายรูปพร้อมเด็กวัด ถือสิ่งของเครื่องใช้ทั้งบาตร พัดลม และสัมภาระส่วนตัวพะรุงพะรัง เดินเตร่อยู่ริมถนนสาย 304 มุ่งหน้าขาเข้ากรุงเทพฯ สอบถามเบื้องต้นทราบว่าถูกเจ้าสำนักขับไล่ออกจากสำนักวิปัสสนาผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบบริเวณหน้าตลาดเขาหินซ้อน พบพระสงฆ์ 3 รูป สามเณร 5 รูป และเด็กวัด 1 คน เดินเรียงแถวอยู่ริมถนน เข้าไปสอบถามพระนพดล สุชาโต หนึ่งในพระสงฆ์เผยว่า จำวัดอยู่สำนักวิปัสสนาแสงธรรมคีรี หมู่ 1 ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม โดนพระไพศาล วิสาโล หัวหน้าคณะสงฆ์สำนักวิปัสสนา บีบบังคับนำตำรวจมาขับไล่ให้ออกจากสำนักวิปัสสนา สาเหตุมาจากก่อนหน้านี้พวกตนพากันไปร้องเรียนต่อเจ้าคณะอำเภอว่าพระไพศาล เจ้าสำนักมีความประพฤติไม่เหมาะสม แต่หลังจากร้องเรียนแล้วไม่ได้รับความเป็นธรรม เหมือนกับพระผู้ใหญ่อุ้มกันอยู่เลยต้องพากันออกมา กลัวไม่ปลอดภัยเพราะเจ้าสำนักรูปนี้เป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ขณะที่พระวายุสันติธรรมโม พระอีกรูปเล่าว่า พากันไปร้องเรียนว่าพระไพศาลรับเงินกฐินของปี 65 ยอดเงินประมาณ 3 แสนบาท แล้วออกจากสำนักหายไป 7-8 เดือน กระทั่งช่วงกลางเดือน ก.ค.66 กลับมาที่สำนัก แต่พระในสำนักไม่ยอมรับ ไปร้องเรียนต่อเจ้าคณะตำบลเมื่อช่วงบ่าย แต่พอตกเย็นมีหนังสือจากเจ้าคณะตำบลให้ย้ายพระออกจากสำนัก พระไพศาลพาตำรวจมาบอกให้พวกตนทั้งหมดออกไปก่อนเที่ยงวันที่ 10 ส.ค. ไม่เช่นนั้นจะดำเนินคดีข้อหาบุกรุก ไม่เข้าใจว่าบุกรุกยังไงทั้งที่บวชที่สำนักวิปัสสนาแห่งนี้มา 7 ปีแล้ว แค่ร้องเรียนถึงกับโดนไล่ออกตอนนี้เป็นช่วงเข้าพรรษาด้วย ตัดสินใจเก็บข้าวของพากันออกมายังไม่รู้จะเดินไปไหน คงต้องไปขอจำวัดอยู่ที่วัดต่างตำบลก่อนและจะดำเนินการเรียกร้องความยุติธรรมกับพระผู้ใหญ่ตามลำดับชั้นต่อไปช่วงเช้าวันที่ 10 ส.ค. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำนักวิปัสสนาแสงธรรมคีรีบรรยากาศเงียบเหงา ไม่พบพระสงฆ์ภายในวัด พบเพียงคนงานที่เป็นแม่ครัวชื่อนางนิ่มนวล หมี่ยุทธ อายุ 61 ปี เผยว่า ไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดว่าทำไมเจ้าสำนักถึงขับไล่พระและเณร ยอมรับว่าตนและชาวบ้านไม่ชอบเจ้าสำนักรูปนี้เนื่องจากมีพฤติกรรมไม่โปร่งใส ตั้งแต่ปีที่แล้วชาวบ้านจัดหากฐินมาเข้าสำนักแต่ปรากฏว่าเจ้าสำนักเก็บเงินไปเงียบ พยายามสอบถามเพื่อต้องการให้นำเงินบุญกฐินมาจัดสร้างสิ่งปลูกสร้างภายในสำนัก แต่เจ้าสำนักบ่ายเบี่ยงมาตลอด อีกทั้งมีความพยายามนำตำรวจมากดดันพระในสำนัก รวมทั้งตนและญาติโยมคนอื่นๆไม่ให้มายุ่งเกี่ยวต่อมาในช่วงบ่าย พระครูสิทธิธรรมธานี เจ้าคณะตำบลเขาหินซ้อน ประสานสำนักพุทธ นำรถตู้ไปรับพระสงฆ์และสามเณรทั้งหมดที่เมื่อคืนไปจำวัดอยู่ที่วัดนิโครธาราม อ.เมืองฉะเชิงเทรา กลับมาที่สำนักวิปัสสนาแสงธรรมคีรี มีพระชั้นผู้ใหญ่ ปลัดอำเภอพนมสารคาม ตำรวจ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมหาทางออก ตอนแรกคุยกันไม่รู้เรื่องเนื่องจากพระทั้ง 3 รูปถูกกดดันจี้ประเด็นว่าทำไมพากันออกจากสำนักช่วงกลางดึกจนตกเป็นข่าวใหญ่โต พระนพดลพยายามให้เหตุผลว่าถูกคำสั่งขับไล่ กระทั่งภายหลังสามารถพูดคุยตกลงกันได้เกี่ยวกับปัญหาภายในสำนักวิปัสสนา มีข้อสรุปพร้อมเซ็นชื่อตกลงกัน โดยพระนพดลและพระอีก 2 รูปรวมทั้งสามเณรห้ามออกไปบิณฑบาตนอกพื้นที่หรือไปกิจใดๆต้องรายงานเจ้าคณะตำบลตามลำดับ ส่วนพระไพศาล ในฐานะหัวหน้าคณะสงฆ์สำนักวิปัสสนาแสงธรรมคีรี ยอมลาออกจากตำแหน่งแล้วไปหาจำพรรษาที่วัดในเมืองฉะเชิงเทราก่อน