ผู้สื่อข่าวรัฐสภาไปถาม อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กรณีมีข่าวว่า มีการซื้อ ส.ส.งูเห่า จากพรรคการเมืองต่างๆเอาไว้ เพื่อตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย เป็นจำนวนถึง 60 คน จ่ายคนละ 100 ล้านบาท โดยได้รับการปฏิเสธจาก หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยทันทีและกล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยว่า มีแต่ควายเท่านั้น ที่จะจ่ายหัวละ 100 ล้าน กลายเป็นวลีเด็ด เอาไปขยายความในโลกออนไลน์กันอย่างถึงพริกถึงขิงเรื่องที่คาราคาซังเกี่ยวกับข้อร้องเรียนในการ ซื้อเสียง อยู่ใน กกต. ที่ แสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.ยอมรับว่ามีมากกว่า 82 เรื่อง ที่ ส.ส.จะต้องถูกพิจารณาการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง โดยการซื้อเสียงในช่วงการเลือกตั้งที่ผ่านมาก็มีข่าวว่า มีการจ่ายเงินค่าตัว ส.ส.เพื่อนำไปใช้ในการเลือกตั้ง หัวละ 30-60 ล้านบาท จะเอาไปซื้อเสียงหรือเก็บเอาไว้ในกระปุกออมสิน เป็นเพียงข่าวและข้อสันนิษฐาน จะเป็นเรื่องเท็จหรือเรื่องจริง ไม่มีใครออกมายอมรับสารภาพอยู่แล้ว เพราะเกี่ยวข้องกับอนาคตทางการเมืองโดยตรงแม้แต่การตั้งรัฐบาลทุกครั้งก็มีข่าวว่า พรรคแกนนำรัฐบาล ไปซื้อพรรคเล็กเอาไว้เป็นเสียงสนับสนุนในการตั้งรัฐบาล จะมากจะน้อยขึ้นอยู่กับสถานการณ์และความต้องการจำนวนเสียง ส.ส. ที่จะยกมือสนับสนุนการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ทุกครั้ง ก็มีข่าวการแจกกล้วยกันบานตะไท จะจริงจะเท็จไม่รู้ แต่มีการย้ายพรรคของ ส.ส.ที่ถูกระบุว่า รับกล้วย ไปแล้ว ซึ่งอาจจะไม่เกี่ยวกัน หรือเกี่ยวกันก็ได้มีศัพท์ทางรัฐศาสตร์ เป็นคำศัพท์ทางวิชาการ มันนี่ โพลิติก ภาษาชาวบ้านเรียกว่า ใช้เงินซื้อได้ทุกอย่าง มีมาตั้งแต่ประเทศไทยเป็น ระบบทุนนิยมผูกขาด ถึงขนาดคำนวณกันเป็นมาตรฐานว่าธนบัตรใบละ 1,000 บาท จะมีน้ำหนักที่ 1.08 กิโลกรัม ใช้วิธีชั่งกิโล ไม่ต้องมานับกันให้มีพิรุธ หรือขนาดคำนวณได้ว่า กระเป๋า เจมส์บอนด์ 1 ใบ ขนาดมาตรฐานจะใส่เงินได้กี่ล้าน ไม่ต้องมานับให้เสียเวลา จ่ายกันจนชำนาญขนาดนั้นเลยเพราะฉะนั้นการตั้งรัฐบาล ก้าวไกล เพื่อไทย เที่ยวนี้ก็มีข่าวการซื้อตัว ส.ส.-ส.ว. จึงเป็นเรื่องที่คุ้นเคยไม่ใช่เรื่องแปลก โดยเฉพาะวงสนทนาของ ส.ว.กลุ่มต่างๆ จะคุยเรื่องเหล่านี้อย่าง ละเอียด ถึงขนาดระบุตัวบุคคลได้เลย มีนายทุนคนนั้นมาวิ่งซื้อ ส.ว.ให้พรรคนี้เพราะไม่ต้องการให้พรรคนั้นเข้ามามีอำนาจในฝ่ายบริหาร ไม่อยากให้มาเป็นรัฐบาลต่อไปอีก เพราะถูกเบี้ยว ถูกรีดถูกไถมาตลอด ถึงขนาดว่าต้องออกมาฟ้องสังคมถึงการทุจริตรีดไถ และสนับสนุนขั้วการเมืองที่อยู่ตรงกันข้ามกับพรรคนี้ เดิมที่จะตั้งพรรคการเมืองเอง เพื่อสู้กันในเวทีการเมืองโดยตรงด้วยซ้ำไป เพราะการเมืองโหดร้ายเกินไป ทำให้ไม่สามารถแยกกันอย่างชัดเจน ระหว่างเศรษฐกิจกับการเมืองเรื่องที่นักการเมืองรับเงินหรือรับสินบน ปรากฏหลักฐานชัดเจน ถึงขนาดติดคุกติดตะรางมีมาแล้วในอดีต ซึ่งก็ไม่ใช่นักการเมืองเท่านั้น คนในกระบวนการยุติธรรมที่ฉาวโฉ่ก็มาก จะเป็นคนหรือ เป็นควายก็ไม่ต่างกัน.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.th