“ตำรวจสอบสวนกลาง” จับมือ “ป.ป.ท.” เปิดปฏิบัติการ “stop cyber corruptions” บุกจับเจ้าหน้าที่การเงิน อบต. 5 แห่ง ใน 5 จังหวัด แอบโอนเงินหลวงเข้ากระเป๋าเสียหายรวมกว่า 84 ล้านบาท ส่วนใหญ่มีปัญหาเพราะการมอบหมายผู้รับผิดชอบเรื่องเงินหละหลวมไม่มีการตรวจสอบ บางคนสารภาพก่อเหตุเพราะติดพนันออนไลน์ อีกคดีตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนรวบปลัดสาวเมืองกระบี่เรียกรับเงิน 1 แสนบาท ค่าต่อใบอนุญาตโรงแรม อ้างต้องเอาไปใช้ดูแลนาย หลังถูกล่อจับขณะรับเงินคาร้านกาแฟยังปากแข็งปฏิเสธ ผวจ.กระบี่เต้น สั่งย้ายด่วนเข้ากรุ พร้อมตั้งกรรมการสอบแล้ว ยันจะดำเนินการทางวินัยอย่างตรงไปตรงมาตำรวจสอบสวนกลางลุยจับข้าราชการทุจริตประพฤติมิชอบหลายคดี คดีแรกเปิดเผยขึ้นที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 14 มิ.ย. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พ.ต.อ.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ รรท.ผบก.ปปป. นายกฤษณ์ กระแสเวส รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผอ.กองปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 2 ป.ป.ท. และ พ.ต.ต.พิษณุ เอี่ยมสวัสดิ์ผอ.ผู้บริหารฝ่ายสืบสวน ธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) ร่วมแถลงผลปฏิบัติการ stop cyber corruptions เข้าจับกุมเจ้าหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จำนวน 5 แห่ง ทุจริตยักยอกเงินหลวงเบิกจ่ายเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เบื้องต้นพบความเสียหายกว่า 84 ล้านบาทพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช เผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป.รับการประสานจากเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ท.ที่ตรวจสอบพบความผิดปกติการเบิกจ่ายเงินของ อปท.หลายพื้นที่ทั่วประเทศ มีการโอนเงินผ่านระบบอินเตอร์เน็ตแบงกิ้ง ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินและบัญชีทำการยักยอกเงินงบประมาณของทางราชการไปใช้จ่ายส่วนตัว ใช้อำนาจหน้าที่ที่สามารถเข้าถึงรหัสการเบิกถอนเงินจากธนาคารได้ หลังจากก่อนหน้านี้เคยจับกุมเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินและบัญชีของเทศบาลตำบลลาดยาว จ.นครสวรรค์ ยักยอกเงินหลวงไปถึง 215 ครั้ง รวมเป็นเงินกว่า 15 ล้านบาท และเจ้าหน้าที่การเงินและบัญชีของ อบต.วังโพรง จ.พิษณุโลก ยักยอกเงินไป 132 ครั้ง เป็นเงินกว่า 44 ล้านบาท“ทำให้เปิดปฏิบัติการเพิ่มเติมอีกใน 5 จังหวัดที่พบความผิดลักษณะเดียวกันคือ เจ้าพนักงานการเงินและบัญชีชำนาญการ อบต.นิลเพชร จ.นครปฐม ยักยอกเงิน 23 ครั้ง เป็นเงินกว่า 8 ล้าน 3 แสนบาท ผู้ช่วยเจ้าพนักงานการเงินและบัญชี อบต.หนองหัวโพ จ.สระบุรี ยักยอกเงิน 84 ครั้ง เป็นเงินกว่า 4 ล้าน 9 แสนบาท ผู้ช่วยนักพัฒนาชุมชนปฏิบัติหน้าที่ผู้ช่วยเจ้าพนักงานการเงินและบัญชี อบต.ห้วยยายจิ๋ว จ.ชัยภูมิ ยักยอกเงิน 60 ครั้ง เสียหายกว่า 5 ล้าน 8 แสนบาท นักวิชาการเงินและบัญชี อบต.โคกหล่าม จ.ศรีสะเกษ ยักยอกเงิน 8 ครั้ง เป็นเงินกว่า 5 แสน 4 หมื่นบาท และผู้อำนวยการกองคลัง อบต.นาเขลียง จ.นครศรีธรรมราช ยักยอกเงิน 59 ครั้ง เป็นเงินกว่า 4 ล้านบาท เบื้องต้นพบว่าโอนเงินไปให้ภรรยาและลูกจ้าง ต้องถูกดำเนินคดีฐานะผู้สนับสนุนการกระทำความผิดด้วย” ผบช.ก.กล่าวพล.ต.ท.จิรภพกล่าวอีกด้วยว่า สำหรับการตรวจจับกุมครั้งนี้ เบื้องต้นพบความเสียหายทั้งหมดกว่า 84 ล้านบาท เชื่อว่ายังมีหน่วยงานอีกหลายแห่งที่ยังลักลอบก่อเหตุแบบนี้อยู่ หลังจากนี้จะร่วมสืบสวนกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจับกุมต่อไป โดยได้รับความร่วมมือจากธนาคารกรุงไทยฯฐานะเจ้าของบัญชีที่ใช้เบิกจ่ายเงินของทางราชการจนนำมาสู่การจับกุมด้าน พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา เผยว่า จากการตรวจสอบประวัติการใช้เงินของผู้ต้องหาทั้งหมดพบด้วยว่า ส่วนใหญ่จะเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเล่นพนันออนไลน์ หลังจากตรวจสอบย้อนหลังไปตั้งแต่ปี 2564 รวมทั้งตรวจสอบบัญชีเงินเดือนของผู้ต้องหาพบว่าไม่มีความสอดคล้องกับจำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชีด้วย สอบสวนพบว่าผู้ต้องหาทั้งหมดที่ถูกจับกุมต่างรับว่า เมื่อได้รหัสผ่านการควบคุมบัญชีมาแล้วจะปิดการแจ้งเตือนการตัดเงินออก ทำให้ผู้ดูแลตรวจสอบในระดับที่สูงกว่าไม่สามารถรับรู้ได้ว่า มีเงินไหลออกจากบัญชี รวมทั้งบางคนมอบรหัสผ่านให้กับคนที่ดูแลบัญชีด้วยความไว้ใจ บางคนเป็นญาติกันเองแต่ไม่ยอมทำตามระบบที่วางไว้ ทำให้เกิดความเสียหายเป็นจำนวนมากแบบนี้ส่วนนายกฤษณ์ กระแสเวส เผยว่า การตรวจจับครั้งนี้เนื่องจากตรวจพบความผิดปกติในระบบการเบิกจ่ายผ่านบัญชีธนาคาร สำหรับระบบการเบิกจ่ายของ อบต.แต่ละแห่งจะต้องมีผู้เกี่ยวข้องอย่างน้อย 3 คน และต้องรายงานบัญชีที่โอนเงินไปด้วย แต่ส่วนใหญ่ที่พบคือ ผู้ที่ต้องร่วมตรวจสอบการโอนเงินจะมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ทำธุรกรรมเพียงคนเดียวทั้งหมด จนกลายเป็นช่องว่างเกิดการทุจริตแบบนี้รายชื่อผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมประกอบด้วย นายยุทธนา บุญนำ อายุ 42 ปี ผอ.กองคลัง อบต.นาเขลียง จ.นครศรีธรรมราช น.ส.นฤมล ศรีรอดไทร อายุ 34 ปี เจ้าพนักงานการเงินและบัญชีชำนาญการอบต.นิลเพชร จ.นครปฐม น.ส.ปนัดดา ศรีด้วง อายุ29ปี นักวิชาการเงินและบัญชี อบต.โคกหล่าม จ.ศรีสะเกษ น.ส.บัวสวรรค์ วงษ์สีดา อายุ 35 ปี ผู้ช่วยเจ้าพนักงานการเงินและบัญชี อบต.หนองหัวโพ จ.สระบุรี น.ส.ณัฐชยา สุขสวน อายุ 27 ปี ผู้ช่วยนักพัฒนาชุมชนปฏิบัติหน้าที่ผู้ช่วยเจ้าพนักงานการเงินและบัญชี อบจ.ห้วยยายจิ๋ว จ.ชัยภูมิอีกคดี พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พ.ต.อ.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ รรท.ผบก.ปปป. นายกฤษณ์ กระแสเวส รองเลขาธิการ ป.ป.ท. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผอ.กองปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 2 ป.ป.ท. แถลงจับกุม น.ส.ฐิฌาพร คงเหมือน อายุ 42 ปี ปลัดอำเภอเมืองกระบี่ ข้อหาเป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดฯ และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ หลังถูกจับกุมบริเวณหน้าร้านกาแฟในพื้นที่ ต.ปากนํ้า อ.เมืองกระบี่พ.ต.อ.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ เผยว่า เมื่อเดือน ส.ค.2565 มีผู้เสียหายประกอบธุรกิจโรงแรมที่ ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ มอบหมายให้ผู้จัดการไปยื่นคําร้องขอต่อใบอนุญาตธุรกิจโรงแรม และขออนุญาตเพิ่มจำนวนห้องพักโรงแรม กับเจ้าหน้าที่อำเภอเมืองกระบี่ ปรากฏว่าขณะนั้น น.ส.ฐิฌาพรปฏิบัติราชการแทนนายอำเภอเมืองกระบี่ เป็นผู้มีอำนาจลงนามในหนังสือรับรองการยื่นเรื่องขอต่อใบอนุญาตฯ หลังยื่นคําร้องผ่านไปหลายเดือนแล้วโรงแรมยังไม่ได้รับเอกสารการต่ออายุใบอนุญาต“จนถึงเดือน พ.ค. น.ส.ฐิฌาพรแจ้งมาว่า การต่อใบอนุญาตต้องมีค่าใช้จ่ายเป็นเงิน 1 แสนบาท ให้ผู้เสียหายนํามามอบให้ อ้างว่านำไปใช้ดูแลเจ้านายระดับสูง หากไม่นำมาให้จะไม่ส่งเรื่องขึ้นไป ผู้เสียหายเห็นว่าเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายจึงเข้าร้องทุกข์ที่ บก.ปปป.จากนั้นวางแผนจับกุม นัดหมายให้ผู้ต้องหามารับเงินที่ร้านกาแฟในพื้นที่เมืองกระบี่ ถึงกำหนดนัดหมายผู้ต้องหาเดินทางมารับเงินของกลาง เจ้าหน้าที่แสดงตัวจับกุม สอบสวน น.ส.ฐิฌาพรให้การปฏิเสธ นำตัวส่ง สภ.เมืองกระบี่ ลงบันทึกประจําวัน ก่อนมอบหมายให้พนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปปป.ดําเนินคดีต่อไป” พ.ต.อ.ประสงค์กล่าวที่ จ.กระบี่ นายภาสกร บุญญลักษม์ ผวจ.กระบี่ กล่าวว่า จังหวัดได้รับรายงานเรื่องว่ามีตำรวจมาล่อซื้อและจับกุมปลัดอำเภอเมืองกระบี่เรื่องการเรียกรับประโยชน์ ในเรื่องนี้ตนทำรายงานเข้าไปยังกรมการปกครอง และสั่งการด่วนให้ปลัดคนดังกล่าวเข้ามาช่วยราชการที่ทำการปกครอง จ.กระบี่ พร้อมตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการทางวินัยควบคู่ไป ส่วนทางอาญาเป็นหน้าที่ทางตำรวจดำเนินการไป หลังจากนี้ผลสอบจะได้ข้อสรุปอย่างไรจะรายงานให้กระทรวงทราบอีกครั้ง ยืนยันว่าเรื่องการทุจริตในพื้นที่ จ.กระบี่ ตนสั่งการเป็นเรื่องสำคัญอยู่แล้ว หากตรวจสอบพบไม่ว่าเจ้าตัวจะปฏิเสธหรือไม่ก็ตาม เราต้องดำเนินการสอบสวนอย่างเป็นธรรมและโปร่งใสที่สุด จะไม่มีการปกป้องข้าราชการที่กระทำความผิด ไม่ว่าจะมาจากสังกัดใดก็ตาม