สับปะรดห้วยมุ่น สินค้าเกษตรขึ้นชื่อของจังหวัดอุตรดิตถ์ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2556 มีแหล่งสำคัญอยู่ที่บ้านห้วยโป่ง, บ้านห้วยมุ่น ต.ห้วยมุ่น อ.น้ำปาด และบ้านนาผักฮาด ต.น้ำไผ่ อ.บ้านโคกความเป็นมาของสับปะรดห้วยมุ่นมาจากชาวบ้านได้นำสับปะรดพันธุ์ปัตตาเวียมาปลูกใน ต.ห้วยมุ่น แล้วเกิดการกลายพันธุ์ มีลักษณะเด่นแตกต่างจากพันธุ์ดั้งเดิม โดยเฉพาะรสชาติหวานอร่อย ตาไม่ลึก ทำให้มีส่วนของเนื้อมาก ผลค่อนข้างเล็ก รับประทานแล้วไม่ระคายคอในช่วงเริ่มต้นเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญที่จะให้เกิดสถานการณ์ภัยแล้ง สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 2 พิษณุโลก (สศท.2) ลงพื้นที่สำรวจสถานการณ์ผลิตสับปะรดห้วยมุ่น คาดว่าปีนี้จะมีเนื้อที่ปลูก 19,366 ไร่ เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 11.14 เนื่องจากการคลี่คลายของสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 การขนส่งตลาดทั้งในและต่างประเทศเริ่มกลับสู่สภาวะปกติ เกษตรกรจึงขยายพื้นที่ปลูกมีเนื้อที่เก็บเกี่ยว 10,774 ไร่ ลดลงจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 38.01เนื่องจากมีเนื้อเสียหายมากถึง 6,607 ไร่ จากสถานการณ์ภัยแล้งฝนทิ้งช่วงมาตั้งแต่ปลายปี 2565 ต่อเนื่องยาวนานมาจนถึงพฤษภาคม 2566 ทำให้ลำต้นและใบเหลืองแห้ง มีผลหักคาต้น เกษตรกรต้องปล่อยทิ้ง ไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ในทุกแหล่งผลิตมีผลผลิตรวม 39,594 ตัน ลดลงจากปี 2565 ร้อยละ 39.73 ได้ผลผลิตเฉลี่ยไร่ละ 3,675 กก. ลดลงจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 2.78 เนื่องจากสภาพอากาศร้อนจัด ทำให้ต้นไม่สมบูรณ์ ผลแคระแกร็นไม่ขยายขนาดเพิ่มผลผลิตจะออกสู่ตลาด 2 ช่วง พฤษภาคม-สิงหาคม จะออกมากมิถุนายน-กรกฎาคม ประมาณร้อยละ 75 ของผลผลิตทั้งหมด และช่วง พฤศจิกายน-ธันวาคม ร้อยละ 25 ของผลผลิตทั้งหมดราคาที่เกษตรกรขาย ณ ไร่นา เกรดพรีเมียม (เนื้อหนึ่ง) รวมจุก กก.ละ 15-18 บาท เกรดพรีเมียม (เนื้อสอง) รวมจุก กก. ละ 10 บาท ส่วนสับปะรดป้อนโรงงาน หนักผลละ 1.2-1.5 กก. กก.ละ 8 บาท ขนาดน้ำหนักน้อยกว่า 1.2 กก. จะอยู่ที่ 2.5-3 บาทปีนี้ราคาสับปะรดห้วยมุ่นราคาค่อนข้างดี เนื่องจากผลผลิตในพื้นที่มีน้อย ในขณะที่ปริมาณความต้องการของตลาดเพิ่มสูงขึ้น.สะ–เล–เต