“ปวีณา” ลุยจี้คดีเด็กหญิงวัย 10 เดือนดับปริศนาที่บ้านรับเลี้ยงเด็ก พาพ่อแม่เด็กเข้าพบตำรวจหลังผลชันสูตรศพระบุมีเลือดออกในช่องท้องจากขั้วลำไส้เล็กฉีกขาดและอักเสบจากการกระแทกของแข็งที่ไม่มีคม ขัดแย้งกับคำให้การของพี่เลี้ยงเด็กที่อ้างว่ารถหัดเดินล้อหักทำให้คว่ำหกล้ม แถมมีรอยช้ำทั่วตัวเชื่อลูกถูกทำร้ายจนเสียชีวิต ตำรวจขอหมายจับข้อหากระทำประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต ก่อนควบคุมตัวมาดำเนินคดี หากผลสอบสวนเป็นการตั้งใจทำร้ายเด็กจะแจ้งข้อหาใหม่ภายหลังเด็กน้อยวัย 10 เดือนเสียชีวิตปริศนาที่บ้านรับเลี้ยงเด็ก เปิดเผยเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 9 มิ.ย. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พา น.ส.ฉัตรฑริกา มุ่งหาเงิน อายุ 29 ปี แม่ของ ด.ญ.กุลธิดา หรือน้องพรีม รัตตกุล ลูกสาววัย 10 เดือน ที่เสียชีวิตปริศนาหลังไปฝากเลี้ยงที่บ้านรับเลี้ยงเด็ก เข้าพบ พ.ต.อ.เกริกศิษฐ์ เนียมนัดฐ์ ผกก.สภ.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี หลังผลชันสูตรศพเด็กระบุว่ามีเลือดออกในช่องท้องจากขั้วลำไส้เล็กฉีกขาด และอักเสบจากการกระแทกของแข็งที่ไม่มีคม ขัดแย้งกับคำให้การของพี่เลี้ยงเด็ก โดยพ่อกับแม่เด็กได้ไปขอความเป็นธรรมกับมูลนิธิปวีณาฯให้ช่วยเร่งรัดติดตามคดีหลังรับเรื่องร้องทุกข์ นางปวีณาได้ประสาน พ.ต.อ.เกริกศิษฐ์ เนียมนัดฐ์ ผกก.สภ.หนองขาม ตรวจสอบให้ความเป็นธรรมกับพ่อแม่น้องพรีม พร้อมทั้งส่งศพไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ต่อมาตำรวจรับแจ้งสาเหตุการตายของเด็กว่า เลือดออกในช่องท้องจากขั้วลำไส้เล็กฉีกขาดและอักเสบจากการกระแทกของแข็งที่ไม่มีคม ซึ่งทาง พ.ต.อ.เกริกศิษฐ์ยืนยันจะดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดโดยเร็วที่สุด จากการสอบถามแม่เด็กเผยว่า ตนกับสามีเป็นพนักงานโรงงาน ต้องทำงานเป็นกะ จึงพาลูกสาววัย 10 เดือนไปฝากเลี้ยงกับ น.ส.ณัฏฐณิศกา สุดสวาท อายุ 30 ปี ที่บ้านรับเลี้ยงเด็ก เห็นโพสต์ประกาศรับเลี้ยงเด็กในเฟซบุ๊กโดยไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เจ้าของบ้านบอกว่าพ่อแม่สามารถดูลูกได้จากกล้องวงจรปิดและโทร.คุยกับลูกได้ตลอด ค่าจ้างฝากประจำกินนอนเดือนละ 5 พันบาท นำลูกไปฝากเลี้ยงตั้งแต่เดือน เม.ย. ที่บ้านมีเด็กที่มาฝากเลี้ยงรวมลูกสาวตน 5 คน จะรับลูกกลับมาอยู่ด้วยช่วงวันหยุด ที่ผ่านมาไม่มีปัญหาอะไร จนกระทั่งคืนวันที่ 2 ต่อเนื่องวันที่ 3 มิ.ย. พี่เลี้ยงโทร.มาบอกว่าน้องพรีมเป็นอะไรไม่รู้ อาการไม่ดี ให้แม่รีบมาพาไปโรงพยาบาลด่วน ระหว่าง เดินทางไปที่บ้านรับเลี้ยงเด็กก็ประสานรถกู้ชีพ 1669 ไปรับด้วย ตนไปถึงก่อนเห็นลูกตาค้างไม่ได้สติก็ตกใจมาก เมื่อรถกู้ชีพมาถึงเจ้าหน้าที่รีบนำลูกขึ้นรถโดยมีตนและพี่เลี้ยงไปด้วย เจ้าหน้าที่ให้ยากระตุ้นหัวใจ แต่น้องไม่มีสัญญาณชีพแล้ว เมื่อไปถึงโรงพยาบาล แพทย์กระตุ้นหัวใจน้องอีกครั้งแต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้แม่ผู้สูญเสียเผยต่อไปว่า เห็นรอยช้ำที่แผ่นหลัง หน้าผาก และบนศีรษะของลูก สอบถามว่าเกิดจากอะไร พี่เลี้ยงบอกเพียงว่า ตอน 5 โมงเย็น ขณะที่น้องพรีมนั่งอยู่บนรถหัดเดิน ล้อรถหักทำให้คว่ำหกล้ม แต่ตนสงสัยว่าหลังเกิดเหตุช่วง 1 ทุ่ม วิดีโอคอลคุยกับลูกก็ไม่พบความผิดปกติอะไร จากนั้นตนกับสามีไปแจ้งความที่ สภ.หนองขาม ตำรวจส่งศพไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ในเช้าวันที่ 3 มิ.ย. ภายหลังผลชันสูตรในใบมรณบัตรระบุว่า เลือดออกในช่องท้องจากขั้วลำไส้เล็กฉีกขาดและอักเสบจากการกระแทกของแข็งที่ไม่มีคม ตนกับสามีติดใจสาเหตุการเสียชีวิตที่ไม่ตรงกับคำให้การของพี่เลี้ยงจึงขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยให้ความเป็นธรรม คลี่ปมปริศนาหาตัวผู้กระทำกับลูกมาดำเนินคดี เชื่อว่า ลูกถูกทำร้ายจนเสียชีวิตต่อมา พ.ต.อ.เกริกศิษฐ์ เนียมนัดฐ์ ผกก.สภ.หนองขาม ให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ไปยื่นต่อศาลเพื่อขออนุมัติหมายจับ น.ส.ณัฏฐณิศกา สุดสวาท พี่เลี้ยงเด็ก ในข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ก่อนจะควบคุมตัวมาสอบสวนดำเนินคดีแล้ว หากผลการสอบสวนมีพยานหลักฐานว่าเป็นการจงใจทำร้ายเด็กจนเสียชีวิตก็จะแจ้งข้อหาใหม่ในภายหลังนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯกล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจกับพ่อแม่ที่ต้องมาสูญเสียลูกน้อย และฝากเตือนไปยังพ่อแม่ที่คิดจะนำลูกไปฝากเลี้ยงควรจะต้องดูให้ดี โดยเฉพาะนำไปฝากเลี้ยงแบบประจำค้างคืน หากเป็นสถานที่รับเลี้ยงที่ไม่ได้รับอนุญาตถูกต้อง ผู้ดูแลไม่ได้รับการอบรมหรือไม่มีความรักเด็กก็อาจจะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดได้ ขอขอบคุณ ผกก.สภ.หนองขาม ที่ดำเนินการจับกุมพี่เลี้ยงมาสอบสวนดำเนินคดีอย่างรวดเร็ว เชื่อมั่นว่ามีหลักฐานชัดเจน จากนี้มูลนิธิปวีณาฯจะประสานกรมคุ้มครองสิทธิ กระทรวงยุติธรรม เพื่อให้ครอบครัวได้รับเงินเยียวยาต่อไป