ข้อเขียน หวนซูเต้าหยิน อดีตขุนนางเกษียณสมัยราชวงศ์หมิง (สายธารแห่งปัญญา บุญศักดิ์ แสงระวี เรียบเรียง สำนักพิมพ์ ก.ไก่ พ.ศ.2533) ผมอ่านเรื่อง “ขึ้นๆลงๆ” หลายครั้ง เพิ่งแน่ใจ ที่แท้เป็นคำสอนแบบเต๋าของเล่าจื๊อเมื่อท่านตกฟากเปล่งเสียงอุแว้ๆ ท่านคงไม่รู้ระหว่างการคลอดครั้งนั้น แม่ของท่านวนเวียนอยู่ริมขอบเหวแห่งอันตราย มหาเศรษฐีมีเงินท่วมตัว ก็เป็นกังวลแต่ว่าจะถูกโจรปล้นหมดตัวการกำเนิดชีวิต การมีเงินมหาศาล ดูจะเป็นเรื่องน่ายินดี แต่มีอีกด้านที่น่าหวาดหวั่น คนยากจนโอดครวญเพราะความทุกข์ ครั้นเมื่อพอเงยหน้าอ้าปากได้ ก็จะรู้ว่าการประหยัดมัธยัสถ์จะทำให้เขามั่งมีคนป่วยหนักครั้งหนึ่ง เมื่อหายก็จึงรู้จักวิธีรักษาสุขภาพ นับแต่นั้นเขาก็จะแข็งแรงสมบูรณ์เมื่อเป็นเช่นนี้ ความยากจนกับความเจ็บป่วย ซึ่งเป็นเรื่องน่าห่วงกังวล กลับมีด้านหนึ่งที่น่ายินดีครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ที่ชายแดนมีผู้เฒ่าคนหนึ่ง ม้าที่เลี้ยงไว้เกิดหายไป เพื่อนบ้านแวะเวียนมาแสดงความห่วงหาอาทร แต่ผู้เฒ่ากลับไม่แสดงท่าทีเสียดายออกมาไม่นาน ม้าตัวนั้นกลับมา แถมมีม้าพ่วงพีแข็งแรงตามมาอีกหลายตัว พ่อเฒ่าก็เช่นเคย ไม่ได้แสดงความยินดียินร้ายต่อมา ลูกชายพ่อเฒ่าที่รักม้าชอบขี่ม้า เกิดพลาดตกม้าขาหัก เพื่อนบ้านมาแสดงความเสียใจ แต่พ่อเฒ่ากลับตอบว่า ไม่แน่หรอกหนา! อาจเป็นโชคดีก็ได้แล้วโชคร้ายก็กลายเป็นโชคดีเหมือนที่พ่อเฒ่าว่า...เกิดสงคราม ลูกชายคนบ้านอื่นถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารมีแต่ลูกชายพ่อเฒ่าที่รอดถูกเกณฑ์มาได้เพราะฉะนั้น การประกอบกันซึ่งความสุขความทุกข์ เป็นสิ่งที่คนเราคาดคิดไม่ถึง สำหรับคนที่ปลงได้ จึงสามารถมองความสุขความทุกข์ ความราบรื่น ความล้มเหลวไม่ต่างกันความดีใจ ความเสียใจ จึงไม่มีอิ่นจื่อเหวิน อัครมหาเสนาบดี แคว้นฉู่ (สมัยจั้นกว๋อ ราวสามพันปีที่แล้ว) เป็นอัครมหาเสนาบดีถึงสามครั้ง ด้วยความรู้ ความสามารถสูง ทุกครั้งที่ขึ้นสู่อำนาจ เขาไม่เคยแสดงตนเป็นคนวิเศษวิโสเหนือคนอื่นทุกครั้งที่ถูกคำสั่งปลด ไม่มีใครเคยได้เห็นเขาแสดงปฏิกิริยาเสียดมเสียดาย กลับทำตัวเป็นรุ่นพี่สอนอัครเสนาบดีรุ่นน้องด้วยความเต็มอกเต็มใจควรทำอะไร ไม่ควรทำอะไรคุณสมบัติเช่นนี้ ฝึกฝนอบรมตนได้ยากยิ่ง คนส่วนใหญ่แม้ฝึกฝนอบรมตนมาดีแค่ไหน ในการขึ้นๆลงๆ แต่ละครั้งก็ยากจะเป็นเหมือนอิ่นจื่อเหวินเรื่องเล่าสองเรื่องนี้ ตอนแรกผมตั้งใจเขียนให้ลุงๆอ่าน แต่ที่จริง “หลานๆ” ก็ควรได้อ่าน สถานการณ์พลิกผันทางการเมือง เกิดได้ทุกเวลาอ่านทั้งเรื่องยืดยาว จึงมีคำสอนสั้นๆ สรุปตอนท้ายลูกเกิดแม่อันตราย มั่งมีโจรคอยจ้อง ยากจนก็อาจประหยัด ป่วยก็อาจรักษา ความทุกข์ใดที่ไร้ความยินดีผู้รู้แจ้ง เห็นความราบรื่นและอุปสรรคเป็นเช่นเดียวกัน ลืมทั้งความดีใจและเสียใจคำสอนของเต๋าเนื้อหาเดียวกันนี้ แต่คนละสำนวน ผมเคยอ่านหนังสือเล่มที่พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ อดีตนายกแปดปี พิมพ์แจกในวันคล้ายวันเกิด เมื่อราวๆปี 2525-6ผมไม่แปลกใจ ทำไม “ป๋าเปรม” ลงจากหลังเสือ (อำนาจ) ได้แบบเบาๆสบายๆ ไม่ยุ่งยากหนักหนาจนน่าเบื่อเหมือนลุงๆบางคน.กิเลน ประลองเชิง