“สุรเชษฐ์ หักพาล” รอง ผบ.ตร. พร้อมทีมงานแถลงผลจับกุม ผู้ต้องหา เจ้าของแฟรนไชส์ “ย่างให้” ออกอุบายเชิญชวนเหยื่อให้ร่วมทุน อ้างได้ผลตอบแทนสูง นำธุรกิจไปโปรโมตทางทีวี สื่อออนไลน์ต่างๆ จ้างดารา นักแสดงคนดังโพสต์เฟซบุ๊ก สร้างเครดิต มีเหยื่อหลงเชื่อร่วมลงทุนสร้างความเสียหาย กว่า 5.53 ล้านบาท เบื้องต้นแจ้งข้อหาหนักทั้งฉ้อโกงประชาชน และ พ.ร.บ.คอมฯกรณีมีกลุ่มผู้เสียหายรวมตัวเข้าร้องทุกข์กับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เนื่องจากถูกนายมณฑล ทองคำ อายุ 41 ปี เจ้าของแฟรนไชส์ธุรกิจอาหารปิ้งๆย่างๆชื่อ “ย่างให้” ชักชวนให้ร่วมลงทุนโดยการันตีผลตอบแทนใช้วิธีสร้างความน่าเชื่อถือจากการออกรายการโทรทัศน์และสื่อออนไลน์ ต่างๆ พร้อมให้สัมภาษณ์ว่าธุรกิจของตนประสบความสำเร็จขยายเปิดสาขากว่า 400 สาขาทั่วประเทศ นำภาพศิลปิน นักแสดงคนดัง มาโพสต์ในเฟซบุ๊กสร้างความน่าเชื่อถือ ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ นำเงินมาร่วมทุนจำนวนมาก ภายหลังทั้งหมดกลับไม่ได้เป็นไปตามคำกล่าวเชิญชวน ทำให้ผู้ร่วมลงทุนเสียหายรวมกันหลักล้านบาทเกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่สมาคมพนักงานสอบสวน สโมสรตำรวจ เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 19 เม.ย. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมผู้เกี่ยวข้องแถลงข่าวจับกุมนายมณฑล ทองคำ อายุ 41 ปี เจ้าของแฟรนไชส์อาหารปิ้งๆย่างๆ ชื่อ “ย่างให้” หลังหลอกลวงกลุ่มผู้เสียหายให้ร่วมลงทุนสร้างความเสียหายกว่า 5.53 ล้านบาทพล.ต.อ.สุรเชษฐ์เปิดเผยว่า ภายหลังกลุ่มผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์ สั่งการให้พนักงานสอบสวนบก.ปอศ. รับคำร้องทุกข์และรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอาญาออกหมายจับที่ 1122/2566 ลงวันที่ 10 เม.ย.66 ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน, กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ต่อมาวันที่ 16 เม.ย. ชุดสืบสวน บก.ปอศ. พบเบาะแสนายมณฑล ผู้ต้องหาตามหมายจับ หลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ที่บ้านเลขที่ 10/1 ถนนพิชัยรณรงค์สงคราม ต.ปากเพรียว อ.เมืองสระบุรี ชุดจับกุมขอหมายค้นต่อศาล จังหวัดสระบุรี ตามหมายค้นที่ ค.91/2566 ลงวันที่ 16 เม.ย.66 เพื่อเข้าค้นบ้านหลังดังกล่าว กระทั่งจับกุมผู้ต้องหาได้ภายในบ้าน เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ คุมตัวส่งพนักงานสอบสวน บก.ปอศ. ดำเนินคดี“ผู้ต้องหามีพฤติการณ์หลอกให้กลุ่มผู้เสียหายลงทุนโดยใช้วิธีการอ้างว่าจะแบ่งผลประโยชน์ให้ในอัตราสูง และสร้างความน่าเชื่อถือด้วยการออกรายการต่างๆและใช้บุคคลมีชื่อเสียงมาทำให้เหยื่อหลงเชื่อจำนวนมาก จากนี้ต้องตรวจสอบทรัพย์สินและดำเนินการยึด อายัดทรัพย์สินของผู้ต้องหา เพื่อนำกลับมาเยียวยาคืนให้ผู้เสียหายและขอให้ผู้เสียหายรายอื่นที่ยังไม่แจ้งความให้รีบเดินทางเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหารายนี้ต่างกรรมต่างวาระกัน” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าว