แม่เมียนมาอุ้มลูกชายวัย 1 ขวบขโมยของร้านเซเว่นฯ พนักงานจับส่งตำรวจ สารภาพหลบหนีเข้าไทยมาเป็นแรงงานเถื่อนกับสามีกว่า 2 ปี ภายหลังท้องจนคลอด สามีทิ้งไม่รับผิดชอบ ไม่มีเงินเลี้ยงลูก ต้องระหกระเหินไปขอข้าวตามวัดและผู้ใจบุญ หมดหนทางขโมยแพมเพิร์ส ให้ลูกและหาของกินประทังชีวิต ขณะที่ตำรวจส่งตัวแม่ลูกเข้าห้องขังพร้อมประสานกรมคุ้มครองเด็กฯ มารับตัวลูกชายผู้ต้องหาไปดูแลเหตุแม่อุ้มลูกวัย 1 ขวบ ขโมยของประทังชีวิตรายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 13 ม.ค. ร.ต.อ.กฤตเดช พระโต รอง สว. (สอบสวน) สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุจากนายนพรุจ ปาวิเศษ เจ้าของร้านเซเว่น อีเลฟเว่น สาขาตลาดนัด 700 ไร่ หมู่ 8 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ว่า ควบคุมตัวหญิงแม่ลูกอ่อนเข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์พร้อมของกลางให้มารับตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายจากนั้น ร.ต.อ.กฤตเดชไปตรวจสอบพร้อมตำรวจสายตรวจจับกุมนางดาว อายุ 26 ปี ชาวเมียนมา ขณะอุ้มลูกชายวัย 1 ขวบ พร้อมของกลางแพมเพิร์ส 2 ห่อ และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 2 ถ้วย รวมมูลค่า 173 บาท ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าผ้าสีเขียวที่ผู้ก่อเหตุสะพาย ตำรวจคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.สัตหีบนางดาวสารภาพว่า หลบหนีเข้าไทยลักลอบเป็นแรงงานเถื่อนมากว่า 2 ปี อยู่กินกับสามี ภายหลังตั้งท้องคลอดลูกชาย สามีหนีไม่รับผิดชอบ ทำให้ไม่มีที่พึ่งและไม่มีงานทำ ใช้ชีวิตเดินตามถนน ขอข้าววัดและคนใจบุญประทังชีวิตให้อยู่รอดไปวันๆ ช่วงเกิดเหตุเดินเข้าไปที่ร้านเซเว่นฯตั้งใจขโมยแพมเพิร์สให้ลูกใส่และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเพื่อกินประทังชีวิต แต่มาถูกพนักงานในร้านจับได้ คุมตัวส่งตำรวจขณะที่ ร.ต.อ.กฤตเดช พระโต เจ้าของคดี เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความเวทนาใจต่อผู้พบเห็น ตำรวจสละทุนทรัพย์ส่วนตัวซื้อนมและอาหารให้แม่ลูกได้ประทังความหิว แต่ต้องคุมตัวแม่และลูกไปควบคุมตัวในห้องขังตามกฎหมาย จากนั้นประสานเจ้าหน้าที่กรมคุ้มครองเด็กและเยาวชน เพื่อแยกลูกชายผู้ต้องหาไปอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ ส่วนนางดาวจะดำเนินการผลักดันส่งกลับประเทศต้นทางต่อไป