ช่วงวันหยุดยาวผมเปิดอ่านเว็บไซต์ไปเรื่อยๆพบข่าวชิ้นหนึ่งจาก เว็บไซต์บีบีซีไทย วันที่ 1 ธันวาคม พาดหัวว่า “เศรษฐกิจสหราชอาณาจักรแย่หนัก คนจนในเวลส์ต้องกินอาหารสัตว์เลี้ยง” อ่านแล้วก็ตะลึง ทำไมประเทศผู้ดีอังกฤษที่เคยเป็นมหาอำนาจจนได้ฉายาว่า “อาณาจักรที่พระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน” แต่วันนี้ กลับตกต่ำจนไม่น่าเชื่อ ด้วยฝีมือการบริหารประเทศของ นักการเมือง และ พรรคการเมือง ที่ชื่อ พรรคคอนเซอร์เวทีฟ ยิ่งอ่านในเนื้อข่าวก็ยิ่งตะลึง ผู้ป่วยฉุกเฉินในอังกฤษวันนี้ต้องรอคิวหาหมอนานถึง 40 ชั่วโมง โอ้มายก้อดทำไมถึงตกต่ำได้ขนาดนี้อ่านข่าวนี้แล้วผมก็เลยไม่แปลกใจ ทำไมชาวต่างชาติที่อยู่ในกรุงเทพฯ จากการสำรวจของ InterNations จึงยกให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองน่าอยู่อันดับที่ 6 ของโลกผลสำรวจของ InterNations ระบุถึงความพึงพอใจของชาวต่างชาติที่มีต่อกรุงเทพฯว่า อันดับหนึ่ง 82% มีความสุขต่อคุณภาพการดูแลรักษาทางการแพทย์ รองมา 79% มีความสุขกับชีวิตโดยทั่วไป 69% มีความสุขต่อค่าครองชีพ 68% มีความสุขต่อความสมดุลระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิต 66% มีความสุขต่ออาชีพการงาน 54% ระบุว่าสามารถพบเพื่อนใหม่ได้ง่าย แต่นี่ไม่ใช่ภาพรวมของประเทศและคนไทยทั้งหมดย้อนกลับไปดูเมืองผู้ดีอังกฤษจากบทความบีบีซีที่พูดถึงปัญหาค่าครองชีพที่ถีบตัวสูงจากราคาพลังงานและอาหาร ในขณะที่เศรษฐกิจกำลังถดถอยกระทบต่อคุณภาพชีวิต นายมาร์ค ซีด เจ้าหน้าที่องค์กรการกุศล เดอะ แพนทรี เปิดเผยว่า ในแคว้นเวลส์มีชาวบ้านบางส่วนในพื้นที่ต้องบริโภคอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงในบ้าน อุ่นอาหารโดยใช้แผงทำความร้อน ในบ้านหรือเทียนไข แทนเตาแก๊สจากท่อที่ส่งตามบ้านบีบีซีระบุว่า เหตุผลที่อังกฤษกำลังเผชิญมรสุมทางเศรษฐกิจและทำให้ประเทศจนลง เป็นผลพวงมาจาก ราคาพลังงานที่สูงขึ้น (จากสงครามรัสเซียยูเครนที่อังกฤษทุ่มสนับสนุนสุดตัว) คาดว่าจะเป็น เช่นนี้ไปอีก 2–3 ปี ครัวเรือนที่เผชิญกับราคาน้ำมันและอาหารที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงโควิดระบาดและสงครามยูเครน ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงอีก ยังไม่รวมปัญหาที่ รัฐบาลพรรคคอนเซอร์เวทีฟ ก่อไว้ตอนประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจที่เรียกว่า งบประมาณแผ่นดินฉบับย่อ ในเดือนกันยายน มีการลดภาษี เพิ่มรายจ่าย ให้เงินอุดหนุนประชาชนมากมาย แต่ไม่มีรายละเอียดจะหาเงินมาจากไหน ส่งผลให้ราคาพันธบัตรรัฐบาลทรุดหนัก ค่าเงินปอนด์ร่วงต่ำเป็นประวัติการณ์ อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านพุ่งพรวด จนธนาคารกลางต้องเข้ามาแทรกแซงเพื่อพยุงค่าเงินปอนด์บีบีซีระบุว่า ปัจจุบันมาตรฐานการดำรงชีวิตของคนอังกฤษตกต่ำลง รัฐบาลก็บอกว่าตกต่ำมากที่สุดนับตั้งแต่มีการจัดเก็บสถิติ รัฐบาลคาดว่า รายได้ของครัวเรือนอังกฤษจะลดลงราว 7% ในช่วง 2–3 ปีข้างหน้านี้ รายได้ที่ลดลงทำให้ผู้คนต้องใช้จ่ายอย่างประหยัด บางบ้านเลือกที่จะไม่เปิดเครื่องทำความร้อนท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น บางบ้านมีรายได้ไม่พอจ่ายค่าไฟค่าก๊าซ ไม่สามารถเปิดเครื่องทำความร้อนได้ ทำให้สุขภาพที่แย่อยู่แล้วแย่ลงอีกที่อ่านแล้วช็อกก็คือ คนอังกฤษต้องรอคิวรถฉุกเฉินโรงพยาบาลนานถึง 40 ชั่วโมงบีบีซีระบุว่า ในทุกฤดูหนาวประชาชนที่เจ็บป่วยฉุกเฉินต้องรอคิวรักษาเป็นเวลานาน แต่วันนี้รถพยาบาลฉุกเฉินกว่า 11,000 คัน ต้องเข้าคิวรอด้านนอกหน่วยฉุกเฉินของโรงพยาบาลอย่างน้อย 1 ชั่วโมง ก่อนที่ผู้ป่วยจะได้รับการดูแลจากแพทย์ ครอบครัวผู้ป่วยรายหนึ่งบอกบีบีซีว่า ผู้สูงวัย 85 ปี สะโพกหัก ต้องรอนานถึง 40 ชั่วโมง ก่อนจะได้รับการรักษา รอรถพยาบาลฉุกเฉินที่บ้าน 14 ชั่วโมง จอดรถรอคิวด้านนอกโรงพยาบาลอีก 26 ชั่วโมงอ่านสภาพเมืองผู้ดีอังกฤษวันนี้แล้วก็ไม่แปลกใจ ทำไมต่างชาติ 82% ในกรุงเทพฯ มีความสุขกับคุณภาพการรักษาทางการแพทย์ แต่ต้องไม่ลืมว่าอังกฤษที่ตกต่ำได้ขนาดนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากนักการเมืองอังกฤษโดยตรง คนไทยดูไว้เป็นบทเรียน.“ลม เปลี่ยนทิศ”