กรมปศุสัตว์ตรวจยึดหมูเถื่อนซุกในโกดังแช่เย็นที่ อ.เมืองสมุทรสาคร ร่วม 4 แสน กก. หลังลักลอบชิ้นส่วนหมูเข้าไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะที่ “เฉลิมชัย” เผยสั่งกำชับกรมปศุสัตว์คุมเข้มตรวจสอบห้องเย็นลักลอบขนหมูจากต่างประเทศเข้าไทย กระทบเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูรวมถึงความเสี่ยงการนำเชื้อโรคระบาด ASF และอาจมีสารเร่งเนื้อแดง ไม่ปลอดภัยต่อผู้บริโภคกรมปศุสัตว์ตรวจยึดชิ้นส่วนหมู ลักลอบนำเข้าไทยรายนี้ เปิดเผยสายวันที่ 16 พ.ย. นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ตามที่มี ข้อสั่งการให้กรมปศุสัตว์ ดำเนินการคุมเข้มตรวจสอบห้องเย็นเพื่อป้องกันการลักลอบนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ล่าสุดนายสมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ รายงานว่า ช่วงเย็นวันที่ 15 พ.ย. สั่งการให้นายสัตวแพทย์ ชัยวัฒน์ โยธคล รองอธิบดีฯ เป็นหัวหน้าทีมพร้อมด้วยนายสัตวแพทย์ ชุติพนธ์ ศิริมงคลรัตน์ ผอ.กองสารวัตรและกักกัน นายสัตวแพทย์ จิรภัทร อินทร์สุข หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษพญาไท สนธิกำลังร่วมกับ พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.เชษฐพันธ์ กิติเจริญศักดิ์ ผกก.1 บก.ปคบ. พร้อมกำลังรวม 30 นาย หลังสืบทราบว่ามีผู้ลักลอบขนซากชิ้นส่วนหมูจากต่างประเทศเข้าไทย โดยไม่ผ่านการตรวจจากเจ้าหน้าที่ศุลกากรอยู่ที่ห้องเย็นขนาดใหญ่ของบริษัทแห่งหนึ่ง อ.เมืองสมุทรสาคร ประกอบกิจการลักษณะรับฝากและผลิตจำหน่ายสินค้าปศุสัตว์ที่เกิดเหตุเป็นโกดังเก็บห้องเย็นขนาดใหญ่มีเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ ภายในพบซากชิ้นส่วนหมูนำเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาต อาทิ ขาหมูคากิ ลำไส้ ลิ้น จมูก และหาง อยู่ในกล่องรวมจำนวนทั้งสิ้น 439,599 กก. กว่า 430 ตัน ตรวจไม่พบผ่านการตรวจจากศุลกากร เจ้าหน้าที่สารวัตรปศุสัตว์สั่งอายัดของกลางทั้งหมดนายเฉลิมชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า การนำเข้าชิ้นส่วนหมูต้องได้รับอนุญาต และต้องตรวจโรคจาก ประเทศต้นทางและประเทศต้นทางต้องไม่มีโรคระบาด หากลักลอบนำเข้าจะไม่ตรวจสอบความปลอดภัยหรือตรวจสอบโรคระบาด อาจจะสร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมการเลี้ยงหมูของไทย เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโรคสัตว์ รวมถึงอาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค โดยเฉพาะเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูยังอยู่ระหว่างฟื้นฟูระบบการเลี้ยง หากลักลอบนำเข้ามาโดยไม่ได้เปิดตลาดเป็นการทำร้ายเกษตรกรทางอ้อม เนื่องจากการลักลอบนำเข้าชิ้นส่วนหมูราคาถูกมาแย่งตลาดในประเทศไทย จะทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูรายย่อยท้อแท้ล้มเลิกอาชีพหายไป และการกลับมาเลี้ยงใหม่จะทำได้ยาก รวมถึงความเสี่ยงในการนำเชื้อโรคระบาด ASF เข้ามาในประเทศไทย ทำให้ยากต่อการควบคุมโรค อีกทั้งยังอาจมีสารตกค้างเช่นสารเร่งเนื้อแดง ที่จะทำให้ไม่ปลอดภัยต่อผู้บริโภคด้วย หากประชาชนต้องการแจ้งเบาะแสหรือข้อมูลเพิ่มเติม สามารถแจ้งที่แอปพลิเคชัน DLD 4.0 หรือสายด่วนกรมปศุสัตว์ 06-3225-6888 ตลอด 24 ชั่วโมง