มีคำพูดคุ้นหูว่า “เหตุบังเอิญไม่มีในโลก” ซึ่งคนที่เชื่อคำพูดนี้ บอกไว้ว่า “สิ่งใดก็ตามที่เกิดขึ้น ล้วนถูกกำหนดไว้แล้ว” วันนี้ โสมชบา ขออนุญาตเล่าถึงเหตุหนึ่งซึ่งเพิ่งประสบมาหมาดๆ จนทำให้เริ่มคิดว่า หรือคำพูด “เหตุบังเอิญไม่มีในโลก” นั้น จะเป็นจริง!!เพราะหลังจาก พันเอกประทัย โกศลกุล คุณพ่อของ โสมชบา จากไปอย่างสงบสุขในอายุ 97 ปี ท่ามกลางการดูแลอย่างดีจากแพทย์พยาบาลไอซียู รพ.รามาธิบดี ที่ไม่ให้คนป่วยต้องเจ็บปวดเลย เราก็เตรียมบำเพ็ญกุศล ซึ่งวัดเดียวที่อยู่ในสมอง ณ นาทีนั้นโดยไม่รู้อะไรดลใจ คือ วัดพระศรีมหาธาตุฯ บางเขน ซึ่งก็ไม่ใช่วัดที่ใกล้บ้าน และโดยการประสานของ คุณปูเป้–เรณุมาศ อิศรภักดี ซึ่ง ได้รับเมตตาจาก หลวงพี่อ้วน ซึ่งคุ้นเคยกับวัด ทำให้ได้ ศาลาจีรวัสส์ รัชนิบูล ที่โปร่งกว้างสวยงามในทันที ซึ่งกัลยาณมิตร สัณหพิศ โพธิรัตนังกูร ซึ่งยังอยู่ต่างประเทศ ช่วยออกแบบการจัดดอกไม้ร่วมกับ ศักดิ์ชัย กาย และให้ทีมดอกไม้ปาร์คนายเลิศ ที่มีผลงานลือเลื่องมาตั้งแต่สมัย ท่านผู้หญิงเลอศักดิ์ สมบัติศิริ มาจัดให้อย่างสวยเรียบโก้ หลังสวดอภิธรรมครบ 3 วัน ในวันฌาปนกิจ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดพระเชตุพนฯ ซึ่งเพิ่งทราบจากลูกศิษย์ ได้แจ้งว่า ท่านจะมาเคารพศพคุณพ่อที่วัด เพราะเมื่อ 70 กว่าปีก่อน ท่านกับคุณพ่อบวชด้วยกันที่วัดต่างจังหวัด และหอบหิ้วกันเข้ากรุงเทพฯ จึงมีความผูกพันรักกันมากเหมือนพี่น้อง ซึ่งท่านจะเล่าอดีตให้ฟังเสมอ อย่างจดจำและมีความสุข นอกจากนั้น สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี วัดไตรมิตรฯ ซึ่งเพิ่งทราบจาก ชาญศิลป์ ตรีนุชกร ระหว่างไปเจิมโบอิ้งลำใหม่ ชื่อพระราชทาน เทพราช ของการบินไทย ก็เมตตามาเป็นประธานพิธีฌาปนกิจ ทอดผ้าไตรและไม้จันทน์ประทานจาก เจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราชฯ ซึ่งนับเป็นเหตุบังเอิญที่ สองสมเด็จ “ว่างพอดี” โดยที่เราไม่ได้กราบนมัสการเรียนท่านเลย ด้วยความเกรงใจว่าท่านมีภารกิจมากมาย บังเอิญต่อไปคือในวันฌาปนกิจ เมื่อ พระพรหมมุนี (บุญเรือง) เจ้าอาวาสวัดพระศรีฯ ซึ่งมาร่วมพิธี ได้ฟังประวัติคุณพ่อ ท่านก็เล่าว่า ท่านกับคุณพ่อเคยนอนกุฏิเดียวกัน ที่วัดบรมนิวาส แต่เมื่อคุณพ่อสึก ก็ขาดการติดต่อ เพราะคุณพ่อย้ายไปรับราชการหลายจังหวัด จนเพิ่งมาทราบว่า ท่านกำลังอยู่ในงานฌาปนกิจ อดีตพระที่สนิทกันมาก และยังมี เจ้าคุณ พระเทพคุณาภรณ์ วัดเทวราชกุญชร ที่เสร็จภารกิจก็รีบมาจากระยอง ทันงานพอดี ท่านเจ้าอาวาสจึงเมตตาให้นำผอบบรรจุอัฐิคุณพ่อ อดีตพระพี่ชาย มาตั้งที่องค์ พระนาคปรก พระประธานในกุฏิท่าน ซึ่งบังเอิญกับที่สร้อยพระของคุณพ่อ ก็มี พระนาคปรก ที่ท่านรักมาก กับทั้ง เจ้าคุณพรหมมุนี ยังเล่าว่า อดีตเจ้าอาวาสวัดพระศรีฯ รูปแรก ก็คือ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (อ้วน ติสฺโส) ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของท่านและคุณพ่อ สมัยบวชอยู่วัดบรมนิวาสจึงน่าคิดว่า นี่เป็นเหตุบังเอิญหรือกำหนดมา ที่คุณพ่อสมัยมีชีวิตก็ได้อยู่กับ สมเด็จอาจารย์ (อ้วน ติสฺโส) และพระรุ่นน้อง (พระพรหมมุนี) ที่วัดบรมนิวาส และเมื่อจากไปแล้ว อัฐิคุณพ่อก็ได้กลับมาอยู่ที่วัดของ สมเด็จอาจารย์ และอยู่ในกุฏิ ของพระรุ่นน้องที่เคยอยู่กุฏิเดียวกันอีก และอยู่กับ พระนาคปรก ที่คุณพ่อบูชาในคอมาตลอดชีวิต--ที่ขออนุญาตเขียนเรื่องตัวเองยืดยาว ก็เพราะเห็นว่าอาจมีประโยชน์ ถ้าทำให้หลายคนได้คิดและเชื่อเรื่องบุญกรรม พลัดพราก พานพบ เวียนว่าย ฯลฯ ตามหลักพุทธศาสนาว่า บางครั้ง มีจริง.โสมชบา