น้ำพริกกะปิเมนูคู่ครัวไทยมาช้านาน เพราะด้วยรสชาติที่จัดจ้านตามสไตล์อาหารไทย คนไทยจึงนิยมทานน้ำพริกกะปิคู่กับผักสด ผักลวก ปลาทูทอด ไข่ชะอมทอด พร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ วัตถุดิบที่ใช้ทำน้ำพริกกะปิ มีทั้งพริก กระเทียม หัวหอม กะปิ น้ำปลา น้ำมะนาว กุ้งแห้ง ฯลฯ ส่วนผสมข้างต้นแม้จะทำให้น้ำพริกกะปิมีรสชาติอร่อย แต่สิ่งที่ขอเตือนท่านที่ชื่นชอบน้ำพริกกะปิให้ระวัง คือโซเดียมที่มีในน้ำพริกกะปิ ที่มาจากวัตถุดิบบางชนิด เช่น กะปิ น้ำปลา โดยในกะปิ 100 กรัม พบมีโซเดียมสูงถึง 5,205 มิลลิกรัมแม้โซเดียมจะเป็นแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการ เพื่อให้ทำหน้าที่รักษาระดับความเข้มข้นของน้ำภายในและน้ำภายนอกเซลล์ให้สมดุลกัน และทำหน้าที่ส่งสัญญาณในระบบประสาทและกล้ามเนื้อ แต่ในแต่ละวันร่างกายต้องการในปริมาณไม่มาก โดยองค์การอนามัยโลกแนะนำให้ใน 1 วันควรบริโภคโซเดียมไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัมหรือ 1 ช้อนชา เพราะหากร่างกายได้รับโซเดียมในปริมาณมากกว่านี้ อาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคกลุ่มไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง และเพิ่มความรุนแรงของโรคเบาหวาน วันนี้ สถาบันอาหารได้สุ่มตัวอย่างน้ำพริกกะปิ 5 ตัวอย่าง จาก 5 ร้านค้าในตลาดย่านต่างๆในเขตกรุงเทพฯ เพื่อนำมาวิเคราะห์ปริมาณโซเดียม ผลปรากฏว่าน้ำพริกกะปิ 5 ตัวอย่าง มีปริมาณโซเดียมสูงคืออยู่ในช่วง 1,045.85-1,597.09 มิลลิกรัมต่อน้ำพริกกะปิ 100 กรัม เห็นผลวิเคราะห์อย่างนี้แล้ว ก็อย่าทานในปริมาณมากนัก เพราะใน 1 วัน เราได้รับโซเดียมจากอาหารชนิดอื่นๆด้วย.ไทยรัฐ+สถาบันอาหารโครงการอาหารปลอดภัย