เหตุการณ์ที่เป็นข่าวรายวันตามสื่อต่างๆในขณะนี้ นอกจากข่าวอาชญากรรมฆ่าปล้น ข่าวการเมืองเรื่อง 3 ป.แล้ว น้ำท่วมก็เป็นข่าวรายวัน รายชั่วโมง เพราะเกิดน้ำท่วมกระจายไปเกือบทุกภาค ทั้งภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก และ กทม. ไม่ได้ท่วมแต่พื้นที่ไร่นา แต่ท่วมแม้แต่เมืองใหญ่ๆไทยเป็นประเทศหนึ่งที่มีหน่วยงานที่เกี่ยวกับเรื่องน้ำมาก มีทั้งกรมชลประทาน และกรมสารพัดน้ำ แต่ผู้รับผิดชอบสูงสุด น่าจะได้แก่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ซึ่งลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยแทบจะทุกวัน และมักจะท่องคาถา “ไม่ท่วมๆ”อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เคยให้สัมภาษณ์สื่อว่า สภาพดินฟ้าอากาศในปัจจุบันแปรปรวน อุณหภูมิของโลกโดยเฉลี่ยสูงขึ้น ในอนาคตประเทศไทยจะได้รับผลกระทบจากการแปรปรวนของอากาศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ พื้นที่ที่เคยถูกน้ำท่วมจะท่วมอีก และรุนแรงยิ่งขึ้น ส่วนพื้นที่ที่เคยแห้งแล้งก็จะแห้งแล้งยิ่งขึ้นน้ำท่วมในขณะนี้ แม้จะเป็นการท่วมระดับทั่วประเทศ แต่โชคดีที่ กทม.ยังไม่ถึงขั้นอุทกภัย แม้จะมีฝนตกหนักในบางพื้นที่ แต่เป็นเพียงมีน้ำขังรอการระบายที่ไม่นานเกินรอ อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่าปี 2565 เป็นน้ำท่วมแบบกระจุก แห้งแล้งกระจายทั่วโลก เกิดจากอิทธิพลของปรากฏการณ์ลานินญา แต่น้ำจะไม่ท่วมหนักเหมือนปี 2554ภาวะน้ำท่วมกระจุก ดูเหมือนว่าส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในทวีปเอเชีย ส่วนแห้งแล้งกระจายกลายเป็นโลกตะวันตก หรือยุโรปและอเมริกา ประเทศที่ประสบภัยน้ำท่วมร้ายแรงที่สุด คือปากีสถาน กระแสน้ำทำลายโครงสร้างพื้นฐานย่อยยับ ถนนถูกทำลาย 6,760 กม. บ้านเรือนพัง 1.17 ล้านหลัง ประชาชนเสียชีวิตกว่า 1,500 รายปากีสถานได้รับความเสียหายด้านเศรษฐกิจ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 377,000 ล้านดอลลาร์ นับว่าเสียหายร้ายแรงมาก เปรียบเทียบกับความเสียหายมหาอุทกภัยในประเทศไทยเมื่อปี 2554 เป็นเงิน 1.4 ล้านล้านบาท แต่ปีนี้ถือว่าโชคดี ยังไม่มีรายงานความเสียหายจากน้ำท่วมโรงงานอุตสาหกรรมเหมือนครั้งก่อนแต่กรุงเทพมหานครมีปัญหาที่น่าวิตกกังวลอย่างยิ่ง นั่นก็คือ นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าภายในหลายปีข้างหน้า ปัญหาโลกร้อนอาจแผลงฤทธิ์ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นๆ จนท่วมมหานครใหญ่ๆของโลก เช่น ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีกรุงจาการ์ตา กรุงมะนิลา และกรุงเทพฯ เตรียมรับมือกันหรือยัง.