ศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เปิดเผยว่า เด็กยากจนที่ได้รับทุนจากกองทุน กสศ. 1.9 ล้านคน ในจำนวนดังกล่าวผู้จัดการรายกรณี (Case Manager) ได้มีการติดตามข้อมูลแบบเจาะลึกเด็กที่มีแนวโน้มจะหลุดจากระบบการศึกษาใน 6 จังหวัด ประกอบด้วย ราชบุรี ขอนแก่น ยะลา พิษณุโลก และ กทม. พบจำนวน 602 คนที่พร้อมจะหลุดออกจากระบบการศึกษารอบสองได้ตลอดเวลาถึง 90% ส่วนใหญ่เป็นระดับประถมปลาย-มัธยมศึกษาตอนต้น เพราะสู้ภาวะความยากจนรอบตัวที่กดทับไม่ได้จึงตัดใจออกจากการเรียนมาช่วยครอบครัวศ.ดร.สมพงษ์กล่าวว่า ที่ผ่านมาพบครอบครัวแหว่งกลางที่พ่อแม่ไปทำงานพื้นที่อื่น ปล่อยให้ลูกอยู่กับตายาย เป็นครอบครัวเสี้ยวเดียวมากขึ้น คือ เด็กอยู่กับย่าหรือยายเพียงลำพัง ปฏิสัมพันธ์ความเป็นครอบครัวเริ่มลดลง ทั้งเด็กยังต้องคอยดูแลย่าหรือยายที่ป่วยด้วยโรคต่างๆ บางคนต้องออกไปรับจ้างหาเงินมาใช้จ่าย และเก็บทุน กสศ.ที่ได้รับเอาไว้ด้วยเหตุผลที่ว่าต้องการเก็บไว้เป็นค่ารักษาพยาบาลย่าหรือยายในอนาคต เพราะฉะนั้นการได้รับโอกาสทางการศึกษาจำเป็นต้องมีกลไกตามน้องกลับมาเรียนและมีระบบการช่วยเหลือทั้งตัวเด็กและครอบครัวศ.ดร.สมพงษ์กล่าวด้วยว่า การแก้ปัญหา นอกจากการคงนโยบายตามน้องกลับมาเรียนแล้ว ยังต้องติดตามระวังเรื่องการออกจากระบบซ้ำ มีทุนการศึกษาและทุนค่าใช้จ่ายคอยช่วยเหลือลงถึงตัวเด็ก มีเครือข่ายทั้งภาคราชการ ภาคประชาสังคมในพื้นที่ร่วมกันแชร์ทรัพยากรช่วยเหลือเด็กรวมถึงภาคเอกชนที่สามารถเข้ามาสนับสนุนหรือหางานให้เด็กทำมีรายได้เสริม ขณะที่ครูต้องคอยติดตามเยี่ยมเด็ก หางานให้เด็กทำ ขณะเดียวกันต้องยืดหยุ่นกฎระเบียบการช่วยเหลือครอบครัวยากจนด้วย.