ใกล้ปิดฉากคดียิง นายมานพ เสถียรเขตต์ ทนายความชื่อดังอดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 จ.ระยอง พรรคไทยรักษาชาติ และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่นั่งทำงานในปั๊มน้ำมัน ช.อำนวยทรัพย์ปิโตรเลียม เลขที่ 111 ม.4 ต.บ้านค่าย อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เสียชีวิตต่อหน้าภรรยาและญาติ คนร้ายไม่ได้เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมืองผู้เสียชีวิตเป็นทนายความที่ต่อสู้เพื่อความยุติธรรมและคอยให้คำปรึกษาในการดำเนินคดีกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่ทุจริตและผู้ที่กระทำผิดกฎหมายให้ชาว จ.ระยอง และเตรียมตัวลงสมัคร ส.ส. ซึ่งส่วนตัวผู้ตายเป็นคนที่ชาวบ้านชื่นชอบ และมีโอกาสได้การรับเลือกตั้งเข้ามาเป็น ส.ส.ในสมัยหน้า ทำให้มีมูลเหตุจูงใจซับซ้อนได้หลายเรื่องเป็นคดีสะเทือนขวัญของผู้คนในพื้นที่ระยอง เพราะคนที่อยู่ในพื้นที่ทราบกันดีว่า “ปมขัดแย้ง” ที่เป็นชนวนการว่าจ้างมือปืนคนนอกพื้นที่เข้ามาสังหารทนายคนดังมาจากสาเหตุเรื่องอะไร “บิ๊กปั๊ด” พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มอบ “บิ๊กใหม่” พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. นำทีม พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.ชัยต์พจน สูวรรณรักษ์ รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.มนตรี เทศขันธ์ ผบก.ป. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.ภ.จ.ระยอง ร่วมทีมสืบสวนคลี่คลายคดีทันทีพ.ต.อ.อเนก เตาสุภาพ รองผบก.ป. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง ผกก.(สอบสวน) บก.สส.ภ.2 พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.กก.สส.ภ.จ.ระยอง พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต ผกก.สส.ภ.จ.สระแก้ว พ.ต.อ.วราวุธ เจริญชนม์ รอง ผบก.สส.ภ.2 พ.ต.อ.บัญชา คล้ายน้อย ผกก.สืบสวน 2 พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2 บก.ป. และ ชุดนักสืบ 5 จี ลงพื้นที่ ไล่ล่าสืบหาตัวมือปืนและผู้จ้างวานชุดสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดหลายร้อยตัวตามโครงการ “Smart Safety Zone 4.0” เป็นเครื่องมือสำคัญในการสืบสวนหาเบาะแสคนร้าย พบว่า คดีนี้ผู้ก่อเหตุมีไม่ต่ำกว่า 2 คน และมีการวางแผนมาก่อเหตุอย่างดี ลักษณะแบบมืออาชีพ คนร้ายเข้ามาสำรวจพื้นที่และสะกดรอยติดตามทนายมานพไม่ต่ำกว่า 1 เดือน รถ จยย.ที่ใช้ก่อเหตุเป็นรถที่ถูกขโมยมาแจ้งหายไว้ตั้งแต่ปี 2557 เพื่อตัดช่องทางการสืบสวนสาวไปถึงตัวผู้บงการ หลังก่อเหตุคนร้ายนำรถ จยย.จอดทิ้งไว้ในที่ดินรกร้างห่างจุดเกิดเหตุ 4 กิโลเมตร ก่อนขึ้นรถยนต์ของทีมผู้ร่วมก่อเหตุอีกคนที่จอดรอรับในพื้นที่เปลี่ยวใกล้จุดทิ้งรถ จยย.หลบหนีไปด้วยกันคนร้ายวางแผนแนบเนียนคล้ายหลายคดีอุกฉกรรจ์ที่เกิดในพื้นที่สุดท้ายจับมือใครดมไม่ได้เป็นงานที่ท้าทายชุดสืบสวน พล.ต.อ.สุชาติ ลงพื้นที่ร่วมทำคดีด้วยตัวเอง ใช้เทคนิคการสืบสวนและหลักฐานด้านนิติวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วยคลี่คลายคดี สุดท้ายได้พยานหลักฐานชิ้นสำคัญรอยนิ้วมือที่อยู่บนรถ จยย.คนร้ายใช้ก่อเหตุ เป็นหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์เปรียบเทียบยืนยันตัวคนร้ายที่เป็นคนลงมือยิงและคนพาหลบหนีคณะทำงานรวบรวมพยานหลักฐานให้พนักงานสอบสวน บก.ป. ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาขออนุมัติหมายจับ นายปิติ นิชรัตน์ อายุ 54 ปี มือปืน และ นายนิติพนธ์ หรือแบน ฉ่ำชื่น อายุ 57 ปี คนพาหลบหนีพล.ต.อ.สุชาติ พร้อม พล.ต.ต.ธีรเดช นำกำลัง กก.ปพ.บก.สส.ภ.2 หรือ “บูรพา 491” และ กก.สสน.บก.ป. หรือ “ชุดหนุมาน” และ บก.สส.ภ.2 บก.ป. บก.สส.ภ.2 บก.สส.ภ.จ.ระยอง สภ.บ้านค่าย จ.ระยอง และ ชุดนักสืบ 5 จี เปิดปฏิบัติการบุกจับนายปิติ มือปืนได้ที่ปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์ ถ.รัชดาภิเษก กทม. และจับกุมนายนิติพนธ์ได้ริมถนนสายบ้านถิ่น-บ้านชำ หน้าฌาปนสถานบ้านถิ่น ม.3 ต.บ้านถิ่น อ.เมือง จ.แพร่นายปิติรับสารภาพว่า รับจ้าง 8 หมื่นบาทยิงผู้เสียชีวิต นายนิติพลเป็นผู้รับงานและรู้จักตัวผู้ตาย แต่นายนิติพลอ้างว่าไม่รู้ตัวคนที่จ้าง รับว่าช่วงเดือน ก.ค. นายปิติและนายนิติพนธ์มาสำรวจพื้นที่ก่อนลงมือก่อเหตุ ทีมสืบสวนนำอาวุธปืนของกลางที่ยึดได้นำมาตรวจสอบเป็นปืนคนละกระบอกที่ใช้ก่อเหตุแนวทางการสืบสวนพบข้อมูลความเชื่อมโยงของนายนิติพนธ์ รู้จักผู้มีอิทธิพลพื้นที่ระยอง พล.ต.อ.สุวัฒน์ และ พล.ต.อ.สุชาติ ตรวจสอบสืบสวนทางลึกมูลเหตุเป็นเรื่องการเมืองท้องถิ่นและมีคนอยู่เบื้องหลังหลัง พล.ต.อ.สุชาติ ขมวดปมสังหารทนายคนดังนำกำลัง ชุดหนุมาน และ ชุดบูรพา 491 ขยายผลปูพรมเข้าตรวจค้นเป้าหมายที่เกี่ยวข้อง 6 จุดในพื้นที่ บช.ภ.2 และ กทม.อีก 1 จุด จับกุม นายกำธร หรือตุ้ม กำกัดวงษ์ อายุ 39 ปี ได้ที่บ้านเลขที่ 94/2 ม.3 ต.น้ำคอก อ.เมือง จ.ระยอง ผู้ครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต พบอาวุธปืน 4 กระบอก กระสุนปืน 48 นัด สมุดบัญชีเงินฝากและเอกสารการเงินเพื่อกดดันกลุ่มทีม “ผู้บงการ” ฆ่าทนายคนดังให้มีการเคลื่อนไหวเป็นพิรุธออกมาขออนุมัติหมายจับ นายเสถียร บุญกล้า อายุ 52 ปี ลูกจ้างอัตราจ้าง อบจ.ระยองและขับรถนักการเมืองท้องถิ่นข้อหา “เป็นผู้สนับสนุนให้ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” ก่อนบุกจับได้ที่ลานจอดรถ รพ.ระยอง ตรวจค้นที่บ้านพักพบปืนลูกโม่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งได้สั่งซื้ออาวุธปืนกระบอกนี้มาช่วงก่อนเกิดเหตุเพียง 10 วันตามมาด้วยการขออำนาจศาลขออนุมัติหมายจับและเข้าจับกุม นายชัชชาย หรือขาว ปาตมิตร คนขับรถ นายปิยะ ปิตุเตชะ หรือ “นายกช้าง” นายก อบจ.ระยอง ข้อหา “เป็นผู้ใช้จ้างวานฆ่าผู้อื่น โดยไตร่ตรองไว้ก่อน” ซึ่งแนวทางสืบสวนและ คำให้การผู้ต้องหาระบุว่า นายชัชชายนำเงิน 8 หมื่นบาท มาจ่ายให้ทีมมือปืนรับงานแนวทางสืบสวนขยายผลเชื่อว่า นายเสถียรและนายชัชชาย คือตัวละครสำคัญโยงผู้จ้างวานแม้ขณะนี้พยานหลักฐานทางคดียังเชื่อมไปได้ไม่ถึงตัวผู้บงการ เนื่องจากกลุ่มผู้จ้างวานและทีมมือปืนวางแผนแนบเนียนและตัดตอน “คนจ้างวาน” อีกทอด แต่คณะทีมสืบสวน ตร. ที่เข้าร่วมทำคดีได้แนวทางก่อคดีของกลุ่มคนร้าย ใครอยู่เบื้องหลัง “สั่งตาย” และตัดประเด็นเหตุขัดแย้งอยู่ที่เรื่องการเมืองท้องถิ่นเพียงเรื่องเดียวพล.ต.อ.สุชาติ นำตัวผู้ต้องหาเข้าสอบเค้นเพื่อเตรียมขออนุมัติหมายจับกุมผู้อยู่ร่วมขบวนการ เร่งคลี่คลายปมข้อสงสัยคดีจ้างฆ่าทนายคนดัง และสร้างความเชื่อมั่นลดความหวาดกลัวของผู้คนในพื้นที่เมืองระยองเป็นการทิ้งทวน 2 นักสืบ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข และ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ตำนานสืบสวนที่วางรากฐานงานสืบสวนตำรวจไทย อยู่เบื้องหลัง “ทีมไทยแลนด์” ที่รวบรวมนักสืบมือดีคลี่คลายคดีสำคัญก่อนครบวาระเกษียณราชการในอีกไม่กี่วัน.ทีมข่าวอาชญากรรม
