ตั้งใจสืบทอดตำนานมารดา ลำยงค์ แห่งห้องเสื้อ ระพี แต่ พิจิตรา บุณยรัตพันธุ์ ก็เจอมาปัญหาสารพัด ทั้งเรื่องธุรกิจและสงครามเชื้อโรค จนไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหน งานครบรอบ 40 ปี เมื่อปี 2020 แต่ คุณเจี๊ยบ ก็อดทน ทำงานมาเรื่อยๆ รอจังหวะ ซึ่งทุกครั้งที่มือถือเข็ม จับกรรไกร สายวัด คุณเจี๊ยบ–พิจิตรา ไม่เคยไม่คิดถึงมารดา ที่บ่มเพาะทักษะในการจับผ้า เย็บผ้า ตัดผ้า สร้างสีสันให้ผืนผ้า เกิดเป็นความงามจากแรงบันดาลใจที่ไม่ต้องปรุงแต่ง จนเป็นความถนัดที่ฝังอยู่ในเลือด สมเป็นลูกสาวคนเดียวของ คุณลำยงค์ กับคุณพ่อ อารีย์ บุณยรัตพันธุ์ ที่ได้รับการปลูกฝังให้มาทางสายนี้ คุณเจี๊ยบ จึงถูกส่งไปเรียนที่สวิสและฝรั่งเศสถึง 9 ปี ซึ่งก็เรียนบ้าง และใช้ชีวิตวัยเด็กสนุกสนาน ดูหนัง ดูละคร แต่สิ่งหนึ่งที่ชอบมากคือเดินดูร้านเสื้อผ้าสวยๆ ทำให้ถึงจะเที่ยวเก่ง แต่ คุณเจี๊ยบ ก็เก็บเงินซื้อจักรเย็บผ้า (มือสอง) ได้ 1 คัน จากนั้นก็เริ่มต่อผ้า จากผ้าปูโต๊ะ ผ้าม่าน หมอน กระเป๋า ของแต่งบ้าน และจบด้วยการซื้อเสื้อ vintage มาแก้ไว้ใส่เอง--ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ได้จากการฝึกงาน (นอกโรงเรียน) จริงๆ คุณเจี๊ยบ จึงได้เปรียบดีไซเนอร์คนอื่นๆ ทั้งประสบการณ์การเรียนแฟชั่นจากเมืองแฟชั่นระดับโลก และที่สำคัญคือ โตมากับงานประดิษฐ์ของมารดา ซึ่งในสมัยนั้นถวายงานเป็นช่างฉลองพระองค์ใน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และยังมีลูกค้าเป็นสุภาพสตรีระดับประเทศ และสตรีผู้มีรสนิยมสูง คุณเจี๊ยบ จึงคุ้นเคยกับความประณีตในการตัดเย็บชุดไทย การปักมือด้วยดิ้นทองและลูกปัด การตัดชุดเข้ารูปสวยๆ ให้ผู้เข้าประกวดความงาม ฯลฯ แม้ภายหลัง คุณเจี๊ยบ มีครอบครัว แต่ยังกลับไปหาคุณแม่ทุกค่ำ เหมือนลูกศิษย์ยังกลับไปให้อาจารย์สอน ช่วยวาดรูป ทำสเกตช์ จึงมีส่วนร่วมในการทำงานชิ้นพิเศษมากมาย เช่น ชุดไทย และชุดรับรางวัลของ ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก Miss Universe ปี 1988 เมื่อ คุณเจี๊ยบ เปิดร้านเล็กๆมีลูกน้อง 5 คน มีจักรเย็บผ้ารุ่นใช้เท้าเหยียบขึ้นลงๆ เวลาไปซื้อผ้าที่สำเพ็ง ก็ใช้บริการรถตุ๊กๆ คุณเจี๊ยบ จึงได้ใช้วิชาอย่างสนุกสนาน จนเกิดเป็นห้องเสื้อ PICHITA , ATELIER PICHITA และ PICHITA HAUTE COUTURE จากลูกน้อง 5 กลายเป็นครึ่งร้อย เพราะงานล้นมือ และไปแสดง Fashion ในต่างประเทศนับครั้งไม่ถ้วน--แต่วันหนึ่ง คุณเจี๊ยบ ก็พบสัจธรรมชีวิตว่าไม่มีอะไรแน่นอน เพราะพบเรื่องราวที่ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไป ทั้งสุขภาพที่ถดถอยลง จากลูกน้อง 50 คนก็ลดเหลือ 20 คน แต่ด้วยใจรักงานเสื้อผ้าเต็มหัวใจ คุณเจี๊ยบ ก็ยังทำต่อมาอย่างอดทนสู้ จนคิดว่าถึงเวลาแล้ว ที่จะนำประสบการณ์ต่างๆ มาแสดงผลงาน ในโอกาสครบ 42 ปี ATELIER PICHITA พอบอกเพื่อนๆน้องๆ ว่าอยากฝากผลงานชิ้นพิเศษไว้ในวงการแฟชั่น คุณเจี๊ยบ ก็แสนซึ้ง เพราะทุกคนช่วยเต็มที่ ทำให้ได้ตัว อาตง และ พิไล จากละคร กรงกรรม ทั้ง แพร์–พิชชาภา พันธุมจินดา แชมป์–ชนาธิป โพธิ์ทองคำ กลับมาถ่ายแฟชั่นคู่ ได้สถานที่สุดเท่ FLYFIRE Bar บาร์เรียบเก๋ร่วมสมัย สวยระยิบระยับ แฟชั่นเซต 42 ปี ATELIER PICHITA ซึ่งได้ตัวที่ The Sindhorn Kempinski Hotel Bangkok เมื่อนายแบบนางแบบใส่ชุดสวยประณีต ที่ทีมช่างพิจิตราประดิษฐ์สุดฝีมือ และเครื่องประดับจาก SARRAN โดยมี คุณตุ๊–วีระพจน์ อัศวาจารย์เป็นตากล้อง จึงทำให้แฟชั่นเซตฉลอง 42 ปี ATELIER PICHITA สะท้อนความหรู เรียบโก้ ตามสไตล์ พิจิตรา ทุกอณู จน คุณเจี๊ยบ–พิจิตรา ตื้นตันน้ำตาหยด. โสมชบา