ผมเพิ่งรู้ว่า เข้าใจความหมาย เรื่อง คำถามสามข้อของ จักรพรรดิ ที่เคยเล่า ลึกซึ้งไม่พอ เมื่อได้อ่านเรื่องที่พระอาจารย์พรหม เขียนไว้ใน “ชวนม่วนชื่น” เล่ม 1บางคนที่ยังไม่เคยได้อ่าน ก็ลองอ่านกันอีกสักครั้งครั้งหนึ่งนานมาแล้ว จักรพรรดิองค์หนึ่งทรงแสวงหาปรัชญาในการดำเนินชีวิต เพื่อใช้ทั้งในการปกครองบ้านเมืองและควบคุมตัวพระองค์เองในช่วงเวลาแสวงหายาวนาน องค์จักรพรรดิก็สรุปได้ ทรงต้องการคำตอบสำหรับปัญหาสามข้อ1.เวลาสำคัญที่สุดคือเวลาใด? 2.บุคคลสำคัญที่สุดคือใคร? 3.สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องทำคืออะไร?แต่ก่อนที่จะเฉลยคำตอบ พระอาจารย์พรหม ก็วิสัชนาเสียเอง เราทุกคนรู้คำตอบของปัญหาที่ 1 แต่เราก็มักจะลืม แน่นอน เวลาที่สำคัญที่สุด เวลาเดียวจริงๆก็คือเวลาปัจจุบันดังนั้น เมื่อเราอยากจะบอกพ่อแม่ เรารักท่านมากเพียงใด เราซึ้งใจสุขใจเพียงใดที่ได้เกิดเป็นลูกท่าน ก็จงลงมือทำเสียบัดนี้ ไม่ใช่พรุ่งนี้ ไม่ใช่อีกห้านาทีข้างหน้าเพราะหากมัวรออีกห้านาทีข้างหน้า มันอาจจะสายเกินไปมาถึงคำถามที่สอง บุคคลสำคัญที่สุดคือใคร ก็ลึกซึ้งยิ่งขึ้น น้อยคนนักที่จะเดาคำตอบนี้ถูกสมัยเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย พระอาจารย์พรหม เคยถามคำถามโปรเฟสเซอร์ ดูภายนอกเหมือนท่านตั้งใจฟัง แต่ภายในดูเหมือนท่านอยากให้เราไปๆเสียที...นั่นเป็นความรู้สึกที่ไม่ดีเอาเสียเลยต่อมานักศึกษาคนเดียวกันรวบรวมความกล้าเข้าไปถามองค์ปาฐกมีชื่อเสียงมาก แม้เป็นคำถามส่วนตัว องค์ปาฐกกลับตั้งใจฟัง แสดงให้รู้ว่านักศึกษาที่ถามเป็นคนสำคัญประสบการณ์ที่แตกต่างนั้น พระอาจารย์พรหม ใช้เป็นบทสรุป การสื่อสารและความรัก สามารถแบ่งปันกันได้กับคนที่เราอยู่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม เขาเป็นคนสำคัญที่สุดในโลกของเราสามีภรรยามักบ่นคู่ครองของเขาไม่เคยฟังเขาเลย ในทางธุรกิจ คนที่เราอยู่ด้วยเป็นผู้มีโอกาสเป็นลูกค้า ถ้าเราปฏิบัติต่อเขา ราวกับว่า เขาเป็นคนสำคัญที่สุด ยอดขายของเราก็คงจะพุ่งขึ้นจักรพรรดิในเรื่องเล่า รอดพ้นจากถูกลอบสังหาร เพราะทรงตั้งใจฟังคำแนะนำของเด็กผู้ชายเล็กๆระหว่างทางไปหาฤาษีและบุคคลสำคัญที่สุดอีกคนที่เรามักเผลอลืม พระอาจารย์พรหมบอก ที่แท้ ก็คือตัวเราเองตื่นเช้าขึ้นมา อย่าลืมอรุณสวัสดิ์ให้ตัวเอง ก่อนนอน อย่าลืมราตรีสวัสดิ์ให้ตัวเองคำตอบข้อสาม สิ่งสำคัญที่สุดที่จะต้องทำคืออะไร...คำตอบ คือปฏิบัติต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยความเมตตากรุณา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ได้คำตอบจากฤาษีแล้ว องค์จักรพรรดิเริ่มปฏิบัติ ทรงให้เวลาสำคัญที่สุด คือเวลาปัจจุบัน คนตรงหน้า คือคนสำคัญที่สุด และทรงเมตตากรุณาเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อทุกคน รวมไปถึงราษฎรในบ้านเมืองไม่นานนัก องค์จักรพรรดิก็พบว่า ทรงพบวิถีชีวิตที่ถูกต้องแล้ว ไม่เพียงทรงควบคุมพระองค์เองได้ ทรงควบคุมบ้านเมืองให้ปกติสุข ชนิดที่ไม่เคยมีองค์จักรพรรดิองค์ไหนทำได้สายเกินไปหรือไม่ ผมก็ไม่รู้ กับบางคน...ที่กำลังเจอความสับสนทางการเมือง ชื่อยี่ห้อบอกว่าเป็นผู้นำ แต่ในความเป็นจริง ทั้งคนในพรรค คนนอกพรรค กระทั่งใน ครม. ท่านนำใครไม่ได้เลย.กิเลน ประลองเชิง