วิหารของฟาโรห์แอเมนโฮเทปที่ 3 (Amenhotep III) ที่ครองราชย์อาณาจักรอียิปต์เมื่อ 3,300 ปีที่แล้ว ในช่วงศตวรรษที่ 14 เป็นที่รู้กันว่า เต็มไปด้วยวัตถุโบราณและครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานที่โดดเด่นของเมืองลักซอร์ในอียิปต์ แต่การถูกกัดเซาะโดยน้ำท่วมหลายครั้งในช่วงหลายพันปีและเหตุแผ่นดินไหวในสมัยโบราณอย่างน้อย 1 ครั้ง ทำให้มีความพยายามในการบูรณะสถานที่แห่งนี้มานานหลายทศวรรษ รวมถึงฟื้นฟูประติมากรรมหินขนาดใหญ่ของฟาโรห์แอเมนโฮเทปที่ 3 ที่เรียกว่า “โคลอสซี ออฟ เมมนอน” (Colossi of Memnon) ด้วยเช่นกันล่าสุดกระทรวงการท่องเที่ยวและโบราณวัตถุของอียิปต์ประกาศว่าทีมโบราณคดีอียิปต์และเยอรมนีได้ค้นพบซากประติมากรรมสฟิงซ์ขนาดใหญ่ 2 ชิ้น แต่ละชิ้นมีความยาวเกือบ 10 เมตร ที่วิหารสุสานฝังพระศพของฟาโรห์แอเมนโฮเทปที่ 3 ทีมนักโบราณคดีเผยว่าประติมากรรมดังกล่าวจมอยู่ในคูน้ำในอาคารสุสานที่รู้จักกันในชื่อ Temple of Millions of Years ส่วนลักษณะของ 2 สฟิงซ์มีเครื่องแต่งศีรษะรูปคล้ายพังพอน มีเคราเหมือนกับเจ้าในราชวงศ์ และสวมสร้อยคอ ส่วนบริเวณหน้าอกพบอักษรเขียนว่า “The beloved of Amun-Re”นอกจากนี้ ทีมนักโบราณคดียังได้ค้นพบรูปปั้น 3 องค์ที่แทบจะไม่บุบสลายเลยของเทพธิดาเซคเมต (Sekhmet) ผู้พิทักษ์อียิปต์และอุปถัมภ์ด้านการสงคราม ลักษณะคล้ายสิงโตของสุริยเทพ ส่วนสภาพซากของโถงก็มีเสาขนาดใหญ่ และผนังทั่วทั้งโถงประดับด้วยภาพพิธีกรรมอันโอ่อ่า.