เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์และเว็บไซต์ด้านธุรกิจหลายๆ สำนัก พร้อมใจกันเสนอข่าวใหญ่ข่าวหนึ่งว่า กลุ่ม “เซ็นทรัล” จากประเทศไทยของเรา ร่วมมือกับ “กลุ่มซิกม่า” หนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจห้างสรรพสินค้าของยุโรป ได้ลงนามในสัญญาเข้าซื้อกิจการของกลุ่ม “เซลฟริดเจส” (Selfridges) แห่งอังกฤษ เป็นที่เรียบร้อยประกอบไปด้วยตัวห้างใหญ่ที่ถนนออกซ์ฟอร์ด กรุงลอนดอน ไปจนถึงห้างสาขาและห้างชื่ออื่นๆในเครือเซลฟริดเจส ตามเมืองต่างๆ ของอังกฤษไปจนถึงที่ดำเนินกิจการอยู่ในไอร์แลนด์ และเนเธอร์แลนด์มูลค่ารวมทั้งสิ้นถึง 4,000 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 1.8 แสนล้านบาท โดย เซ็นทรัล กับซิกม่า จะร่วมทุนกันแบบฟิฟตี้-ฟิฟตี้ หรือถ้าใช้สำนวนที่ฮิตที่สุดในประเทศไทยยามนี้ก็คือ “คนละครึ่ง” นั่นเองผมอ่านข่าวไปก็อดชูหัวแม่โป้งให้แก่ห้างเซ็นทรัลเสียมิได้...ประสากองเชียร์ที่เชียร์ประเทศไทยหรือคนไทยต่างๆที่ไปประสบความสำเร็จในต่างแดนมาโดยตลอดเพราะเท่าที่ผมพอมีความรู้อยู่บ้าง...ห้าง “เซลฟริดเจส” นั้น เป็นห้างอันดับ 2 ของอังกฤษ รองจาก แฮร์รอดส์ เชียวนะนั่นเซ็นทรัลสามารถเข้าเทกโอเวอร์กิจการห้างนี้ได้ แม้จะ 50 เปอร์เซ็นต์ ด้วยการหุ้นกับคนอื่นก็เหอะ...ต้องถือว่า “ไม่ธรรมดา” อย่างแน่นอนนอกจากนี้เท่าที่เราติดตามข่าวกันมาเซ็นทรัลก็ซื้อกิจการหรือไปลงทุนอยู่ก่อนแล้วในหลายประเทศของยุโรป ตั้งแต่สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี ออสเตรีย อิตาลี ไปจนถึงเดนมาร์กในเอเชียก็มีทั้งญี่ปุ่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม ลาว เมียนมาขอชื่นชมด้วยใจจริง จากความสำเร็จอันใหญ่หลวงของกลุ่มเซ็นทรัล ที่ใช้เวลา 74 ปี จากห้างเล็กๆ 2 คูหาที่ถนนเจริญกรุง เติบโตจนมีห้างเต็มประเทศไทย แถมก้าวไกลไปอีกหลาย 10 ประเทศทั่วโลกเมื่อชื่นชมแล้วผมก็นึกถึงข้อเขียนช่วงหนึ่งของผมหลังโควิด-19 ระบาดรอบแรก ทำให้เศรษฐกิจของประเทศไทยพลอยเสียหายยับเยินไปด้วยพอดี “บิ๊กตู่” ท่านมีจดหมายไปขอความร่วมมือจากเศรษฐีใหญ่น้อย หลายๆท่านให้ช่วยเหลือพี่น้องชาวไทยและประเทศไทยด้วยผมก็หยิบมาเขียนตามน้ำว่าผมเห็นด้วยกับบิ๊กตู่ และอยากจะขอร้องท่านเศรษฐีมหาเศรษฐีที่เติบโต และเจริญรุ่งเรืองมาได้เพราะประเทศไทยว่า ถึงเวลาแล้วที่ท่านทั้งหลายจะ “ตอบแทนพระคุณ” แผ่นดินไทยรวมทั้งเอ่ยชื่อเศรษฐีไปหลายๆท่าน แต่เข้าใจว่าคงไม่ได้เอ่ยถึง “เซ็นทรัล” ในช่วงเวลาดังกล่าวพอมาอ่านเจอข่าวนี้เข้าก็รีบลงบัญชีเอาไว้ทันที พร้อมกับขอถือโอกาสที่จะขอความร่วมมือจากกลุ่มเซ็นทรัลอีกแรงหนึ่งในวันนี้ไม่ว่าท่านจะไปลงทุน ณ แห่งหนใดในโลกนี้ ขอให้นึกถึงประเทศไทยของเราเองไว้โดยตลอดมีทางใดที่จะช่วยสนับสนุนสินค้าจากประเทศไทยได้ ไม่ว่าสินค้าเกษตร สินค้าด้านอาหาร สินค้าหัตถกรรมฝีมือชาวบ้านไปจนถึงสินค้าอุตสาหกรรมของ SME ต่างๆ...ก็ขอให้ช่วยสนับสนุนด้วยอย่างเต็มที่รวมทั้งหามุมใดมุมหนึ่งของห้างในทุกประเทศ เพื่อเป็นมุมประชาสัมพันธ์ประเทศไทย ให้คนในชาตินั้นอยากมาประเทศไทยผมเชื่อว่าทุกวันนี้เซ็นทรัลก็ทำในทำนองนี้อยู่แล้ว เพราะเคยอ่านเจอบทสัมภาษณ์ของผู้บริหารเซ็นทรัลหลายๆครั้งแต่ก็ต้องขออนุญาตที่จะนำมาเขียนขอร้องอย่างเป็นทางการ โดยมีท่านผู้อ่านไทยรัฐทั่วประเทศไทยเป็นสักขีพยานอีกครั้งหนึ่งขอขอบคุณล่วงหน้าสำหรับการนึกถึงประเทศไทย และพร้อมจะตอบแทนพระคุณของแผ่นดินไทยอย่าให้แพ้ “น้องลิซ่า” หรือ ลลิษา มโนบาล เชียวนะครับ ที่เมื่อดังระดับโลกแล้วก็นึกถึงประเทศไทยตลอดเวลา...แม้ตัวเองจะได้เป็นพรีเซนเตอร์ขายสินค้า “แบรนด์เนม” สารพัดยี่ห้อ แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะขาย “ลูกชิ้นยืนกิน” บุรีรัมย์ควบคู่ไปด้วยผมก็หวังว่าเมื่อ “เซ็นทรัล” ยึดห้างสรรพสินค้าได้ที่ไหนก็ตามในโลกนี้แล้ว...จะขายสินค้า “แบรนด์เนม” โด่งดังแค่ไหนก็ขายไปเถิด แต่อย่าลืมช่วยขายสินค้า “โนเนม” ของไทยเราควบคู่ไปด้วยก็แล้วกัน.“ซูม”