ขอแสดงความอาลัยต่อสมเด็จกรมพระนโรดม รณฤทธิ์ ซึ่งสิ้นพระชนม์ขณะพำนักที่ฝรั่งเศส สมัยก่อนตอนที่การเมืองกัมพูชากำลังแรง เมื่อคอลัมน์เปิดฟ้าส่องโลกเขียนถึงเจ้ารณฤทธิ์ หากการวิเคราะห์ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง พระองค์จะทรงมีจดหมายชี้แจงมาถึงผู้เขียนเปิดฟ้าส่องโลกด้วยพระองค์เอง เคยมีการนัดหมายว่าจะพบกันหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยพบกันจริงๆสักทีในโอกาสนี้ ผมขอเล่าถึงกัมพูชาผ่านบทบาทของเจ้ารณฤทธิ์รับใช้ท่านผู้อ่านครับ สหประชาชาติตั้งหน่วยงานเพื่อใช้อำนาจที่ชอบธรรมในการเปลี่ยนผ่านในกัมพูชาของสหประชาชาติ หรือที่เรียกกันสั้นๆว่า อันแทค 16 มีนาคม 2535 นายยาสุชิ อะกาชิ ผู้นำอันแทค เดินทางเข้ากัมพูชา พร้อมเจ้าหน้าที่พลเรือนและทหาร 2.2 หมื่นคน ทั้งรักษาสันติภาพและปลดอาวุธกลุ่มที่รบพุ่งกันอันแทคทำงานสำเร็จจนสามารถตั้งสภาแห่งชาติสูงสุด โดยมีเจ้านโรดม สีหนุ เป็นประธานการเลือกตั้งครั้งแรกของกัมพูชามีขึ้นระหว่าง 23-28 พฤษภาคม 2536 มีคนใช้สิทธิมากถึง 4.2 ล้านคน ครั้งนี้ชื่อของ เจ้ารณฤทธิ์โดดเด่นเป็นพิเศษ เพราะเป็นหัวหน้าพรรคฟุนซินเปก ซึ่งเป็นฝ่ายนิยมกษัตริย์ได้ ส.ส.ถึง 58 ที่นั่ง ส่วนพรรคประชาชนกัมพูชาของฮุนเซนได้ 51 ที่นั่งตัวละครในการเมืองกัมพูชาฝ่ายเจ้าในสมัยนั้นมี 4 องค์ คือ 1.เจ้านโรดม สีหนุ 2.เจ้านโรดม รณฤทธิ์ 3.เจ้านโรดม จักรพงษ์ ผู้เป็นพี่น้องต่างมารดาของเจ้ารณฤทธิ์ และ 4.เจ้านโรดม สิริวุฒิ ต่อมาเป็นเลขาธิการพรรคฟุนซินเปกภายหลังการกระทำของเจ้าเขมรทั้งหลายไม่ค่อยได้รับการสนับสนุนจากประชาชนเพราะทำงานการเมืองไม่ค่อยเข้าตาผู้คน อย่างการเลือกตั้งที่เจ้ารณฤทธิ์ชนะเป็นอันดับ 1 แต่ น้องชายคือเจ้าจักรพงษ์กลับออกไปปลุกระดมให้ประชาชนไม่รับผลการเลือกตั้งที่จังหวัดสวายเรียง ตอนหลังเจ้าจักรพงษ์จึงต้องหนีไปอยู่เวียดนามกัมพูชาในยุคนี้มีนายกรัฐมนตรีถึง 2 คนในเวลาเดียวกันคือ เจ้ารณฤทธิ์และนายฮุน เซน รัฐบาลอยู่ได้เพียงปีเดียวก็ต้องปลดนายสม รังสี ออกจากรัฐมนตรีคลัง นายสม รังสี เป็นหลักสำคัญของฝ่ายเจ้าที่ต้องระเหเร่ร่อนมาตั้งพรรคชาติเขมร รัฐมนตรีคลังฝ่ายเจ้าโดนปลดได้ 5 เดือน เจ้าสิริวุฒิก็โดน จับกักบริเวณข้อหามีส่วนเกี่ยวดองหนองยุ่งกับการลอบสังหาร ฮุน เซน สภามีมติถอดถอนเอกสิทธิ์ของ ส.ส. เจ้าสิริวุฒิต้องเข้าไปนอนในคุก ร้อนถึงเจ้าสีหนุต้องไปเจรจากับฮุน เซน ขอให้เจ้าสิริวุฒิได้ลี้ภัยไปอยู่ฝรั่งเศสแต่เริ่มการเมืองยุคใหม่ได้เพียงปีเดียว ฝ่ายเจ้าเสียศูนย์ในเรื่องใหญ่ทางการเมืองถึง 3 เรื่อง ยังไม่นับรวมเรื่องส่วนตัว เช่น เรื่องผู้หญิงของเจ้ารณฤทธิ์ที่ถูกปฏิบัติการจิตวิทยาแพร่กระจายขยายข่าวไปจนเกิดความเสียหายเป็นนายกรัฐมนตรีร่วมกันได้ 4 ปี ฝ่ายเจ้าก็เพลี่ยงพล้ำอีก พ.ศ.2540 เจ้ารณฤทธิ์ไปขอความช่วยเหลือจากเขมรแดงเพื่อจะยึดอำนาจการปกครองไว้แต่เพียงฝ่ายเดียว ฮุน เซน รู้ข่าวก็เลยทำรัฐประหาร สั่งจับแกนนำสำคัญของพรรคฟุนซินเปก และยึดพื้นที่สำคัญทั่วประเทศฝ่ายเจ้าโดยการนำของเจ้ารณฤทธิ์ และพลเอกยึก บุญชัย มาตั้งฐานที่มั่นอยู่ที่โอร์เสม็ด ซึ่งติดกับชายแดนจังหวัดสุรินทร์ โดยมีพวกเขมรแดงช่วย ตอนนั้นรบพุ่งกันน่าดู ฝ่ายเจ้าตายไปเยอะ ถูกจับก็แยะ เจ้ารณฤทธิ์ต้องลี้ภัยไปอยู่ฝรั่งเศสฮุน เซน ต้องการให้การเลือกตั้งอยู่ยาวจนครบวาระ 5 ปี จึงขอให้ฟุนซินเปกส่งคนมาเป็นนายกฯคนที่ 1 แทนเจ้ารณฤทธิ์ ฟุนซิกเปกก็ตั้งนายอึง ฮวด มาเป็นนายกฯแทน เจ้าสีหนุไม่ยอมลงพระนามรับรองนายอึง ฮวด ฝ่ายฮุน เซน จึงให้นายเจีย ซิม ประธานสภา ลงนามแทนการเมืองกัมพูชาผ่านประวัติของเจ้ารณฤทธิ์น่าสนใจครับ ทำให้เราเข้าใจว่า ทำไมฮุน เซน จึงยืนยงคงกระพันในการเมืองกัมพูชา และทำไมฝ่ายเจ้าจึงพ่ายแพ้.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.com