โลกเศรษฐกิจการค้ายุคใหม่...ยุค “New Normal” หัวใจสำคัญ คือใช้เทคโนโลยีช่วยทำการค้าเป็น...“อีคอมเมิร์ซ”จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ผ่านการเจรจาการค้ามาหลายกลุ่มทั้ง FTA ทวิภาคี หรือแบบพหุภาคีน่าสนใจว่า...ไม่มีข้อตกลงทางการค้าไหนในปัจจุบันที่ไม่ระบุว่าด้วยเรื่อง “อีคอมเมิร์ซ” หรือ “Digital Economy” “สัปดาห์ที่แล้วก็ได้ไปประชุมรัฐมนตรีการค้า APEC Digital Economy เป็นหัวข้อที่มีความสำคัญยิ่ง และ...ปีนี้เราจะเป็นเจ้าภาพรับไม้ต่อจากนิวซีแลนด์วันนี้ และ RCEP เราให้สัตยาบันไปแล้ว จะมีผลบังคับใช้ต้นปีหน้า ก็มีบทบัญญัติว่าด้วยอีคอมเมิร์ซ” นี่คือประเด็นสำคัญของ “อีคอมเมิร์ซ” การค้าที่ต้องใช้เทคโนโลยีอาเบล เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด เสริมว่าหัวเว่ยเชื่อมั่นว่าการส่งเสริมทักษะด้านดิจิทัลเป็นพื้นฐานสำคัญ เป็นเครื่องมือช่วยพัฒนาศักยภาพและสร้างโอกาสการทำงาน ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของท่านรองนายกฯ คุณจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ท่านได้ให้ความสำคัญในการที่จะยกระดับขีดความสามารถให้กับผู้ประกอบการไทย รวมถึงทางภาครัฐที่ให้ได้รับความไว้วางใจและร่วมมือกับหัวเว่ย ประเทศไทย ในการช่วยต่อยอดศักยภาพของบุคลากรไทย เพื่อการก้าวไปสู่การเป็น “ประเทศไทย 4.0”“เรามุ่งมั่นพัฒนาบุคลากรและอุตสาหกรรมด้านไอซีทีของไทยต่อไปภายใต้พันธกิจ Grow in Thailand, Contribute to Thailand เพื่อผลักดันประเทศไทยให้เปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัลและมีการเติบโตและพัฒนาอย่างยั่งยืน”พุ่งเป้าไปที่โครงการกระจายความรู้สู่ผู้ประกอบการยุคใหม่ “Gen Z to be CEO” จึงเป็นอีกหนึ่งจิ๊กซอว์ชิ้นเล็กๆที่สำคัญ ตามนโยบาย จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่มีความสำคัญในการสร้างฐานความแกร่งให้เศรษฐกิจประเทศไทยภาพใหญ่ “ประเทศไทย” มีสถาบันอุดมศึกษาทั้งของ “รัฐ” และ “เอกชน” กว่า 100 แห่ง...มีนิสิตนักศึกษารวมกันกว่า 1 ล้านคน มีคณาจารย์นักวิชาการหลายแสนคน เป็นขุมกำลังทางปัญญาที่ใหญ่ที่สุด ทำอย่างไร...ขุมกำลัง 100 มหาวิทยาลัย จะเป็น “พลังทางปัญญา” พาชาติออกจากวิกฤตินี่คือประเด็นเร่งด่วนที่ อาจารย์หมอประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส ย้ำเสมอเหมือนว่า “ผู้ใหญ่” ต้องตีโจทย์ให้แตกและลงมือปฏิบัติโดยเร็วพลันข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติสำรวจปีล่าสุด “ประเทศไทย” มีประชากร 66.5 ล้านคน เป็นกลุ่มคนเจเนอเรชันซี 13 ล้านคนโดยมี “เจนซี” ที่อยู่ในภาคใต้มากถึงเกือบ 2.13 ล้านคน หรือร้อยละ 16.41 ของเจนซีทั้งประเทศ แสดงให้เห็นถึงโอกาส...ศักยภาพของคนรุ่นใหม่ในภาคใต้ที่สามารถเติบโต พัฒนาก้าวขึ้นมาได้ในอนาคตย้อนไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เหลียวไปมองตัวเลขการ “ส่งออก” ของไทยโตขึ้นถึง 43.82% เป็นอัตราการขยายตัวที่สูงสุดในรอบ 11 ปี และตัวเลขการส่งออกครึ่งแรกของปี 2564 ขยายตัวถึง 15.53% โดยปัจจัยที่ทำให้การส่งออกของไทยขยายตัวมากขึ้นมาจากการเริ่มฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกหลังได้รับวัคซีนยิ่งไปกว่านั้นคือมาจากการดำเนินการตามแผนการส่งเสริมการส่งออก “กระทรวงพาณิชย์” ที่เป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยได้เตรียม “แผนกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2564” ด้วยการหนุนสินค้าอาหารและเกษตรส่งออก พร้อมเร่งสร้างทัพผู้ประกอบการรุ่นใหม่ หรือ...น้องๆ “Gen Z” ที่จะมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในอนาคตอันใกล้นี้ จุรินทร์ บอกอีกว่า อีคอมเมิร์ซจะเข้ามามีบทบาทอย่างยิ่ง น้องทุกคนเรียนจบแล้วก็จริงแต่ที่สำคัญต้องเรียนเพิ่มเติม แม้ผู้ที่เป็น CEO เชี่ยวชาญทำการค้าก็จำเป็นต้องศึกษากฎระเบียบ เพื่อแสวงหาความได้เปรียบในการทำธุรกิจการค้ากับโลกต่อไปในอนาคตหลักสูตรปั้น “Gen Z” เป็น “CEO” จึงทันต่อสถานการณ์และมีความทันสมัยอย่างยิ่ง ถือเป็นความร่วมมือของทุกภาคส่วนให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จ นี่เป็นความภาคภูมิใจ 3 ฝ่าย ได้แก่...น้องทั้ง 20,000 คน...น้อง 100 รายที่ประสบความสำเร็จ และน้อง Gen Z Ambassadorsถัดมา...กระทรวงพาณิชย์ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงศึกษาธิการ โดยเฉพาะอาชีวศึกษา ที่นำมาทำ MoU กับกระทรวงพาณิชย์ให้นักศึกษาในสถาบันอาชีวศึกษา 5,000 คน ร่วมโครงการ From Gen Z to be CEO และกระทรวงอุดมศึกษาส่วนราชการอื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาคเอกชน...ภาครัฐถึงตรงนี้ให้รู้เอาไว้ด้วยว่าการจัดโครงการ “Gen Z to be CEO” เป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง เพราะเดิมกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ หรือ NEA ช่วยกันสร้างนักธุรกิจ หรือ CEO รุ่นใหม่ให้กับประเทศแรกเริ่มเดิมทีตั้งเป้าหมายว่าจะทำให้ได้สัก 10,000 คน โดยใช้ระบบเทคโนโลยีมาช่วยในการอบรม แต่เริ่มนับเดือนมิถุนายนปีที่แล้วก็เริ่มต้นที่ 12,000 คน และมีสมัครมาอีกสุดท้ายขึ้นเป็น 20,000 คน ดำเนินการครบ 20,000 คนแล้ว จึงถือว่า...ประสบความสำเร็จมาก “ทุกคนที่เข้ามาเรียนได้รับความรู้การบริหารจัดการธุรกิจ การผลิตสมัยใหม่ การให้บริการยุค New Normal และการตลาด ซึ่งปัจจุบันเราจะทำแต่เรื่องการผลิตเหมือนสมัยในอดีตแล้วไปหาตลาดไม่ทันแล้ว เพราะมีความเสี่ยง ยุคนี้ต้องใช้ตลาดนำการผลิต”เหมือนแนวคิดของกระทรวงพาณิชย์และแนวคิดของวิสัยทัศน์...“เกษตรผลิตพาณิชย์ตลาด”“ซีอีโอ Gen Z ที่ได้รับการอบรมจะมีหลักสูตรต่างๆ และการใช้เทคโนโลยี การบริหารจัดการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ การส่งออก โลกยุคใหม่” จุรินทร์ ว่า“หวังว่าน้องทุกคนที่ผ่านหลักสูตรนี้จะมีอนาคตที่งดงามต่อไป ปี 2564 จะมีนักศึกษาที่เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยจบการศึกษา 290,000 คน”คำถามสำคัญมีว่า...จะไปทำอะไร? หรือจะหางานได้ที่ไหน? และปี 2565 อีก 280,000 คน ถ้าหากว่ารวมสองปีที่เจอวิกฤติโควิดจะเป็นตัวเลขมากถึง 570,000 คน นับว่าเป็นภาระหนักของรัฐบาลที่จะต้องเข้ามาช่วยให้น้องๆมีงานทำ อย่างน้อยที่สุดแน่นอนแล้วว่า... 20,000 คนนี้ คิดว่าได้เปรียบไม่แพ้คนอื่น“ถือเป็นแต้มต่อและขออวยพรให้น้องๆทั้ง 20,000 คน ที่เข้าร่วมอบรมสำเร็จได้ดังฝัน ขอให้ทุกคนสามารถก้าวต่อไปเป็นแม่ทัพเจเนอเรชันใหม่ให้กับประเทศไทย เพื่อทำรายได้ให้กับตัวเอง ครอบครัว องค์กร และประเทศของเราต่อไปในอนาคต”จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวทิ้งท้าย.