เรือลากจูงเปล่าเดินทางจากชลบุรี กำลังจะไป ขนแร่ที่ อ.นครหลวง มีเรือลากจูงปิดหัวท้ายและด้านข้างเพื่อควบคุมเส้นทาง ถึงสามแยกจุดบรรจบระหว่างแม่น้ำเจ้าพระยากับแม่น้ำป่าสัก หน้าวัดดังเมืองกรุงเก่า กระแสน้ำเชี่ยวกรากซัดเรือเสียการทรงตัว คนขับกลับเรือเพื่อแก้สถานการณ์แต่ไม่สำเร็จ น้ำไหลทะลักเข้าเรือก่อนจมลงต่อหน้าต่อตาเพื่อนร่วมงานและชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์จำนวนมาก ทำให้คนขับเรือกับภรรยาจมหายไม่ทราบชะตากรรม นักประดาน้ำงมค้นหาจนค่ำไม่พบวี่แวว ขณะที่เจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าสั่งห้ามเรือบรรทุกสินค้าผ่านจุดเกิดเหตุเพื่อความปลอดภัยเรือลากจูงประกบขบวนเรือบรรทุกสินค้าล่มกลางแม่น้ำป่าสักหน้าวัดดังเมืองกรุงเก่า ทำให้คนขับเรือและภรรยาจมหายรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 29 ก.ย. ร.ต.อ.ธนวัฒน์ สกุลวงษ์ รอง สว. (สอบสวน) สภ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเกิดเหตุเรือลากจูงล่มมีผู้สูญหาย 2 คน บริเวณกลางแม่น้ำป่าสัก หน้าท่าเรือวัดพนัญเชิง ต.กะมัง นำกำลังพร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยอยุธยารวมใจ รุดไปสอบสวนที่เกิดเหตุเป็นจุดบรรจบระหว่างเป็นแม่น้ำป่าสัก กับแม่น้ำเจ้าพระยา ลักษณะเป็นสามแยกกระแสน้ำไหลเชี่ยวกรากและน้ำวน พบเรือลากจูงพลิกคว่ำจมอยู่กลางแม่น้ำ ข้าวของในเรือลอยกลางแม่น้ำ โดยมีประชาชนจำนวนมากยืนมุงดูเหตุการณ์ตามริมฝั่ง สอบสวนนายนพดล แซ่ดั่น อายุ 56 ปี เจ้าของบริษัท Cpi ทรานสปอร์ต กรุงเทพฯ ให้การว่า ตนขับรถมาดูเรือบรรทุกแร่ 5 ลำ เป็นเรือเปล่า มีเรือลากจูงปิดหัวท้ายและประกบด้านข้างอย่างละลำ เดินทางมาจาก อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เพื่อไปรับแร่ที่ อ.นครหลวง ตนเห็นเรือล่องจากแม่น้ำเจ้าพระยาเลี้ยวเข้าแม่น้ำป่าสักจนเกือบพ้นทั้งขบวน แต่น่าจะเกิดเหตุร้ายแล้ว จึงเข้าไปในวัดพนัญเชิง ครู่เดียวมีเสียงร้องโวยวายว่าเรือล่ม ออกมาดูพบเรือลากจูงที่อยู่ด้านซ้าย เพื่อช่วยในการควบคุมเส้นทางล่มจมอยู่ไปในน้ำแล้ว มีผู้สูญหาย 2 คน คือนายสมชาย ธารกุลอายุ 62 ปี คนขับเรือ และภรรยาชื่อนางนฤมล จันทร์โชติอายุ 56 ปีด้าน ร.ต.อ.ธนวัฒน์ สกุลวงษ์ รอง สว. (สอบสวน) สภ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ได้สอบปากคำนายจรัญ ศิริสังข์ อายุ 31 ปี ให้การว่า ช่วงเกิดเหตุจะขับเรือลากจูงอยู่ด้านข้างของเรือบรรทุกสินค้า จนถึงจุดเกิดเหตุนั้นมีกระแสน้ำเชี่ยวไหลแรง ส่วนเรือที่จมอยู่ด้านซ้ายเกิดเสียการทรงตัวและเอียงเพราะกระแสน้ำเชี่ยว นายสมชายต้องกลับลำเรือแต่น้ำได้เข้าทางท้ายเรืออย่างรวดเร็ว ก่อนที่เรือพลิกคว่ำจมลง พร้อมยืนยันว่าเรือไม่ได้ชนกันแต่ที่เรือจมเพราะน้ำไหลเชี่ยวแรง ส่วนนายสมชายถือว่าเป็นคนที่ขับเรือลากจูงรับจ้างมาหลายสิบปี เป็นคนมีความชำนาญในการขับเรือ น.ท.รัชตะ ผกาฟุ้ง ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาอยุธยา เปิดเผยว่า ได้ประสานเรือบรรทุกทุกบริษัทห้ามผ่านบริเวณที่เกิดเหตุโดยเด็ดขาด เนื่องจากเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยและเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำและเจ้าของบริษัทเรือนำเรือใหญ่ลงมาทอดสมอเพื่อค้นหาผู้สูญหาย จากนั้นจะกู้เรือขึ้นมา ตลอดระยะเวลา 15 ปี บริเวณจุดเกิดเหตุนี้ไม่เคยมีเรือลากจูงหรือเรือสินค้าลำใหญ่อับปางมาก่อนผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งบริษัทเจ้าของเรือ ได้ทำการงมค้นหาผู้สูญหายอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเวลา 19.40 น. ยังไม่พบตัวผู้สูญหายจนต้องยุติการค้นหาลงชั่วคราว