กลุ่มผู้เสียหายโร่แจ้ง ความตำรวจกองปราบฯ ดำเนินคดีศูนย์บำบัดผู้ติดยาเสพติดวัดท่าพุราษฎร์บำรุง จ.กาญจนบุรี ข้อหาค้ามนุษย์ ชี้พฤติกรรมทำกันเป็นขบวนการตั้งแต่จัดหา นำพา เรียกรับเงิน และกักขังทำร้ายทรมาน แฉกลุ่มตำรวจต่างพื้นที่มีเอี่ยว ทั้งจากกาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด รวมทั้ง อาสาสมัครในเมืองกาญจน์จัดหาเหยื่อส่งเข้าศูนย์ บางคนไม่ได้ติดยาแต่โดนคดีอื่น ก็ถูกส่งมาบำบัด มีผู้เสียชีวิต 2-3 ราย ไม่มีการชันสูตรศพ วอน ผบ.ตร. ตรวจสอบแก๊งสีกากีที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยกรณีศูนย์สงเคราะห์บำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด วัดท่าพุราษฎร์บำรุง ต.ด่านมะขามเตี้ย อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี ถูกร้องเรียนไม่มีมาตรฐาน อีกทั้งเรียกเก็บเงินและทำร้ายร่างกายผู้เข้า รับการบำบัด ภายหลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ ตรวจสอบมีมติให้สั่งปิดศูนย์ เร่งสืบข้อเท็จจริงนำผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินการ พร้อมย้ายผู้บำบัด 254 คน ไปที่ รพ.สนาม ค่ายทหารศูนย์ฝึก รด.เขาชนไก่ อ.เมือง กาญจนบุรี มีญาติทยอยมารับกลับไปบ้างแล้วความคืบหน้าที่กองบังคับการปราบปราม เมื่อ เวลา 10.00 น. วันที่ 22 ก.ย. นายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความ พร้อมด้วยนายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา พาผู้เสียหาย 10 คน จากศูนย์บำบัดยาเสพติด วัดท่าพุราษฎร์บำรุง จ.กาญจนบุรี เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.ภานุพงศ์ จันตระกูล สว. (สอบสวน) กก.5 บก.ป. ให้ดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้องกับศูนย์บำบัด ในข้อหาค้ามนุษย์ โดยผู้เข้ารับการบำบัดร้องเรียนว่าขั้นตอนรักษา ไม่ถูกต้อง ไม่ถูกสุขลักษณะ มีการทำร้ายร่างกาย รวมทั้ง เรียกรับเงินเข้ารับการบำบัดเก็บค่าใช้จ่ายรายเดือนหมอปลากล่าวว่า ลงพื้นที่ตรวจสอบพบสภาพความเป็นอยู่ที่ศูนย์บำบัด ย่ำแย่ไม่ได้มาตรฐานหลังช่วยเหลือผู้บำบัดแล้วไปบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.ด่านมะขามเตี้ย แต่รู้สึกไม่มั่นใจและไม่ปลอดภัยจึงมาแจ้งความกองปราบฯให้ดำเนิน คดีผู้เกี่ยวข้องอย่างตรงไปตรงมา รวมทั้งให้คืนเงินและทรัพย์สินของผู้บำบัดด้วยด้านนายไพศาล ทนายความกล่าวว่า จาก พฤติการณ์ศูนย์บำบัดดังกล่าวเข้าข่ายค้ามนุษย์ เนื่องจากทำกันเป็นขบวนการตั้งแต่จัดหาผู้บำบัดการ นำพา เรียกรับเงินผลประโยชน์ กักขังทรมานทำร้ายทุบตี และที่สำคัญพบว่ามีการเสียชีวิตในสถานบำบัดก่อนหน้านี้ 2-3 ราย โดยไม่มีการชันสูตรพลิกศพ พบว่า มีกลุ่มตำรวจในหลายจังหวัดเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะจากพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ จ.ร้อยเอ็ด และอาสาสมัครใน จ.กาญจนบุรี ที่นำตัวผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเข้ามารับการบำบัดและเรียกรับผลประโยชน์ บางรายไม่ได้เป็นผู้เสพยาเสพติด แต่เป็น ผู้ถูกกล่าวหาในคดีอื่น เช่น ทำร้ายร่างกาย มีการต่อรองกับผู้ปกครองว่าหากนำตัวเข้าบำบัดเป็นเวลา 1 ปี จะไม่ต้องถูกดำเนินคดีแต่ต้องมีค่าใช้จ่าย อยากขอให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ตรวจสอบตำรวจที่ส่งตัวผู้บำบัดมาที่ศูนย์แห่งนี้ด้วยนายเอ (นามสมมติ) หนึ่งในผู้เสียหายกล่าวว่า ดีใจมากที่ได้รับการช่วยเหลือ เข้ารับการบำบัดเป็นเวลา 9 เดือน ก่อนเข้าศูนย์ได้รับการเอกซเรย์ปอด เพียงอย่างเดียว ไม่มีการตรวจเลือดหาสารเสพติด ใช้ชีวิตแต่ละวันเหมือนติดคุก กินข้าววันละมื้อ ทั้งที่พ่อแม่ส่งเงินมาให้ทุกเดือน ตื่นนอนตั้งแต่ตีสามสวดมนต์ หากเสียงดังไม่พอไม่ถูกใจเจ้าหน้าที่ก็ถูกลงโทษไม่ให้กินอาหารเช้า พอมีหน่วยงานเข้ามาตรวจสภาพความเป็นอยู่จะถูกปกปิดข้อมูล ผู้ที่เข้ารับการบำบัดไม่สามารถชี้แจงหรือพูดอะไรได้เพราะจะถูกทำโทษ เบื้องต้นพนักงานสอบสวนรับแจ้งความไว้พร้อมสอบปากคำผู้เสียหาย ขณะเดียวกัน ส่งกำลังตำรวจกองปราบฯลงพื้นที่กาญจนบุรี เก็บหลักฐานที่ศูนย์บำบัด และสอบถามข้อมูลจากผู้บำบัดที่เขาชนไก่ หลังรวบรวมพยานหลักฐานได้ข้อสรุปแล้วจะเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไปที่ รพ.สนาม ค่ายทหารศูนย์ฝึก รด.เขาชนไก่ นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผวจ.กาญจนบุรี นำคณะเหล่ากาชาดจังหวัด นำอาหารและขนมไปแจกจ่ายผู้บำบัดที่ยังเหลือ 40 คน จากที่ถูกย้ายมาจากศูนย์บำบัด 254 คน นอกนั้นมีญาติและผู้ปกครองมารับกลับบ้านไปหมดแล้ว ขณะเดียวกัน นายเสกสม ลินดาพรประเสริฐ ป้องกันจังหวัดกาญจนบุรี นำเจ้าหน้าที่ มาตรวจปัสสาวะผู้รับการบำบัด 40 คน ทั้งหมดไม่พบ ฉี่สีม่วงแต่อย่างใดด้าน พ.ต.อ.อัฑฒาสิษฏฐ์ พุ่มเกตุแก้ว ผกก.สภ.ด่านมะขามเตี้ย ชี้แจงกรณีแม่ของผู้บำบัดคนหนึ่ง ร้องเรียนทีมข่าวว่า ลูกชายถูกทำร้ายร่างกายอย่าง ทารุณและครอบครัวต้องเสียเงินค่าใช้จ่ายให้ศูนย์เกือบ 5 หมื่นบาท ว่าไม่มีการทำร้ายร่างกายตามที่ปรากฏเป็นข่าว ที่พบเห็นเป็นร่องรอยโรคผิวหนัง แต่บางครั้ง อาจมีการทำโทษบ้างแบบครูตีนักเรียน ส่วนกรณีมีผู้เสียชีวิต 2 ศพ เมื่อวันที่ 6 และ 17 ก.ย. พนักงานสอบสวนร่วมกับแพทย์ชันสูตรพลิกศพมีความเห็นว่า รายที่เสียชีวิต เมื่อวันที่ 6 ก.ย. สาเหตุจากปอดติดเชื้อ และรายที่เสียชีวิตวันที่ 17 ก.ย. สาเหตุจากหัวใจล้มเหลว