ยังวนที่เก่า แก้โควิด-19 รัฐบาลออกมาตรการเข้มข้นอีกครั้งหลังการแพร่ระบาดในกรุงเทพฯและปริมณฑลยังไม่มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ที่จะกระทบตรงๆก็คือ ชีวิตและความเป็นอยู่ของคนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะการห้ามนั่งทานอาหารในร้านต่างๆที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เพราะเป็นจุดเสี่ยง ซึ่งจะทำให้เกิดการแพร่ระบาดได้ง่ายที่สุดรัฐบาลเคยออกมาตรการในลักษณะนี้มาหลายครั้ง ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สถานการณ์คลี่คลายไปได้เมื่อเกิดการแพร่ระบาดอย่างนี้ก็ต้องควักออกมาใช้อีกกลายเป็นเรื่องชวนให้อารมณ์เสียได้ง่ายทั้งจากผู้บริโภคซึ่งจำเป็นที่จะต้อง “กิน” และ “เจ้าของ” กิจการทั้งร้านทุกระดับ ยิ่งพวกทุนเล็กที่ลงทุนไม่มากนักแต่ก็ทำให้ลืมตาอ้าปากขึ้นมาได้บ้างยิ่ง “ลักปิดลักเปิด” แบบนี้ยิ่งไปกันใหญ่เพราะเพิ่งลงทุนไปแต่ยังไม่ทันได้ขายหรือขายไปได้บ้าง จู่ๆต้องปิดร้านอีก “ทุนหายกำไรหด” จนเดือดร้อนกันไปถ้วนทั่ว“ร้านอาหาร” นั้นมีความสำคัญต่อสังคมทั้งระบบเพราะทุกคนจะต้อง “กิน” ทุกวัน อย่างน้อยก็วันละ 2 มื้อเป็นอย่างต่ำ นอกจากจะทำให้ทุกชีวิตมีลมหายใจต่อไปได้ผู้ประกอบธุรกิจด้านอาหารก็อยู่ร่วมกันต่อไปได้เป็นพื้นฐานสังคมชีวิตของทุกประเทศที่ไม่ต่างกันไทยนั้นสภาพพื้นที่ประเทศ อากาศ น้ำ ล้วนเอื้ออำนวยดีกว่าหลายๆประเทศ“ครัวโลก” เป็นเป้าหมายที่หลายรัฐบาลพยายามที่จะสร้างสิ่งนี้ขึ้นมาเป็นนโยบายสำคัญ แต่จนถึงบัดนี้ก็ไปไม่ได้สักกี่น้ำนี่ขนาดไม่ได้ทำให้เป็นเรื่องเป็นราวยังทำรายได้เข้าประเทศมหาศาล “อาหาร” จึงเป็นสินค้าส่งออกตัวหนึ่งที่รัฐบาลมีรายได้เข้าประเทศก็นี่แหละส่วนหนึ่งประเทศเกษตรกรรมอย่างไทยนั้นมีความพร้อมทุกอย่างยิ่งถ้ารัฐบาลมองเห็นคุณค่าและให้ความสำคัญสร้างนโยบายที่จะตอบสนองอย่างเต็มพิกัดก็ไม่ต้องมานั่งคอย “ท่องเที่ยว” เพื่อเปิดประเทศอย่างนี้หรอก...แน่นอนว่าโลกได้เปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปอย่างรวดเร็วด้วยเทคโนโลยีทันสมัยนั่นเป็นเรื่องหนึ่งแต่ไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร “คน” ก็ยังต้อง “กิน” ทุกวันสถานการณ์โควิด-19 ที่กำลังเผชิญกันอยู่ในเวลานี้ ทำให้คิดถึงความสำคัญของเรื่อง “กิน” ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของชีวิตบรรดาเจ้าของธุรกิจร้านอาหารไม่ว่าระดับไหนก็ตามต่างก็ประสบความเดือดร้อนกันถ้วนทั่วที่รัฐไม่ให้ความสำคัญเท่าที่ควรพูดง่ายๆว่าไม่ได้ดูแลช่วยเหลืออย่างเป็นเนื้อเป็นหนังทั้งๆที่เป็นจุดเชื่อมเศรษฐกิจทั้งระบบ.“สายล่อฟ้า”