ครม.เคาะแผน “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ออกมาแล้ว เดินหน้าเปิดเกาะภูเก็ต เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า รับนักท่องเที่ยวต่างชาติตั้งแต่ 1 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไป นักท่องเที่ยวต่างชาติจะกล้ามาเที่ยวไทยหรือไม่ เพราะยังระบาดหนัก มีผู้ติดเชื้อเพิ่มวันละกว่า 3 พันคน 3 เดือนนี้ (ก.ค.-ก.ย.) จะเป็นเครื่องพิสูจน์ ก่อนจะเข้าสู่ไฮซีซันการท่องเที่ยวภาคใต้ของไทยใน 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้ ไม่ลองก็ไม่รู้ แต่ถ้าผิดพลาดก็ปิดใหม่ได้ตัวเลข การฉีดวัคซีนชาวภูเก็ต สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ที่ 3.5 แสนคน จากประชากรทั้งหมด 6 แสนคน ซึ่ง ต้องฉีดให้ได้ 4.2 แสนคนก่อนสิ้นเดือนนี้จึงจะได้ 70% ของประชากร ผมก็หวังว่า วัคซีนจะไปตามนัด ไม่ทำให้ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ต้องล่มในวันเปิดประเทศย้อนเวลากลับไปปี 2562 ก่อนโควิดระบาดระลอกแรก ภูเก็ตรับนักท่องเที่ยวมากถึง 14.5 ล้านคน ทำรายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 470,000 ล้านบาท มากเป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพมหานคร มีห้องพักตั้งแต่ระดับ 5-6 ดาวลงมาถึงระดับแบ็กแพ็ก ราว 100,000 ห้อง พอเจอโควิดระลอก 2 ระลอก 3 นักท่องเที่ยว 14.5 ล้านคนหายวับไปกับตา รวมทั้งแรงงานข้ามถิ่นแรงงานต่างชาติอีกหลายแสนก็หายไปด้วย จากจังหวัดรวยกลายเป็นจังหวัดจนในเวลาเพียงไม่กี่เดือน ประชาชนมีรายได้ต่ำกว่าเส้นยากจนเลยทีเดียวคุณนันทาศิริ รณศิริ ผอ.สำนักงานการท่องเที่ยวภูเก็ต เปิดเผยว่า ททท.ได้ตั้งเป้า 3 เดือนนี้ จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา 129,000 คน นักท่องเที่ยวไทยอีก 5 แสนคน และ วันที่ 1 ก.ค. จะมีเที่ยวบินต่างชาติเข้าภูเก็ต 5 สายการบิน มีนักท่องเที่ยวเข้ามาประมาณ 300 คน ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวระยะไกลจากยุโรปและเอเชีย ข้อมูลล่าสุดจากการขายทัวร์ เดือน ก.ค.นี้ จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาอย่างน้อย 6,000 คน นักท่องเที่ยวมีการเดินทางในชั้นธุรกิจ แสดงถึงศักยภาพด้านกำลังซื้อของนักท่องเที่ยว ตอนนี้เราถือว่ามีความพร้อม 100% แล้ว มีโรงแรมที่ได้เครื่องหมายมาตรฐาน SHA และ SHA Plus กว่า 200 แห่งในเว็บไซต์ให้เลือกพักข้อมูลการท่องเที่ยวภูเก็ตปี 2562 ที่เป็นช่วงพีกที่สุด ภูเก็ตมีนักท่องเที่ยวหลักจาก 5 ชาติ คือ จีน รัสเซีย ออสเตรเลีย เยอรมนี อังกฤษจากการติดตามข่าวสาร ผมประเมินว่า นักท่องเที่ยวจีนที่เคยมาเที่ยวภูเก็ตมากอันดับ 1 คงยังไม่มาอีกนาน แม้การระบาดผ่านพ้นไปแล้ว เพราะ ผู้นำจีน มีนโยบาย ให้คนจีนเที่ยวในประเทศเป็นหลัก เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจในประเทศ ห้ามไปเที่ยวต่างประเทศ นักท่องเที่ยวที่เหลือก็เป็น รัสเซีย เยอรมนี อังกฤษ ออสเตรเลีย และ ยุโรป ซึ่งหลายประเทศยังระบาดหนักผมเห็นด้วยที่ รัฐบาลเปิดรับนักท่องเที่ยวแค่ 4 เกาะ ทำแบบค่อยเป็นค่อยไปเพื่อความปลอดภัย ดีกว่าผลีผลามเปิดประเทศแบบไร้สติ ระบบเศรษฐกิจและสาธารณสุขจะพังกันทั้งประเทศ แค่ที่ระบาดอยู่ในปัจจุบัน ระบบสาธารณสุขไทยก็จะรับไม่ไหวอยู่แล้วผมคิดว่าตัวเลขที่ ททท.ภูเก็ต ประเมิน เดือน ก.ค. จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาราว 6 พันคน เป็นตัวเลขที่น่าพอใจ เพราะเงื่อนไขการเข้าประเทศไม่ได้ง่าย เช่น ต้องฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้วสองเข็ม ถ้าเป็นแอสตราเซเนกาต้องฉีดเข็มแรกมาแล้วไม่น้อยกว่า 14 วัน ถ้าเคยติดเชื้อโควิด-19 ต้องหายป่วยมาแล้วไม่เกิน 90 วัน ต้องมีหลักฐานยืนยัน ต้องมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำหรือเสี่ยงปานกลาง ต้องตรวจเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ก่อนเดินทางไม่เกิน 72 ชั่วโมง ต้องมีประกันภัยโควิด-19 ไม่น้อยกว่า 100,000 เหรียญสหรัฐฯ ราว 3.15 ล้านบาท และ ต้องอยู่ในภูเก็ต 14 วัน ตรวจหาเชื้ออีก 3 ครั้ง จึงไปเที่ยวต่อได้ผมเอาใจช่วย ลุ้นให้สำเร็จครับ แต่จะสำเร็จหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับ “วัคซีน” ของรัฐบาล จะมาตามนัดหรือไม่ ฉีดวัคซีนล่าช้าเช่นปัจจุบันหรือไม่ ใช้เวลาครึ่งปีซื้อวัคซีนหรือไม่ (โมเดอร์นา) คำตอบอยู่ที่ “การฉีดวัคซีน” ตัวเดียวครับ ใครคิดหากินกับวัคซีนบาปนะครับ.“ลม เปลี่ยนทิศ”