คิกออฟวัคซีนป้องกันโควิด-19 ส่อวุ่น โรงพยาบาลหลายแห่งทั้งใน กทม.-ตจว.ประกาศเลื่อนนัดฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มแรกกันระนาว หลังปักเข็มได้แค่สัปดาห์แรกแล้ววัคซีนขาดตอน ขณะที่ “อนุทิน”ลั่นมีคนพยายามยัดเยียดให้เป็นแพะ ระบุกระทรวงสาธารณสุขมีหน้าที่จัดหาวัคซีน ส่วนการจัดสรรทำตามที่ ศบค.กำหนด พื้นที่ต้องไปบริหารจัดการกันเอง ด้านกรมควบคุมโรคยันทุกอย่างยังเป็นตามกำหนด ล่าสุดมีวัคซีนซิโนแวคมารอแล้ว 1 ล้านโดส ขณะเดียวกัน หลายจังหวัดพบผู้ติดเชื้อ-คลัสเตอร์ใหม่ผุดไม่หยุด ส่งผลให้ภาพรวมทั่วประเทศติดเชื้อรายวันกว่า 2.8พันคน ตายเพิ่มอีก ยอดสะสมผู้ป่วยตายใกล้แตะ 1.5 พันศพหลังรัฐบาลโดยศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค.จัดกิจกรรมคิกออฟ ปูพรมฉีดวัคซีนทั่วประเทศ เน้นกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มมีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่ม ที่ ลงทะเบียนนัดหมายกับแอปฯหมอพร้อม มาได้ครบสัปดาห์ หลายจังหวัดเริ่มวัคซีนไม่พอ ขณะที่ผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังพุ่งกว่า 2 พันคนต่อวัน ติดเชื้อเพิ่ม 2,804 ดับ 18 ศพเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ศบค.รายงานสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,804 คน แบ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,334 คน จากเรือนจำและที่ต้องขัง 409 คน และเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 61 คน ที่พบเป็นผู้เดินทางโดยช่องทางธรรมชาติจากกัมพูชา 10 คน ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 195,909 คน ผู้หายป่วยเพิ่ม 4,143 คน ยอดรวมหายป่วยแล้ว 154,414 คน อยู่ระหว่างการรักษา 40,046 คน อาการหนัก 1,215 คน ใส่เครื่องช่วยหายใจ 351 คน เสียชีวิตเพิ่ม 18 ศพ เป็นชาย 7 คน หญิง 11 คน อยู่ใน กทม. 12 คน ชลบุรี 2 คน ปทุมธานี สงขลา สุพรรณบุรี และภูเก็ต จังหวัดละ 1 คน ทำให้ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตสะสม 1,449 คน ขณะที่การฉีดวัคซีนวันที่ 12 มิ.ย. 108,204 โดส แบ่งเป็นเข็มแรก 66,037 ราย เข็มที่สอง 42,167 ราย ทำให้ขณะนี้มียอดฉีดสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. 6,081,242 โดสกทม. เจออีก 4 คลัสเตอร์ใหม่ศบค.ระบุด้วยว่า 5 จังหวัด ที่มีผู้ป่วยมากที่สุด กทม. 924 คน สมุทรปราการ 217 คน พระนครศรีอยุธยา 206 คน สมุทรสาคร 139 คน และนนทบุรี 122 คน สำหรับ กทม. มีทั้งสิ้น 84 คลัสเตอร์ เป็นคลัสเตอร์ใหม่ 4 คลัสเตอร์ ประกอบด้วย คลัสเตอร์ บริษัท เอเอจี อินเทลลิเจนท์ จำกัด เขต จตุจักร คลัสเตอร์ แคมป์ก่อสร้าง Syntec ถนนกำแพงเพชร 7 เขตห้วยขวาง คลัสเตอร์แคมป์คนงาน บ.ชิโนทัย เขตคันนายาว และแคมป์ก่อสร้าง บริษัทจอมธกล เขตบางนาฟุ้งฉีดวัคซีนสะสมที่ 3 อาเซียนต่อมานายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม เริ่มนโยบายปูพรมฉีดวัคซีนทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. ถึงวันที่ 12 มิ.ย. มีการฉีดวัคซีนทั่วประเทศจำนวน 1,865,190 โดส และตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.-12 มิ.ย. 2564 มีการฉีดสะสมแล้วรวมทั้งสิ้น 6,081,242 โดสส่งผลให้ไทยมียอดการฉีดวัคซีนโควิด-19 สะสมเป็นอันดับที่ 3 ของอาเซียน สำหรับการฉีดวัคซีนให้กับผู้ประกันตนมาตรา 33 สำนักงานประกันสังคมได้ปรับปรุงระบบการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ผู้ประกันตนในพื้นที่ กทม.ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น จะเปิดให้บริการแก่ผู้ประกันตน ม.33 ที่นายจ้างได้ลงทะเบียนในระบบ e-Service อีกครั้งในวันที่ 14 มิ.ย.2564 อย่างแน่นอนยันกระจายวัคซีนได้มากขึ้นนายอนุชากล่าวอีกว่า ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย.เป็นต้นมา สำนักงานประกันสังคมสามารถฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มแรกไปแล้วมากกว่า 2 แสนคน มีผู้ประกันตน ม.33 ที่แสดงความประสงค์ฉีดวัคซีนจำนวน 6,037,497 คน ในส่วนของการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จนถึงวันที่ 12 มิ.ย.2564 มีผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 สะสมแล้วจำนวน 1,678,948 โดส แยกเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 944,552 คน และผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 367,198 คน นอกจากนี้ การกระจายวัคซีนไปตามพื้นที่จังหวัดต่างๆนั้น รัฐบาลสามารถดำเนินการได้ตามแผนที่กำหนดไว้ จากนี้ไปจะมีการกระจายวัคซีนโควิด-19 ได้เป็นจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆตามจำนวนวัคซีนที่ได้รับการส่งมอบจากผู้ผลิตรพ.ดังแห่เลื่อนนัดอย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เช้าวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโรงพยาบาลใน กทม.จำนวนมาก ประกาศผ่านหน้าเว็บไซต์และเฟซบุ๊กของโรงพยาบาลในทำนองเดียวกันว่า ขอเลื่อนการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน ที่ลงทะเบียนในระบบหมอพร้อม วันที่ 14-20 มิ.ย. ออกไปก่อน กลุ่มดังกล่าว ได้แก่ กลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่ม เนื่องจากไม่ได้รับการจัดสรรวัคซีนจากกระทรวงสาธารณสุข ทั้งวัคซีนแอสตราเซเนกาและซิโนแวค เช่น รพ.ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ รพ.เปาโล รพ.พญาไท รพ.เวชธานี รพ.เทพธารินทร์ รพ.ราษฎร์บูรณะ รพ.เกษมราษฎร์ สถาบันไตภูมิราชนครินทร์ พระราม 9 ศูนย์การแพทย์วิชัยยุทธ รพ.นมะรักษ์ ศูนย์แพทย์พัฒนา รพ.กล้วยน้ำไท รพ.สินแพทย์ รพ.รามคำแหง รพ.เลิดสิน รพ.สมิติเวช หากได้รับการจัดสรรจะแจ้งนัดหมายให้มารับวัคซีนอีกครั้ง มี รพ.นมะรักษ์ที่ระบุด้วยว่า “หากมีข้อสงสัยให้ติดต่อคอลเซ็นเตอร์ หรือติดต่อรัฐมนตรีสาธารณสุขเพื่อสอบถามสาเหตุความไม่พร้อมของวัคซีนสำหรับผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยง” สร้างความ ฮือฮาให้ผู้พบเห็นอย่างมาก“อนุทิน” โบ้ย กทม.ต้องวางแผนต่อมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า กระทรวงจัดสรรวัคซีนให้ กทม. 1 ล้านโดส ส่งให้สัปดาห์ที่แล้วจำนวน 5 แสนโดสก่อน และสัปดาห์หน้าจะส่งให้อีก คำว่าวัคซีนไม่ได้ส่งจากกระทรวงสาธารณสุข เป็นการพูดโดยปราศจากความรับผิดชอบ สำนักอนามัยและสำนักการแพทย์ กทม.ควรต้องบริหารจัดการวัคซีนที่ได้รับไปจากกระทรวงสาธารณสุขให้ดีที่สุด การกระจายไปตามจุดฉีดวัคซีนต่างๆเป็นหน้าที่ของ กทม. ต้องมีการวางแผนการฉีดในแต่ละวันให้ดี กระทรวงสาธารณสุขในส่วนที่รับผิดชอบทั่วประเทศ ไม่เห็นมีใครมีปัญหาแบบนี้ ไม่ใช่ว่าได้มาเท่าไหร่กระจายแบบไม่วางแผน และขอความกรุณาอย่าบอกว่ากระทรวงไม่ได้ทำอะไร กระทรวงกระจายวัคซีนไปตามคำสั่งของ ศบค.หมดแล้ว ตามเวลาที่กำหนดไว้ ถ้ากระทรวงเป็นคนวางแผนเอง เป็นคนบริหารจัดการให้ฉีดเอง ค่อยมาโทษกระทรวงสาธารณสุขโวยมีคนพยายามขยายปัญหานอกจากนี้ นายอนุทินยังโพสต์เฟซบุ๊กในเพจ Like Anutin ด้วยว่า อย่าให้คนทำงานกลายเป็น “แพะ” เรื่องการบริหารจัดการวัคซีน ต่างฝ่ายต่างมีหน้าที่รับผิดชอบตามกฎหมายที่กำหนด กระทรวงสาธารณสุขมีหน้าที่จัดหา และกระจายไปตามแผนที่ ศบค.กำหนด เมื่อวัคซีนถึงพื้นที่เป็นบทบาทของหน่วยงานในพื้นที่นั้นๆต้องจัดการวัคซีนตามที่แสดงเจตจำนงไป ทุกอย่างชัดเจน ทว่ายามมีปัญหาทั้งใน กทม. และจังหวัดอื่นๆกลับกลายเป็น สธ.ต้องถูกวิจารณ์ ทั้งที่ได้ทำหน้าที่อย่างครบถ้วนสุดความสามารถแล้ว อย่าแปลกใจหากเห็นคน สธ.ออกมาชี้แจงรัวๆเรื่องการเลื่อนฉีดวัคซีนในพื้นที่ต่างๆ เน้นย้ำว่าทางหน่วยงาน ไม่ได้มีอำนาจรับผิดชอบตรงนั้น หากเข้าไปแทรกแซงจะกลายเป็นก้าวก่าย เพราะมาจุดนี้ดูเหมือนคนทำงานที่มีสภาพไม่ต่างจากแพะ ทนแบกรับปัญหาของคนอื่นต่อไปไม่ไหวแล้วเช่นกัน เรามักจะพูดเสมอว่าเรื่องโควิดเราต้องช่วยกัน แต่ในความเป็นจริงบางคนพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยกันแก้ปัญหา แต่บางคนกลับพยายามจะทำให้ปัญหามันใหญ่ขึ้นไปอีก อีก 4 ล้านโดสรอคำสั่ง ศบค.ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้ไทยฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทั้งซิโนแวคและแอสตราเซเนกาไปแล้วกว่า 6 ล้านโดส เป็นไปตามเป้าหมายของแผนการฉีดวัคซีนสำหรับประชากรในประเทศเดือน มิ.ย. คือฉีดอย่างน้อย 10 ล้านโดส ขณะนี้เหลืออีก 4 ล้านโดส จะกระจายวัคซีนออกไปตามคำสั่งของ ศบค. ทั้งนี้ วัคซีนโควิด-19 เป็นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ บริษัทวัคซีนฯกับไทยมีสัญญาไม่เปิดเผยข้อมูลร่วมกัน เพื่อป้องกันปัญหาในการจัดส่งวัคซีน ดังนั้น เราจะเปิดเผยข้อมูลได้ ต่อเมื่อมีการตรวจรับวัคซีนจากบริษัทฯ แต่ยืนยันว่ายังเป็นไปตามสัญญา ส่วนซิโนแวค 1 ล้านโดส ที่เข้ามาเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. อยู่ระหว่างการตรวจรับยืนยันไม่มีส่งออกวัคซีนส่วนการประกาศเลื่อนฉีดวัคซีนของโรงพยาบาลในแต่ละพื้นที่นั้น นพ.โอภาสกล่าวว่า กรมควบคุมโรคกระจายวัคซีนตามคำสั่งของ ศบค. หลังจากนั้นเป็นหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัด ใน ฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/ กรุงเทพฯเป็นผู้บริหารจำนวนวัคซีนนั้น ส่วนที่โรงพยาบาลในพื้นที่ กทม. เลื่อนฉีดเพราะไม่ได้รับวัคซีน จะต้องไปสอบถามข้อมูลจากสำนักอนามัยกรุงเทพฯ ว่าจัดสรรไปในแต่ละแห่งอย่างไรบ้าง ขอให้มั่นใจว่าประเทศไทยจะมีวัคซีนมาฉีดอยู่ตลอด แต่ตัวเลขจะอยู่ที่เท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับการผลิตของแต่ละบริษัท โดยเดือน มิ.ย. เรามีวัคซีนฉีดรวมแล้วกว่า 6 ล้านโดสแน่นอน และจะมีเพิ่มเติมมาเรื่อยๆ และโรงงานผลิตก็ตั้งอยู่ในประเทศไทย ดังนั้น เป็นการผลิตและทยอยส่ง ขอยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีการส่งออกวัคซีนไปต่างประเทศ โรงงานผลิตและส่งให้กับบริษัทแอสตราเซเนกาเท่าไร ทางบริษัทก็ส่งมอบให้เราทั้งหมด ข้อมูลนี้ทาง ศบค.รับทราบมาโดยตลอด ดังนั้น เมื่อมีการตรวจรับวัคซีนแต่ละลอต ทางกรมควบคุมโรคกระจายออกไปตามคำสั่ง ศบค.แจงยิบจัดสรรใน กทม.ขณะที่ นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กระทรวงจัดสรรวัคซีนให้แต่ละพื้นที่ก่อนวันที่ 7 มิ.ย. เพื่อให้ฉีดในช่วง 2 สัปดาห์แรกของเดือน มิ.ย. ประมาณวันที่ 7-18 มิ.ย. จำนวน 2 ล้านโดส แบ่งเป็นต่างจังหวัด 1 ล้านโดส และพื้นที่ กทม. 1 ล้านโดส โดยแบ่งเป็น กทม.ได้รับวัคซีนแอสตราเซเนกา 3.5 แสนโดส และวัคซีนซิโนแวค 1.5 แสนโดส สำนักงานประกันสังคม ได้รับ 3 แสนโดส ฉีดในพื้นที่ กทม. เป็นหลัก และศูนย์ฉีดวัคซีนของที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย 11 ศูนย์ ประมาณ 1.5 แสนโดส ก็ฉีดใน กทม. เป็นหลัก ส่วนสัปดาห์ที่ 3-4 ของเดือน มิ.ย. หรือวันที่ 21 มิ.ย. ถึง 2 ก.ค. จะจัดสรรวัคซีนลงพื้นที่อีก เป็นวัคซีนแอสตราเซเนกา 1.5 ล้านโดส วัคซีนซิโนแวค 2 ล้านโดส ทั้งนี้ กระทรวงดูภาพใหญ่ในการจัดสรรวัคซีน จะได้มาจากตัวเลขที่พื้นที่เสนอขึ้นมาตามสูตรตามเงื่อนไขที่กำหนด เน้นพื้นที่ระบาดหนักจะได้มากที่สุด เมื่อให้พื้นที่ไปแล้วจะเป็นหน้าที่ของพื้นที่หรือจังหวัดนั้นๆบริหารจัดการ สิ่งสำคัญขณะนี้อยากให้มีการฉีดวัคซีนให้แก่กลุ่มที่มีการจองไว้ก่อนแล้วคือ ผู้สูงอายุ และผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง เป็นกลุ่มที่เสี่ยงรุนแรงหากได้รับเชื้อกทม.โต้พร้อมทุกด้านเว้นวัคซีนต่อมา กทม.ได้ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กสำนักงานประชาสัมพันธ์ ว่า จากกรณีที่ทางกระทรวงสาธารณสุข แจ้งว่าได้ให้วัคซีน กทม. มาแล้ว 1 ล้านโดส ตามแผนเดือน มิ.ย.2564 นั้น กทม.ขอให้ข้อมูลดังนี้ 1.ตามแผนการจัดสรรวัคซีนของกระทรวงสาธารณสุข กทม.ได้รับการแจ้งว่าจะได้รับการจัดสรรแอสตราเซเนกา 2.5 ล้านโดส ให้ กทม.ไปทำแผนการฉีดให้สอดคล้อง 2.สำหรับวัคซีนที่ใช้ในวันที่ 7-14 มิ.ย.2564 กทม. ได้รับวัคซีนแอสตราเซเนกา จำนวน 350,000 โดส ซิโนแวค 150,000 โดส แบ่งการใช้วัคซีนแอสตราเซเนกา เป็นระบบหมอพร้อม 181,400 โดส เข็มที่สอง 52,600 โดส ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียง 8,000 โดส ประชาชนทั่วไป 100,000 โดส สำรองสำหรับควบคุมโรค 8,000 โดส ส่วนซิโนแวคแบ่งการใช้เป็นเข็มที่สอง สำหรับการควบคุมโรค (พื้นที่ระบาดรุนแรง) 128,000 โดส ควบคุมโรคพื้นที่ระบาดใหม่ 26,000 โดส 3.การจองผ่านระบบหมอพร้อม เป็นการเปิดให้ รพ.ทุกแห่งในกรุงเทพฯ มาช่วยกันฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยงที่เปิดพร้อมกันทั้งประเทศ ดังนั้น กทม. ไม่ใช่ผู้ควบคุมและผู้ที่จัดสรรวัคซีน ในเดือน มิ.ย.นี้ ผู้ที่ลงทะเบียนหมอพร้อมในกรุงเทพฯ มีทั้งสิ้น 450,000 ราย 4.กทม.ยืนยันว่า กทม.พร้อม สถานที่พร้อม บุคลากรพร้อม และหาก “วัคซีนพร้อม” ตามแผน กทม.พร้อมจะดำเนินการฉีดให้กับประชาชนทันที โควิดในคุกเริ่มดีขึ้นสำหรับความคืบหน้าสถานการณ์โรคโควิด-19 ในเรือนจำ นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผยว่า ข้อมูล ณ วันที่ 12 มิ.ย. เวลา16.00น.มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 409 คน รักษาหายเพิ่ม 291 คน ทำให้มีผู้ต้องขังติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 7,974 คน และไม่มีผู้เสียชีวิตในวันนี้ ภาพรวมสถานการณ์การแพร่ระบาดในเรือนจำและทัณฑสถาน พบว่ามีเรือนจำ/ทัณฑสถาน ที่เป็นเรือนจำสีขาวไม่พบการแพร่ระบาดคงที่ จำนวน 129 แห่ง และพบการแพร่ระบาด 12 แห่งคงเดิม ในจำนวนนี้มีประมาณ 5 แห่ง ไม่พบการติดเชื้อเพิ่มและอยู่ระหว่างการพิจารณาหลักเกณฑ์ เพื่อลดสถานะจากการเป็นเรือนจำสีแดงให้เป็นเรือนจำปกติที่สามารถรับตัวผู้ต้องขังเข้าใหม่ได้ คือเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เรือนจำกลางเชียงใหม่ เรือนจำจังหวัดนนทบุรี ทัณฑสถานหญิงกลาง และเรือนจำพิเศษธนบุรี ขณะที่สถานการณ์ของผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ทั้งจากการ SWAB ซ้ำในเรือนจำ/ทัณฑสถานและจากการตรวจพบเชื้อในผู้ต้องขังเข้าใหม่ ทั้งก่อนเข้าห้องกักโรค และระหว่างอยู่ในห้องกักโรค ตามมาตรการป้องกันเชื้อก่อนเข้าสู่เรือนจำ/ทัณฑสถานของกรมราชทัณฑ์เร่งฉีดเข็มแรกกว่า 4 หมื่นโดสส่วนการบริหารการจัดฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 นายอายุตม์กล่าวว่า จำนวนวัคซีนที่กรมราชทัณฑ์ได้รับการจัดสรรจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขมาแล้วกว่า 40,000 โดส จัดส่งไปยังเรือนจำ/ทัณฑสถานเป้าหมายในระยะแรกไปแล้วจำนวน 37 แห่ง เป็นการจัดสรรวัคซีนเพื่อฉีดให้แก่ผู้ต้องขังเป็นการเฉพาะ ขอให้เรือนจำ/ทัณฑสถานที่ได้รับการจัดสรรวัคซีน เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จตามวัตถุประสงค์และแผนการบริหารจัดการอย่างเคร่งครัด ส่วนการจัดสรรวัคซีนต่อเนื่องในเข็มที่ 2 กรมราชทัณฑ์จะประสานขอรับไปยังกรมควบคุมโรคอีกครั้ง รวมถึงเรือนจำ/ทัณฑสถานนอกเขตพื้นที่สีแดง ที่จะได้รับการจัดสรรวัคซีนอย่างทั่วถึงต่อไปเช่นเดียวกันหวังเห็นเรือนจำปลอดโรคขณะที่ รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับการจัดการสถานการณ์โควิด-19 ในเรือนจำว่า ถึงวันนี้ครบ 25 วันน่าจะพอสรุปผลปฏิบัติการนี้ในขั้นต้นได้ ในภาพรวมสามารถลดการสูญเสียชีวิตของผู้ป่วยกว่าสองหมื่นคนลงได้เหลือไม่ถึง 0.1 เปอร์เซ็นต์ ต่ำกว่าหลายเท่าเมื่อเทียบกับอัตราการเสียชีวิตจากโควิดทั้งประเทศในระลอกสาม และระบุด้วยว่า สิ่งเหล่านี้จะไม่เป็นจริงได้เลยหากไม่ได้รับการสนับสนุนจาก 1.โครงการราชทัณฑ์ปันสุข ในพระราชดำริรัชกาลที่ 10 2.ผู้บริหารของกรมราชทัณฑ์และกระทรวงยุติธรรม 3.คณะแพทย-ศาสตร์ศิริราชพยาบาล 4.คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี 5.กระทรวงกลาโหม 6.ราชวิทยาลัยรังสีแพทย์แห่งประเทศไทย 7.อาสาสมัครแพทย์และพยาบาล 8.หน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานอื่นอีกมากมายที่ไม่ได้กล่าวถึงในที่นี้ แต่ที่ต้องยกย่องเป็นพิเศษคือ จิตใจของบุคลากรในทุกภาคส่วนของกรมราชทัณฑ์ ที่ช่วยกันฟันฝ่าทำให้ภารกิจยากเย็นแสนเข็ญนี้ลุล่วงไปด้วยดี หวังว่าสิ้นเดือนนี้จะเห็นเรือนจำสีขาวปลอดโควิดผุดขึ้นหลายแห่งทั่วประเทศ และในอนาคตจะมีเรือนจำสีขาวที่ปลอดจากภัยคุกคามสุขภาพในทุกรูปแบบทั้งจากวัณโรค ยาเสพติด และเหตุอื่นๆ เพื่อให้ผู้ต้องโทษมีคุณภาพชีวิตที่ดีก่อนจะกลับคืนสู่การเป็นสมาชิกที่มีคุณภาพของสังคมภายหลังพ้นโทษคนไม่มั่นใจการกระจายวัคซีนวันเดียวกันมีการเผยแพร่ผลโพลเกี่ยวกับการบริหารจัดการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณี “ความมั่นใจของคนไทยต่อการฉีดวัคซีนโควิด-19” กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,450 คน สำรวจวันที่ 7-10 มิ.ย.ที่ผ่านมา พบว่าส่วนใหญ่ไม่ค่อยมั่นใจต่อการบริหารจัดการการฉีดวัคซีนของรัฐบาล โดยมองว่าปัจจุบันปัญหาการฉีดวัคซีน คือจำนวนวัคซีนไม่เพียงพอ ไม่หลากหลายยี่ห้อ ขณะที่ “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,313 หน่วย ส่วนใหญ่เชื่อว่ามีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องมาก และไม่ค่อยมั่นใจการกระจายวัคซีนไปตามต่างจังหวัดจะเป็นไปตามแผน เพราะการนำเข้าวัคซีนค่อนข้างล่าช้า ขณะเดียวกันกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เห็นด้วยที่มีการอนุญาตให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น อบจ. เทศบาล อบต. กรุงเทพมหานคร เทศบาลเมืองพัทยา สามารถสั่งซื้อวัคซีนผ่านหน่วยงานของรัฐ เพื่อมาบริการให้กับประชาชนในพื้นที่ ติดเชื้อพุ่งคุระบุรีปิดเรียนต่อสำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการจัดฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ศบค.พังงา รายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 15 คน เป็นแรงงานต่างด้าว 14 คน เด็กไทย 1 คน อยู่ในคลัสเตอร์แพปลาคุระบุรี ทำให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและฝ่ายปกครองอำเภอคุระบุรี เตรียมจัดตั้ง รพ.สนามในพื้นที่อาคารโรงเรียนอนุบาลหลังเก่า คาดจะเปิดรับผู้ป่วยไม่แสดงอาการได้ภายในวันที่ 15 มิ.ย.นี้ ทำให้ ผวจ.พังงา ออกคำสั่งห้ามใช้อาคารหรือสถานที่ของโรงเรียนและสถาบันการศึกษาทุกประเภทในเขตพื้นที่อำเภอคุระบุรี เพื่อจัดการเรียนการสอน การสอบ การฝึกอบรม หรือกิจกรรมใดๆ ให้มีการเรียนการสอน ระบบออนไลน์ หรือการเรียนระบบทางไกล ตั้งแต่วันที่ 12 มิ.ย.64 จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น ส่วนการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ยังดำเนินต่อไปตามปกติ ที่ รพ.พังงา เทศบาลเมืองพังงา ตลอดวันมีผู้สูงอายุและกลุ่มโรคเสี่ยง 7 โรค ทยอยเข้าฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา กว่า 700 คน ท่ามกลางบรรยากาศสนุกสนานเมื่อเจ้าหน้าที่จัดกิจกรรมร้องเพลง บริหารร่างกาย รวมถึงนายจำเริญทิพญ–พงศ์ธาดา ผวจ.พังงา พร้อมด้วยนายกเหล่ากาชาด นำคณะมาให้กำลังใจและพร้อมสร้างสีสัน นำเต้นเพลงรณรงค์การฉีดวัคซีน สร้างความบันเทิงและคลายกังวลให้แก่ผู้เข้ารับการฉีดได้อย่างมากโควิดยะลายังฉุดไม่อยู่ขณะที่ สสจ.ยะลา รายงานเช่นกันยังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก 23 คน พบใน อ.เมือง 10 คน อ.บันนังสตา 9 คน และ อ.เบตง 4 คน ส่งผลให้ นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผวจ.ยะลา มีคำสั่งขยายระยะเวลาปิดสถานที่เสี่ยงตามคำสั่งที่ 77/2564 จากวันที่ 1-14 มิ.ย.2564 เป็น 15-30 มิ.ย.2564 อาทิ ร้านเกม โต๊ะสนุ้กเกอร์ ที่ท่องเที่ยว สวนสาธารณะ ศูนย์แสดงสินค้า ที่เลี้ยงเด็ก ที่ดูแลผู้สูงวัย ศูนย์พระเครื่อง ห้างสรรพสินค้า ตลาดนัด ส่วนร้านสะดวกซื้อให้เปิดบริการได้ระหว่างเวลา 04.00-22.00 น. และในคำสั่งดังกล่าวยังห้ามจัดกิจกรรมที่มีการรวมตัวทุกประเภท รวมทั้งนิทรรศการ ตลอดจนห้ามการเดินทางเข้าออกจังหวัดยะลา กรณีจำเป็นต้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาเป็นผู้อนุญาตเท่านั้น หากฝ่าฝืนมีบทลงโทษตามกำหนดผู้ป่วยพัทลุงตายเพิ่ม 1ส่วน จ.พัทลุง แม้ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม แต่มีผู้ป่วยเสียชีวิต 1 คน ที่ รพ.พัทลุง นับเป็นรายที่ 6 ของจังหวัด ผู้เสียชีวิตเป็นอดีตนายตำรวจ อายุ 65 ปี เป็นผู้ป่วยติดเตียง เจาะคอ พูดไม่ได้ พำนักใน อ.ควนขนุน ต่อมาเดินทางไปทำธุระใน อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ได้ว่าจ้าง อสม.รายหนึ่งเป็นคนเฝ้าดูแลรับแจ้งว่า อสม.คนดังกล่าวติดโควิด-19 ภรรยาผู้ตายพาไปตรวจหาเชื้อและเข้ารักษาตัวครั้งแรกที่ รพ.ควนขนุน เมื่อวันที่ 5-6 มิ.ย. แต่อาการทรุดย้ายมา รพ.พัทลุง ในวันที่ 7 มิ.ย. และเสียชีวิตเมื่อช่วงสายวันที่ 13 มิ.ย. นำร่างไปประกอบพิธีฌาปนกิจที่วัดเขาโพรกเพลง ต.นาขยาด อ.ควนขนุน เป็นที่เรียบร้อยแล้วรพ.จะแนะกักตัวบุคลากรอื้อที่ จ.นราธิวาส รพ.จะแนะ อ.จะแนะ ประกาศกักตัวบุคลากรทางการแพทย์รวดเดียว 62 คน หลังพบผู้ป่วยโควิด-19 รายหนึ่งให้ข้อมูลไม่ครบ ทำให้บุคลากรทางการแพทย์เสี่ยงต่อการติดเชื้อ แยกเป็นแพทย์ 2 คน พยาบาลวิชาชีพ 42 คน เจ้าหน้าที่เอกซเรย์ 1 คน พนักงานเปล 2 คน พนักงานทำความสะอาด 4 คน พนักงานประกอบอาหาร 2 คน พนักงานซักฟอก 2 คน ผู้ช่วยการพยาบาล 8 คน ส่งผลกระทบต่ออัตรากำลังในการปฏิบัติงานในหน้าที่ ทางโรงพยาบาลจะแนะจะเปิดให้บริการเฉพาะผู้ป่วยอาการทางเดินหายใจ ที่เข้าข่ายสงสัยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น โดยงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไปทุกกรณี รวมทั้งการตรวจเพื่อออกใบรับรองแพทย์เป็นการชั่วคราว ส่วนกรณีผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ให้ไปรับยาที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลใกล้บ้าน ในวันที่แพทย์ออกตรวจปกติ ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลงอบจ. เริ่มเล็งจัดซื้อวัคซีนทางเลือกส่วนปัญหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่หลายจังหวัดขณะนี้ได้รับจัดสรรจากรัฐบาลไม่เพียงพอกับจำนวนประชากรในพื้นที่ ทำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเริ่มจัดงบเพื่อสั่งวัคซีนทางเลือกเอง อาทิ เทศบาลนครหาดใหญ่ แสดงเจตจำนงขอซื้อวัคซีนซิโนฟาร์ม ต่อราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จำนวน 50,000 โดส รอแค่การตอบกลับของทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เช่นเดียวกับ อบจ.กาญจนบุรี มีการประชุมร่วมกับ อบต.ทั้งจังหวัด 121 แห่ง เพื่อเตรียมสั่งวัคซีนซิโนฟาร์มมาเสริมจากวัคซีนที่ได้รับจากรัฐบาล โดยคาดว่าจำนวนที่ต้องการราวร้อยละ 20 ของจำนวนประชากรในพื้นที่รอลุ้นผลตรวจเชื้อกว่า 1 พันคนส่วน จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทะลัก 93 คน แยกเป็น ม.1 นาทราย อ.เมือง 1 คน อ.ทุ่งใหญ่ งานศพวัดภูเขาดิน 1 คน และตรวจเชิงรุก 1 คน อ.นาบอน 1 คน อ.ท่าศาลา แม่ค้าเครื่องแกง 4 คน วงไพ่ ต.ปากพูน อ.เมือง 7 คน และโรงงานทำทองคำเปลว ต.ปากพูน 77 คน ถือเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ มีการนำตัวผู้ติดเชื้อไปรักษาตัวที่ รพ.สนาม ม.วลัยลักษณ์, รพ.สิชล และ รพ.ท่าศาลา เป็นการด่วนแล้ว และตลอดวันเจ้าหน้าที่สธ.เข้ามาตรวจคัดกรองเชิงรุกกลุ่มเสี่ยงกว่า 1 พันคน ที่บริเวณโรงเรียนปากพูน ต.ปากพูน ทำให้บรรยากาศภายในโรงเรียนมีผู้เดินทางมาตรวจหาเชื้อโควิดอย่างคึกคัก ด้านนายวิทยา เขียวรอด นายอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช สั่งปิดหมู่บ้านชุมชนหลังวัดท่าแพ และชุมชนด้านทิศเหนือของวัดท่าแพ เป็นเวลา 7 วัน มีการนำป้ายข้อความและแผงเหล็กมาปิดห้ามเข้าออกบริเวณชุมชนทั้งสองอย่างเข้มงวด เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองมาเฝ้าคอยระวังไม่ให้บุคคลเข้าออกทั้งสองชุมชนอย่างเด็ดขาด ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ผบก.เชียงใหม่ช่วยครอบครัว ตร.สำหรับความคืบหน้าการเสียชีวิตอย่าง กะทันหันของ ส.ต.อ.ปิยะพงษ์ สุรินต๊ะ ที่บ้านพักใน อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ต่อมา พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ ได้สั่งให้ดูแลสวัสดิการและให้ความช่วยเหลือครอบครัวอย่างใกล้ชิด พร้อมระบุว่าเพิ่งทราบว่าผู้เสียชีวิตมีประวัติการป่วยและเคยเข้ารับการรักษาอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะมาก่อนที่จะรับวัคซีนโควิด-19 มอบหมายให้ พ.ต.ท.กรณ์ ศศิมณฑา สว.สภ.แม่โป่ง อ.ดอยสะเก็ด ต้นสังกัดเป็นตัวแทนร่วมงานสวดอภิธรรมศพ ส.ต.อ.ปิยะพงษ์ ในคืนแรก วันที่ 13 มิ.ย. เวลา 19.30 น. ณ บ้านของบิดามารดาผู้เสียชีวิต เพื่อแสดงความเสียใจแก่ครอบครัว ส่วนสวัสดิการที่ครอบครัว ส.ต.อ.ปิยะพงษ์จะได้รับจากราชการ เบื้องต้นมีดังนี้ เงินบำเหน็จตกทอดตามอายุราชการ 8 ปี เป็นเงิน 144,160 บาท เงินช่วยพิเศษ 3 เท่าของเงินเดือน เป็นเงิน 54,060 บาท เงินกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เป็นเงิน 150,000 บาท เงินกองทุนฌาปนกิจ เป็นเงิน 65,000 บาท เงินกองทุนรวมใจ สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรภาค 5 เป็นเงิน 2,600,000 บาท เงินช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์ตำรวจ ภูธรภาค 5 เป็นเงิน 26,000 บาท รวมเป็นเงิน 3,039,220 บาท ส่วนการเยียวยาจาก สปสช.ได้รับประสานจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ คาดว่าอยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับเงินเยียวยาตามประกาศ โคราชมาใหม่อีกคลัสเตอร์ส่วนที่ จ.นครราชสีมา นพ.นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด เปิดเผยว่า พบผู้ป่วยโควิด-19 อีก 9 คน อยู่ในพื้นที่ อ.ปากช่อง 5 คน อ.เฉลิมพระเกียรติ 2 คน อ.เมือง 1 คน และ อ.บัวใหญ่ 1 คน จากการสอบสวนโรคผู้ป่วย 5 คนที่ อ.ปากช่อง มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่อายุ 11-74 ปี มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยชาย อายุ 42 ปี คนงานแคมป์ก่อสร้างย่านเอกมัย กทม.เนื่องจากเป็นเครือญาติ ถือเป็นคลัสเตอร์ครอบครัวคนงานก่อสร้างขยาย 2 วง ติดเชื้อสะสม 10 คน ส่วนคลัสเตอร์โรงงานแปรรูปเนื้อไก่ซีพีเอฟ สระบุรี ที่เป็นชาวปากช่องติดเชื้อ 14 คนมั่นใจวัคซีนมาไม่ขาดตอนส่วนการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 นพ.นรินทร์รัชต์กล่าวว่า ยังคงมีเพียงพอ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา กำหนดแผนต้องฉีดวัคซีนซิโนแวคและแอสตราฯ เข็ม 2 ให้ครบตามจำนวนเป้าหมายประมาณ 7.5 หมื่นคน และช่วงหลังวันที่ 20 มิ.ย.จะนำวัคซีนแอสตราฯ เข็มแรกเข้ามาให้บริการประชาชนกลุ่มเป้าหมาย และผู้ที่ลงทะเบียนผ่านระบบหมอพร้อมช่วงสัปดาห์ที่ 1 และ 2 ของเดือน มิ.ย. รวมทั้งเดือนหน้าจะมีการจัดสรรวัคซีนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับ นพ.ณรงค์ศักดิ์ บำรุงถิ่น ผอ.รพ.ปากช่องนานา กล่าวว่า ในวันที่ 14-15 มิ.ย.นี้ แพทย์ พยาบาลมีความพร้อมในการฉีดวัคซีนซิโนแวคเข็มที่ 2ใน3 จุดบริการคือ มูลนิธิสว่างวิชชาธรรมสถาน, โรงแรมเดอะกรีนเนอรี่ เขาใหญ่ ต.หมูสี และฟาวเท่นทรีรีสอร์ท ต.ขนงพระ รวม 8,864 คน ส่วนการฉีดรอบต่อไปของผู้ที่ลงทะเบียนไว้ ต้องรอรับการจัดสรรวัคซีนจากส่วนกลางต่อไปบุรีรัมย์ตะลุยฉีดต่อเนื่องที่ จ.บุรีรัมย์ ยังพบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 5 คน ใน 4 อำเภอ ได้แก่ อ.หนองหงส์ 2 คนอ.เมืองบุรีรัมย์ อ.สตึก และ อ.หนองกี่ อำเภอละ 1 คนขณะเดียวกันที่สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิตมีประชาชนเดินทางเข้ามารับการฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มบุคลากรทางการศึกษา เพื่อเตรียมพร้อมเปิดเทอมภาคเรียนที่ 1 ในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข นำคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขมาติดตามความคืบหน้าการฉีดวัคซีน และกล่าวว่า จ.บุรีรัมย์ ตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้ประชาชนอย่างน้อยร้อยละ 70 เพื่อเตรียมเปิดเมืองฟื้นฟูเศรษฐกิจ กระตุ้นการท่องเที่ยว สอดรับกับโครงการ “1 ตุลาคม 2564 ทัวร์เที่ยวไทย โดยไม่กักตัว” ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ขณะนี้ประชาชนในพื้นที่ได้แสดงความจำนงลงทะเบียนรับวัคซีน 582,153 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 52.6โดยลงทะเบียนผ่าน 3 ช่องทางคือ แอปพลิเคชันไลน์หมอพร้อม บุรีรัมย์ไอซี และ อสม.เคาะประตูบ้าน ดังนั้น เพื่อให้ครบร้อยละ 70 ของประชากร หรือ 1,106,749 คน ต้องร่วมมือกันเชิญชวนคนรอบข้างมาฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน และปกป้องตนเอง ครอบครัวและชุมชนไปด้วยกัน ทั้งนี้ ข้อมูลวันที่ 10 มิ.ย. จ.บุรีรัมย์ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 112,721 คน และได้รับครบ 2 เข็มแล้ว จำนวน 55,777คน คิดเป็นร้อยละ 5 ของกลุ่มเป้าหมาย ส่วนศักยภาพของศูนย์ฉีดสนามช้างเซอร์กิต รองรับผู้มาฉีดวัคซีนได้ 4,000-5,000 คนต่อวันปิดแผงลอยถนนพานิชเจริญส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ใน จ.เพชรบุรี วันที่ 13 มิ.ย. ยังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 62 คน แยกเป็น 5 กลุ่ม ดังนี้ กลุ่มโรงงานนอกจังหวัด (โรงงานอุตสาหกรรมเกษตร ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งพักอาศัยในเขต อ.เขาย้อย) จำนวน 38 คน กลุ่มโรงงานในจังหวัด จำนวน6คน กลุ่มตลาดนอกจังหวัด (ตลาดบางแค, ตลาดชลบุรี, ตลาดปากน้ำ, ตลาดคลองเตย, ตลาดสำโรง) จำนวน 9 คน กลุ่มตลาดในจังหวัด (ตลาดแผงลอยริมทางเท้าถนนพานิชเจริญ) จำนวน 3 คน กลุ่มอื่นๆจำนวน 6 คน ต่อมานายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผวจ.เพชรบุรีมีคำสั่งให้งดค้าขายสินค้าบริเวณตลาดแผงลอยริมทางเท้าถนนพานิชเจริญตามแผนผังที่เทศบาลเมืองเพชรบุรีกำหนด เป็นระยะเวลา 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 14-16มิ.ย.นี้ เพื่อล้างทำความสะอาดพื้นที่ นอกจากนี้ในช่วงที่งดค้าขายขอให้พ่อค้าแม่ค้ากักตัวอยู่ที่บ้าน งดเดินทางไปค้าขายที่อื่น สำหรับผู้ที่เดินทางเข้าไปในตลาดแผงลอยริมทางเท้าถนนพานิชเจริญในช่วงวันที่ 1-12 มิ.ย.2564 ให้ไปพบเจ้าหน้าที่และเข้ารับการตรวจคัดกรองโรค ทั้งให้ชาวจังหวัดเพชรบุรีเคร่งครัดตามมาตรการ D-M-H-T-T-A อย่างต่อเนื่องรพ.กรุงเก่าติดเชื้อเพียบช่วงค่ำวันเดียวกัน นพ.พีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แถลงว่าได้รับการรายงานจาก นพ.โชคชัย ลีโทชวลิต ผอ.โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา พบผู้ป่วยเป็นพนักงานขับรถของโรงพยาบาล จำนวน 8 คน ติดเชื้อโควิด-19 และกลุ่มของบุคลากรทางการแพทย์อีก 10 คน สอบสวนโรคนำผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกักตัวที่โรงพยาบาลทันที โรงพยาบาลจัดเตรียมหอผู้ป่วยไว้สำหรับการกักตัวกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์เอาไว้แล้ว พร้อมกันนี้ได้ตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 บุคลากรทางการแพทย์ พนักงานของโรงพยาบาล จำนวน 1,700 คน เริ่มตั้งแต่วันที่ 13-15 มิ.ย.พร้อมกับฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ ทำความสะอาด ขอยืนยันในความปลอดภัยของประชาชนที่มาเข้ารับบริการที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ อยู่ในกลุ่มเฉพาะของเจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งเท่านั้น และยังเปิดให้บริการตามปกติ ผู้สื่อข่าวรายงาน สำหรับการพบผู้ป่วยในกลุ่มของพนักงานขับรถของโรง-พยาบาล มีพนักงานขับรถรายหนึ่ง พร้อมกับภรรยา ทำงานที่โรงพยาบาลด้วย ติดเชื้อมาจากคนในครอบครัวทำงานอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และไม่ทราบว่าตัวเองติดเชื้อ มาทราบว่าติดเชื้อเพราะพนักงานขับรถรายดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุบาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาลมีการตรวจหาเชื้อตามขั้นตอน พบว่าติดเชื้อโควิด-19 จึงมีการนำพนักงานขับรถของโรงพยาบาลมาตรวจหาเชื้อเพิ่มเติม ระดมคลีนนิ่งโรงเรียนส่วนการเตรียมพร้อมเปิดเรียนในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ ในหลายจังหวัดมีการนำอุปกรณ์เข้าทำความสะอาดสถานที่และติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันการแพร่เชื้อตามมาตรการของสาธารณสุขกันคึกคัก โดยที่โรงเรียนอนุบาลชัยนาท มีการระดมครูมาจัดบิ๊กคลีนนิ่งตามจุดต่างๆ ที่นักเรียนต้องเข้ามาทำกิจกรรม รวมทั้งฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อสนามเด็กเล่น และเช็ดทำความ สะอาดโต๊ะเรียน และอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าอาคารสถานที่สะอาดปลอดเชื้อพร้อมที่จะเปิดการเรียนการสอน โดยโรงเรียนจะจัดการเรียนการสอนแบบแยกกลุ่มสลับวันกันมานั่งเรียนตามกลุ่มเลขคี่ เลขคู่เพื่อลดความแออัดของนักเรียน และลดโอกาสของการแพร่เชื้อในโรงเรียนและตลอดเวลาที่อยู่ในโรงเรียนนักเรียนทุกคนจะต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา3 จังหวัดแดงเข้มป่วยเกือบครึ่งพันด้าน 3 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. มีรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่จำนวนมากต่อเนื่อง ศูนย์ปฏิบัติการโควิด-19 จ.นนทบุรี รายงานพบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 230 คน จำนวนนี้มาจากแคมป์ก่อสร้าง 154 คน หากแยกตามพื้นที่ อ.ปากเกร็ด 160 คน อ.เมือง 37 คน อ.บางใหญ่ 14 คน อ.บางบัวทอง 9 คน อ.บางกรวย 9 คน และ อ.ไทรน้อย 1 คน ส่วนการฉีดวัคซีนซิโนแวค จำนวน 25,000 โดส นอกโรงพยาบาล 4 แห่ง ได้แก่ ห้างเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน 13,000 คน (นนท์พร้อม) เซ็นทรัล เวสต์เกต บางใหญ่ 7,000 คน (บุคลากรด่านหน้า) อิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี จำนวน 4,000 คน (ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง) และหอประชุมวัดไทรใหญ่ อ.ไทรน้อย 1,000 คน (บุคลากรด่านหน้า) มีประชาชนเดินทางมารับการฉีดไม่ขาดสายตลอดทั้งวัน ขณะที่ จ.สมุทรปราการ ยังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึง 217 คน แยกเป็นผู้ป่วยในพื้นที่ 205 คน และจากนอกพื้นที่ 12 คน ไร้ผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่ม และ จ.ปทุมธานี พบผู้ติดเชื้ออีก 77 คน และมีผู้ป่วยเสียชีวิต 1 คนรพ.สังกัด กทม.ประกาศเทคิววันเดียวกัน สำนักการแพทย์ กทม. ออกประกาศ โรงพยาบาลในสังกัดสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานครได้แก่ โรงพยาบาลกลาง โรงพยาบาลตากสิน โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ โรงพยาบาลหลวงพ่อทวีศักดิ์ ชุตินธฺโร อุทิศ โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ โรงพยาบาลสิรินธร โรงพยาบาลคลองสามวา และโรงพยาบาลบางนา เลื่อนนัดการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 1 ผ่านการจองผ่านระบบหมอพร้อม หรือที่โรงพยาบาล ระหว่างวันที่ 14-17 มิ.ย.2564 โดยระบุว่า ด้วยวัคซีนโควิด-19 อยู่ระหว่างรอจัดสรรจากกระทรวงสาธารณสุข ขอเลื่อนการฉีดวัคซีนโควิด-19 ตามวันเวลาข้างต้น ขออภัยในความไม่สะดวก ทั้งนี้ หากได้รับการจัดสรรวัคซีน ทางโรงพยาบาลจะแจ้งนัดหมายท่านเพื่อเข้ารับบริการอีกครั้ง สำหรับท่านที่มีนัดหมายฉีดวัคซีน เข็มที่ 2 ในช่วงเวลาดังกล่าว สามารถเข้ารับบริการฉีดวัคซีนตามนัดหมายยุโรปไม่หนุนใช้แอสตราฯสำหรับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ยอดติดเชื้อรวมเพิ่มเป็น 176.4 ล้านคน เสียชีวิตรวมกว่า 3.81 ล้านคน ขณะที่นายมาร์โก คาเวเลรี ผู้อำนวยการฝ่ายเฉพาะกิจรับมือสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ของสำนักงานเวชภัณฑ์แห่งชาติยุโรป (EMA) ให้สัมภาษณ์สื่อ ลา แสตมปา ของอิตาลีว่า ประเทศต่างๆควรหลีกเลี่ยงการใช้งานวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ถึงจะมีอายุเกิน 60 ปี ไม่ควรฉีด เนื่องจากความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียงอาการลิ่มเลือด แต่แน่นอนว่าตอนนี้ทำไม่ได้ เพราะประโยชน์ที่ได้รับมากกว่าความเสี่ยงจะทำได้ก็ต่อเมื่อประชากรได้รับวัคซีนในระดับที่ส่งผลให้อัตราการแพร่ระบาดลดลงไปแล้ว ส่วนตัวมองว่าเมื่อถึงจุดที่ปลอดภัยแล้วควรใช้วัคซีนประเภท mRNA เช่น โมเดอร์นาหรือไฟเซอร์มากกว่า ทั้งนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานด้วยว่า เมื่อ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา รัฐบาลอิตาลีสั่งให้ฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาเฉพาะผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไปเท่านั้น หลังพบหญิงอายุ 18 ปี เสียชีวิตด้วยอาการลิ่มเลือดหลังฉีดวัคซีนผ่านไป 16 วัน ปฏิบัติการไทยรัฐ ฝ่าวิกฤติโควิด-19