เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีการจัดตั้งกลุ่มทางออนไลน์ในชื่อว่า “ย้ายประเทศกันเถอะ” โดยคณะผู้จัดตั้งให้เหตุผลว่าสิ้นหวังในการบริหารจัดการและอีกหลายๆอย่างของผู้มีอำนาจในประเทศนี้แล้วเนื่องจากการ “เกิดขึ้น” ของกลุ่มเป็นผลมาจาก “ความคิด” ที่ แตกต่างกันในทางการเมือง...บรรดา “ความเห็น” หรือ “คอมเมนต์” หรือที่เรียกกันในภาษาโซเชียลว่า “เมนต์” จึงแบ่งออกเป็น 2 ฝัก 2 ฝ่าย เช่นเดียวกับที่มีประเด็นใหม่ๆทางการเมืองเกิดขึ้นในยุคนี้จริงๆแล้วการย้ายไปอยู่ที่อื่นนั้น ถ้าทำได้ง่ายๆก็เป็นเรื่องดี...ดีอย่างยิ่ง สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศดั้งเดิมแต่ในข้อเท็จจริงคงไม่ใช่เรื่องง่ายๆสำหรับการที่จะโยกย้ายไปอยู่อาศัยในประเทศที่คนทั่วโลกอยากไป เช่น สหรัฐฯ แคนาดา หรือ ประเทศต่างๆในยุโรป รวมถึงออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ทางซีกนี้ด้วยเพราะประเทศรวยแล้ว พัฒนาแล้วเหล่านี้ เขาไม่ยอมให้คนชาติอื่นๆ ไปอยู่ประเทศเขาง่ายๆหรอกครับกรองแล้วกรองอีกว่างั้นเถอะที่ผมเห็นว่า ถ้าเราสามารถส่งคนของเราไปอยู่ประเทศต่างๆได้เยอะจะเป็นผลดีแก่การพัฒนาเศรษฐกิจของเรานั้น ก็สังเกตมาจากเกาหลีใต้นั่นเองว่าไปแล้ว เกาหลีใต้ กับ ประเทศไทย ถือเป็นประเทศด้อยพัฒนาที่เข้าโรงเรียน “ธนาคารโลก” รุ่นเดียวกัน จัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติมาพร้อมๆกัน ตั้งแต่ พ.ศ.2500 ต้นๆแต่จะเป็นเพราะคนเกาหลีใต้เขาลำบากกว่าเรามีศัตรู คือเกาหลีเหนือคอยกดดันอยู่...หรืออย่างไรก็แล้วแต่เถอะ...ทำให้คนของเขามีความมุ่งมั่นสูงกว่าเรา และในที่สุดก็พัฒนาประเทศได้เร็วกว่าเราที่สำคัญในขณะที่เขาเร่งพัฒนาโน่นนี่โดยเฉพาะสินค้าอุตสาหกรรมต่างๆนั้น จะด้วยการวางแผนไว้หรือจะด้วยความดิ้นรนของคนเกาหลีเอง ผมไม่สามารถค้นหาคำตอบได้...ทราบแต่ว่าคนเกาหลีใต้ได้อพยพโยกย้ายไปประเทศต่างๆทั่วโลกจำนวนมากเผลอแผล็บเดียวคนเกาหลีอพยพไปอยู่ประเทศอื่นๆ รวมกันแล้วถึงประมาณ 7 ล้าน 5 แสนคน ในปัจจุบันมากที่สุดก็คือ สหรัฐอเมริกา ซึ่งมีถึง 2 ล้าน 5 แสนกว่าคนที่ญี่ปุ่นก็เยอะราว 8 แสนคนเห็นจะได้ ส่วนที่แคนาดาก็ 2 แสน 4 หมื่นกว่า ถือว่าไม่น้อย...ยังมีที่อุซเบกิสถานอีกประมาณ 1 แสน 8 หมื่น ที่เวียดนามนี่ก็เยอะมากราวๆ 1 แสน 7 หมื่นในเมืองไทยเราก็มีประมาณ 20,000 คนความขยันขันแข็งของคนเกาหลีทำให้ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วจนเป็นที่อิจฉาของคนท้องถิ่น...โดยเฉพาะในสหรัฐฯถือได้ว่าเป็นไม้เบื่อไม้เมาของคนผิวสีอยู่ระยะหนึ่งโดนคนผิวสีปล้นร้านหรือเผาร้านเป็นข่าวอยู่บ่อยๆแต่คนเกาหลีเขาก็สู้ยิบตาควักปืนออกมาสู้...ดวลกับคนปล้นร้านอย่างไม่กลัวเกรงการที่มีคนเกาหลีถึง 7 ล้านคน กระจายไปทำมาหากินทั่วโลก เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจแก่เกาหลีใต้อย่างไรบ้าง?ทางตรงเลยก็คือการส่งเงินกลับบ้าน ส่วนทางอ้อมๆ ก็คือพวกเขาจะสั่งของจากเกาหลีทั้งไปกินเอง ใช้เอง แล้วเอาไปขายด้วย ก็ถือว่าเป็นรายได้ส่งออกของประเทศ10 ปีหลังๆมานี้กลายเป็นเรื่องวัฒนธรรม จากการที่คนเกาหลีที่อยู่ต่างแดนดูหนังเกาหลี ฟังเพลงเกาหลี...ดูไป ฟังไป...คนท้องถิ่นเข้ามาแจมด้วย พลอยสนุกไปด้วย ก็กลายเป็นแฟนซีรีส์เกาหลี เป็นแฟนวงเกิร์ลกรุ๊ป บอยกรุ๊ปต่างๆของเกาหลีกันไปทั่วโลกสำหรับประเทศไทยเรานั้น ตลอด 50 ปีที่ผ่านมา คนไทยเราเองก็เดินทางไปประกอบอาชีพทั่วโลกจำนวนไม่น้อยต้องขอขอบคุณทุกๆคนที่ไปอยู่ที่โน่น ไม่ว่าจะไปทำงานหรือไปค้าขายก็ตาม...โดยเฉพาะร้าน อาหารไทยทั้งหลาย ต้องขอขอบคุณเป็นพิเศษ ในฐานะที่เป็นตัวแทนประเทศไทยนำ “อาหารไทย” “วัฒนธรรมไทย” และความ “น่าเที่ยว” ของประเทศไทยไปเผยแพร่ทั่วโลกเราสู้เกาหลีไม่ได้ก็ตรงที่เรามีของขายน้อยกว่าเขาเท่านั้น โดยเฉพาะของทันสมัยราคาแพงอย่างโทรศัพท์มือถือ อย่างรถยนต์ ฯลฯ เราไม่มีเลยแต่เพียงเท่านี้ผมก็พอใจแล้วครับ และขอขอบคุณพี่น้องชาวไทยในต่างแดนทั่วทุกแห่งทั่วโลกไว้ ณ ที่นี้อีกครั้งหนึ่งเพราะฉะนั้นถ้าจะมีคนไทยรุ่นปัจจุบันโยกย้ายไปอีกเยอะๆ (ถ้าเขายอมรับนะ) ก็จะยิ่งดีขึ้นไปอีกขอเพียงอย่างเดียวไปแล้วก็ขอให้ช่วยกันขายสินค้าไทยและประชาสัมพันธ์เรื่องดีๆของประเทศไทยเราด้วย ถ้าจะด่าก็ขอให้ด่าเฉพาะรัฐบาลนะครับ อย่าด่าประเทศไทยอันเป็นที่รักของเราก็แล้วกัน.“ซูม”