เดดไลน์มหกรรมดวลน้ำลายชักเข้าชักออก ต้องลุ้นตัวโก่งจะปิดจ๊อบ ลงมติโหวตวันที่ 20 ก.พ.2564 ได้ทันตามโปรแกรมเดิม หรือยืดเวลาอภิปรายออกไปอีกอันเป็นผลจากพฤติกรรมฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านที่ไม่ร่วมรักษาเวลา ต่างฝ่ายต่างตีรวน ไม่มีลดราวาศอกฝ่ายค้านหลายคนพูดยืดยาว วนไปมา กินเวลาเพื่อน คอยประดิษฐ์ถ้อยคำมากกว่าเน้นเนื้อหาข้อเท็จจริง ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลก็ตั้งหน้าตั้งตาประท้วงดะ ขัดคอฝ่ายค้านรัวๆ รัฐมนตรีบางคนตอบไม่ตรงคำถาม ก้มหน้าก้มตาอ่านสคริปต์ที่เตรียมมา ตีเนียนโฆษณาผลงานตัวเองไปในตัวแบบฉบับศึกซักฟอกสไตล์ไทยๆ มีแต่ฉากทะเลาะเบาะแว้ง ประท้วงจนน่ารำคาญที่ดูเข้าเป้าได้เนื้อได้น้ำอยู่บ้างคือการอภิปราย ส.ส.ก้าวไกลหลายคนที่เตรียมข้อมูลมาดี ทำคะแนนเข้าตา โดยเฉพาะเรื่องการบริหารจัดการวัคซีนที่ผูกขาดอยู่กับบริษัทเดียวขณะที่พรรคเพื่อไทยที่มีประเด็นคือ ปมลากไส้ทุจริตจัดซื้อถุงมือยางขององค์การคลังสินค้า (อคส.) กระหน่ำใส่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ จนเสียทรงแม้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นเรื่องที่เคยเปิดโปงตามหน้าสื่อ แต่สามารถปะติดปะต่อ เชื่อมโยงตัวละครที่เกี่ยวข้องให้เห็นกระบวนการทุจริตชัดเจน มีตัวการสำคัญเป็นคนสนิทนายจุรินทร์ฉายภาพให้เห็นเป็นฉากๆ มีการแบ่งหน้าที่กันทำ ตั้งแต่การเมกออเดอร์สั่งซื้อถุงมือยางของ อคส. การเซ็นสัญญาที่มีข้อพิรุธมากมาย ให้ อคส.จ่ายมัดจำค่าผลิตถุงมือยางล่วงหน้า 2,000 ล้านบาท ภายใน 3 วันนับจากวันทำสัญญา โดยที่ผู้บริหาร อคส.ก็ไม่มีอำนาจลงนามสัญญาตามกฎหมายสุดท้ายเรื่องทุจริตแดงฉาวโฉ่ เงินมัดจำ 2,000 ล้านบาท อันตรธานหายเข้ากลีบเมฆ กลโกงถุงมือยางถูกต่อจิ๊กซอว์เห็นเป็นรูปร่างชัด แม้ รมว.พาณิชย์ยืนกรานไม่มีส่วนรู้เห็นทุจริต พร้อมดำเนินการตรวจสอบ ลงโทษผู้เกี่ยวข้อง แต่ไม่อาจเลี่ยงความรับผิดชอบได้เต็มปาก เพราะเป็นปมมีใบเสร็จทุจริตชัดเจน เรื่องอยู่ในขั้นตอนตรวจสอบของ ป.ป.ช.ที่สำคัญข้อมูลที่ฝ่ายค้านใช้ถลกหนัง ส่วนหนึ่งมาจากคณะกรรมาธิการพาณิชย์ สภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ คู่ปรับหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นั่งเป็นประธาน กมธ.อยู่งานนี้มองเป็นอื่นไม่ได้ นอกจากคนในแอบยื่นดาบให้ฝ่ายตรงข้ามฟันแม่ทัพ ตอกย้ำสภาพขัดแย้งค่ายสีฟ้าที่เขย่าเก้าอี้กันเองเมื่อสบโอกาสพอดิบพอดีกับจังหวะที่นายอันวาร์ส่งไลน์ในกลุ่มประชาธิปัตย์ เรียกร้องขอสิทธิ ส.ส.ฟรีโหวตศึกซักฟอก ขอยึดหลักถูกเป็นถูก ผิดเป็นผิด ไม่ถูกผูกมัดด้วยมารยาททางการเมือง แบะท่ายึกยักอยากสวนมติพรรคตามธรรมชาติประชาธิปัตย์สไตล์ที่มักฮึดฮัดใส่กันเอง แต่ถึงเวลาจริงไม่มีอะไรในกอไผ่ดูแล้วไม่ต่างจากสถานการณ์ฮึ่มฮั่มในค่ายพลังประชารัฐที่สุดท้ายแล้ว การลงมติคงลงเอยด้วยดีเป็นไปได้ยากที่แต้มเหล่าคู่กรณีในพรรคทั้ง นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ จะห่างกันลิบลับเต็มที่คงต่างกันไม่กี่แต้ม เกาะกลุ่มไม่ให้น่าเกลียด ดูแล้วไม่มีใครกล้าเสี่ยง หักมติพรรคเล่นงานคนในทีมอย่างที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กำชับเสียงแข็ง ส.ส.พลังประชารัฐต้องโหวตแต้มให้รัฐมนตรีเท่ากันเป๊ะๆ ไม่ให้ใครต้องพะวงเกมหนีบ๊วยเบอร์หนึ่งออกโรงปราม ส.ส.ในสังกัด สกัดแรงกระเพื่อม ตีกันพวกฉวยโอกาสเอาผลพวงการอภิปรายไม่ไว้วางใจไปขยายผลบีบปรับ ครม. เขย่าแรงสั่นสะเทือนเป็นลูกโซ่ต่อเนื่องบล็อกศึกในรัฐบาลไม่ให้ปะทุ ทับซ้อนศึกนอกที่ตั้งท่าระอุขึ้นเรื่อยๆ กลุ่มราษฎรนัดรวมพลเขย่าอำนาจรัฐบาล เรียกร้องปล่อยตัว 4 แกนนำที่ถูกจับกุมคุมขังตามแอ็กชันโหมโรง Mob Fest ชุมนุมหน้ารัฐสภา เพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจนอกสภาโดยประชาชน ตามติดด้วยคิวใหญ่ “ม็อบราษฎร” ที่จะยกทัพใหญ่เคลื่อนไหวต่อเนื่องในวันที่ 20 ก.พ.จัดกิจกรรมคู่ขนานอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา เดินหน้าขย่มเสถียรภาพรัฐบาลระลอกใหม่ นำประเด็นซักฟอกที่ถูกขัดขวางการทำหน้าที่ในสภาและประเด็นที่มีปมทุจริตชัดเจน ขยายแผลต่อนอกสภาม็อบรอรับไม้สองต่อจากคิวการอภิปรายฯ เตรียมเขย่าเสถียรภาพรัฐบาลให้อยู่ไม่เป็นสุข ซักฟอกต่อนอกสภา ไม่ให้ราคาพลังเสียงในสภาเพราะเสียงในสภาไม่มีค่าเท่าศรัทธาของประชาชน.ทีมข่าวการเมือง