เปิดทำเนียบขัตติยนารีคู่แผ่นดิน “พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10” จะต้องมีนามของ “เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี” รวมอยู่ด้วยอย่างแน่นอน เพราะไม่เพียงได้รับการยกย่องในฐานะ “ราชองครักษ์คู่พระทัย” ที่คอยถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์อย่างใกล้ชิด ยังนับได้ว่าเป็นยิ่งกว่าผู้รู้พระราชหฤทัยยากจะหาผู้ใดเสมอเหมือนได้ พร้อมเคียงบ่าเคียงไหล่เป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญของราชวงศ์จักรีในการรับใช้ประชาชนและชาติบ้านเมือง ภายใต้ภาพลักษณ์มาดมั่นแบบสาวสมัยใหม่ แต่แฝงไว้ซึ่งความนุ่มนวลอ่อนหวานตามแบบฉบับสตรีไทย “เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี ในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” เป็นสาวล้านนาเต็มตัว เกิดที่จังหวัดน่าน สำเร็จการศึกษาระดับชั้นปริญญาตรีพยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลกองทัพบก รุ่นที่ 41 เมื่อปี 2551 จากนั้นเข้ารับราชการเป็นพยาบาลประจำแผนกห้องฉุกเฉิน กองการพยาบาล โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เป็นเวลา 5 ปี แล้วจึงย้ายไปอยู่ที่แผนกอายุรกรรมหญิง กองการพยาบาล โรงพยาบาลอานันทมหิดล ในปี 2555 ก่อนจะเข้ามาถวายงานในศิลปาชีพ 904 ฝ่ายกิจการพิเศษประจำราชสำนัก โครงการในพระองค์ฯ และการพระราชกุศลในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สำนักพระราชวัง ตลอดจนงานพระราชกุศลและพระราชานุเคราะห์ โครงการในพระองค์ ฝ่ายราชเลขานุการ กระทั่งปี 2558 ได้ขึ้นเป็นรองผู้บังคับกองร้อยทหารมหาดเล็กหญิงราชวัลลภรักษาพระองค์ ประจำศูนย์ฝึกทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ โรงเรียนทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ สังกัดหน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ในอัตราพันตรี และเลื่อนขึ้นเป็นผู้บังคับกองพันราชสำนัก ในอัตราพันเอกพิเศษ เมื่อปี 2561 พร้อมดำรงตำแหน่งรองผู้บังคับการกรมทหารรักษาวังมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ และผู้บังคับกองพันราชสำนัก สังกัดกรมทหารรักษาวังมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ อีกทั้งยังได้รับความไว้วางพระทัยให้นั่งเป็นผู้อำนวยการกองปฏิบัติการกิจการราชสำนัก กรมกิจการวัง ทหารมหาดเล็ก ราชวัลลภรักษาพระองค์ สังกัดกรมฝ่ายเสนาธิการ ปฏิบัติหน้าที่รองผู้บังคับการกรมทหารรักษาวังมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ควบตำแหน่งผู้บังคับกองพันราชสำนัก กรมทหารรักษาวังมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ตลอดจนรับภารกิจสำคัญคือ “ราชองครักษ์ในพระองค์พระบาทสมเด็จ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ราชองครักษ์คู่พระทัย “เจ้าคุณพระสินีนาฏ” ได้เข้าศึกษาและฝึกเข้มในหลักสูตรทางทหารมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยความเข้มแข็งมุ่งมั่นอดทน ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรทหารอาสามหาดเล็กราชวัลลภ มวก.หญิง รักษาพระองค์, หลักสูตรหน่วยทหารทรหด, หลักสูตร Combat Qualifying Course Jungle Warfare ของหน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์, หลักสูตรชั้นนายร้อยหน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ของโรงเรียนทหารราบ ศูนย์การทหารราบ, หลักสูตรชั้นนายพัน หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ กระทั่งสำเร็จการศึกษาจากหลักสูตรหลักประจำโรงเรียนเสนาธิการทหารบก ชุดที่ 95 ในปีการศึกษา 2560 อีกหนึ่งความสามารถน่าทึ่งคือ “การขับเครื่องบิน” ได้เข้าศึกษาในหลักสูตรการบินหลายหลักสูตร ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรส่งทางอากาศของโรงเรียนสงครามพิเศษ ศูนย์สงครามพิเศษรุ่นที่ 292 เมื่อปี 2558 ฝึกกระโดดร่มตัวเปล่าในเวลากลางวัน และกระโดดร่มประกอบเครื่องสนามในเวลากลางวัน, หลักสูตรส่งทางอากาศนาวิกโยธิน ของโรงเรียนทหารนาวิกโยธิน ฝึกกระโดดร่มในเวลากลางคืน, ศึกษาภาควิชาการการบิน ของโรงเรียนการบิน กองทัพอากาศไทย (กำแพงแสน) และฝึกบินกับเครื่องบิน บ.ฝ.16 ก. เมื่อปี 2561 ก่อนสำเร็จหลักสูตร Private Pilot License (PPL) จากโรงเรียนการบิน Jesenwang เยอรมนีและเมื่อได้รับการสถาปนาขึ้นเป็น “เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี” เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2562 ก็ได้ถวายงานรับใช้เบื้องพระยุคลบาท “พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” ด้วยความจงรักภักดียิ่ง โดยภารกิจสำคัญที่มุ่งมั่นคือ การถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์อย่างใกล้ชิด ในฐานะราชองครักษ์คู่พระทัย และการแบ่งเบาพระราชภารกิจน้อยใหญ่ตามแต่จะมีพระราชบัญชา สำหรับภารกิจใหญ่ที่เพิ่งได้รับมอบหมายจาก “พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” คือ การดำรงตำแหน่งรองประธานที่ปรึกษาโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เพื่อดูแลสุขภาพของผู้ต้องขังให้สามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลอย่างเท่าเทียมกันตามหลักมนุษยธรรม เนื่องจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เป็นโรงพยาบาลแห่งเดียวในสังกัดกระทรวงยุติธรรม แต่ต้องให้บริการผู้ต้องขังในกรณีเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นจำนวนมาก จึงได้พระราชทานความช่วยเหลือในเรื่องการจัดหาอุปกรณ์ และเครื่องมือทางการแพทย์ ตลอดจนมอบหมายให้กลุ่มจิตอาสาพระราชทาน “เราทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์” ได้เข้าไปมีบทบาทในการช่วยเหลืออย่างจริงจัง ทั้งด้านการแพทย์, การพยาบาล และการอบรมให้ความรู้ต่างๆ เพื่อให้เกิดประสิทธิผลตามที่ตั้งพระราชหฤทัยไว้ เมื่อพวกเขาพ้นโทษแล้ว จะได้มีสุขภาพสมบูรณ์ทั้งกายและใจ พร้อมออกมาสู่สังคมภายนอก และประกอบอาชีพสุจริตได้อย่างมีคุณภาพ นับเป็นน้ำพระราชหฤทัยอันยิ่งใหญ่ของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 10 ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยทุกคนเนื่องในวันคล้ายวันเกิด ครบรอบ 36 ปี “เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี” ขอจงมีความเพียรอันบริสุทธิ์ในการเคียงบ่าเคียงไหล่เป็นกำลังสำคัญของราชวงศ์จักรีในการรับใช้ประชาชนและชาติบ้านเมืองตลอดไป.