บ่อนเถื่อน แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ยังเดือดปุดๆ ล่าสุด “เคนมผง” โผล่มาทำสังคมตะลึง กับสถานการณ์วัยรุ่นนอนตายเกลื่อนร่วม 10 ศพ ปรากฏการณ์ที่ปูดออกมาจากหน่วยกู้ภัยที่เก็บศพผู้เสียชีวิตลักษณะเหมือนกัน ติดๆกันสังเกตเห็นความผิดปกติ จึงโพสต์ลงโซเชียลมีเดียกระตุกตำรวจ เจ้าหน้าที่รัฐ สะดุ้งจากอาการงัวเงีย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไล่ตรวจสอบกันหูตาตื่น สาวต้นตอมาจากยาเสพติดพันธุ์ใหม่ ที่ “สตาร์ตอัพสายพี้” คิดเอง ผสมสูตรกันเอง ขายกันแพร่หลาย“ยานรก” ฤทธิ์ร้ายแรง ทำตายเป็นเบือนอกเหนือจากยาบ้า ยาอี ยาไอซ์ เฮโรอีน ประเทศไทยกลายเป็น “ฮับขาพี้”เหมือน “ผีผลัก” พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก พระอาทิตย์รอซ้ำ ประจานยุครัฐบาลทหารเฒ่า 3 ป. ยาเสพติดเกลื่อน บ่อนเถื่อน แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเชื้อเน่าฝังในปะทุต่อเนื่อง ฟ้องด้วยภาพตรงหน้าอารมณ์ควันออกหู หน้าบูดหน้าเบี้ยว เสียงเขียว เสียงเข้ม ยังไง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ก็ไม่อาจปฏิเสธความมีอยู่จริงสิ่งที่ตอกย้ำ “รัฐ” ด้อยประสิทธิภาพเชิงบริหาร หย่อนยานการบังคับใช้กฎหมายและตามรูปการณ์ น่าจะมาถึงจุดอันตรายต่อสุขภาพรัฐบาลทีมงานทหารเฒ่า 3 ป. เฉื่อยชาไม่ได้อีกต่อไป กับจังหวะเบิ้ลเครื่อง เหยียบคันเร่งมิดไมล์ จับอาการร้อนรนของ “เสี่ยบี” นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดีอีเอส ไล่จี้ เร่งรัดคดีไปยังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ให้ดำเนินการตามกฎหมายกับผู้โพสต์ข้อความและภาพไม่เหมาะสมเกี่ยวกับสถาบันขีดเส้นตาย ล็อกเดดไลน์ยื่นคำขาดให้ “เพนกวิน” นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ และ “รุ้ง” น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล แกนนำตัวกลั่นของกลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุม เบอร์ต้นๆม็อบราษฎร เข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามฐานความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ภายในวันที่ 14 มกราคมนี้ขู่หักดิบ หากไม่มา ถือว่าสละสิทธิ์ที่จะชี้แจงข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนจะสรุปสำนวนให้พนักงานอัยการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายทันทีงานนี้ “เสี่ยบี” บอกชัดๆรับสัญญาณจากผู้นำที่สั่งลุยจัดการเกรียนโซเชียลฯอย่างเข้มข้นไฟต์บังคับ “บิ๊กตู่” โดนพ่อยกแม่ยกไล่บี้หน้าเขียวหน้าดำ กองหนุนนายกฯดาหน้าขู่รายวัน ถ้าไม่จัดการพวกหมิ่นสถาบัน ต้องโดนยกเลิกต่อโปรโมชันอำนาจโอกาส พล.อ.ประยุทธ์โดนทีม “แบ็กอัป” โค่นกระดาน น่าหวาดเสียวกว่าม็อบโดยสถานการณ์หย่อนยานบังคับใช้กฎหมาย ปล่อยแรงงานต่างด้าวนำเชื้อไวรัสโควิด–19 ระบาดระลอก 2 ซ้ำด้วยบ่อนเถื่อนเป็น “คลัสเตอร์” จุดแพร่เชื้อไวรัสมรณะลามกระจาย แล้วยังมาตอกย้ำด้วย “ยาเคนมผง” โผล่มาระบาด ศพนักพี้ตายเกลื่อนประจานรัฐบาล “ลุงตู่” อยู่ในห้วงเผชิญไวรัสโควิดกระหน่ำ เชื้อฝังในปะทุ หายใจหายคอไม่ทัน“ฟางเส้นสุดท้าย” ต้องไม่ถูกจับได้ไล่ทันปมทุจริต “คอร์รัปชัน”โดยเฉพาะขบวนการ “หากินกับความเป็นความตาย” ตามปรากฏการณ์แย่งกันจอง “วัคซีนโควิด–19” แบบที่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น “โชว์ป๋า” ขอไฟเขียวรัฐบาลกลาง อนุมัติควักงบประมาณ อบจ. อบต. เทศบาลเมือง ซื้อวัคซีนฉีดให้ประชาชนในพื้นที่เองแน่นอน ไม่พูดถึงมาตรฐานความปลอดภัย เพราะตรวจสอบกันง่ายๆแต่ที่พิสูจน์ยากเลยก็คือมาตรฐานความโปร่งใส ตามวัฒนธรรมประจำชาติ “หัวคิว” กับนักการเมืองและระบบราชการไทยมันแยกกันไม่ออกดูแค่ “บิ๊กตู่” สั่งจองวัคซีน “ซิโนแวค” ยี่ห้อจากจีนแผ่นดินใหญ่ ก็มีข่าวกระตุกขวัญ ได้ผลแค่ 60 เปอร์เซ็นต์เป็นอะไรที่น่าเอะใจ ก่อนหน้านั้นการจัดหาวัคซีนของไทยจับจดอยู่แค่ยี่ห้อจากฝั่งยุโรป ปิดดีลกับจีน ทั้งๆที่ซิโนแวคฉีดในแผ่นดินใหญ่มาตั้งแต่ปีที่แล้ว สามารถคุมโควิดในวงจำกัด ไม่มีการระบาดรอบสองของดีราคาถูกอยู่ใกล้ๆ จีน-ไทย ดีลกันง่ายๆแต่ไม่สนใจห้ามสังคมสงสัยไม่ได้ ปมค่าคอมมิชชันมันถึงใจต่างกัน.ทีมข่าวการเมือง