นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า กทพ.อยู่ระหว่างดำเนินโครงการระบบจัดเก็บค่าผ่านทางพิเศษโฉมใหม่ Multi-Lane Free Flow (M- Flow) วิ่งก่อนจ่ายทีหลัง หรือ postpaid ที่ใช้ระบบ video tolling แบบ AI โดยใช้วิธีการตรวจป้ายทะเบียนรถอัตโนมัติ ซึ่งรถวิ่งผ่านได้สะดวก สามารถรองรับความเร็วได้ถึง 160 กม./ชม. และมีช่องทางชำระเงินที่สะดวกด้วยคิวอาร์โค้ด ตัดบัตรเครดิต และบัญชีธนาคาร จะมีระบบแจ้งเตือนผู้ใช้บริการผ่านแอปพลิเคชันทางโทรศัพท์มือถือ จ่ายค่าผ่านทางทั้งแบบรายครั้งและแบบรายเดือน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างจัดหาผู้รับจ้างติดตั้งโครงสร้างเสาสำหรับติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อบันทึกหมายเลขทะเบียน รถยนต์ที่ผ่านด่านเก็บค่าผ่านทาง โดยจะทำเฟสแรกก่อน บนทางพิเศษฉลองรัช หรือทางด่วนสายรามอินทรา-วงแหวนรอบนอก จำนวน 3 ด่าน ได้แก่ ด่านจตุโชติ ด่านสุขาภิบาล 5-1 และด่านสุขาภิบาล 5-2 โดยใช้งบลงทุน 59 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดใช้งาน เดือน ก.ค.64นายสุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า สำหรับเฟสที่ 2 จะติดตั้งบนทางด่วนสายรามอินทราฯ ครบทุกด่าน ใช้งบลงทุน 200 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จ ม.ค.65 เฟสที่ 3 จะติดตั้งบนทางด่วนที่ กทพ.รับผิดชอบให้ครบจำนวน 50 ด่าน ใช้งบลงทุน 1,100 ล้านบาท สำหรับทางพิเศษศรีรัช หรือทางด่วนขั้นที่ 2 และทางพิเศษอุดรรัถยา หรือทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด ซึ่งเป็นทางด่วนสัมปทาน ในเดือน ม.ค.64 กทพ.จะหารือคณะกรรมการมาตรา 43 โครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 และทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด ซึ่งมี ผอ.สนข.เป็นประธาน เพื่อให้เอกชนผู้รับสัมปทานดำเนินการ.