ศึกดุเดือดเลือดพล่านใน “ลูกทุ่งสู้ฟัด” ของคู่พี่น้องหนึ่งหญิงหนึ่งชาย “อาย ปาลิตา-ม่อน วรวิทย์” เดินทางมาสู่ 12 สมัยด้วยเงินรางวัล 300,000 บาท ที่ทั้งคู่แทบจะเรียกได้ว่า “แลกมาด้วยชีวิต”“ลูกทุ่งสู้ฟัด” หมัดเด็ดของจีเอ็มเอ็ม 25 ส่งท้ายปลายปี 2563 หนึ่งในรายการไฮไลต์ของช่อง ที่สร้างนักร้องประดับวงการลูกทุ่งไทยมาเป็นเวลานานพอสมควรแมตช์ล่าสุดได้ “ส้มเช้ง–หนิงหนิง” มาฟาดชิงแชมป์ยืนหนึ่งยืนนาน ร้องสู้กู้ชีพโชติ อย่างหฤโหดทรหด และอดทนอย่างแสนสาหัส“อาย ปาลิตา” อดีตแชมป์จากศึกวันดวลเพลง จับคู่น้องใหม่ใสสะอาดหล่อ “ม่อน วรวิทย์” น้องชาย “เม้ก อภิสิทธิ์” ผู้เคยเป็นหนึ่งในแชมป์บนเวทีลูกทุ่งสู้ฟัด และศึกวันดวลเพลงเสาร์ 5 มาแล้วม่อนถูกโชคชะตาและคู่แข่ง (ที่กรรมการตัดสินว่าร้องดีกว่า) เขี่ยกระเด็นไปยืนสงบอยู่นอกเวที (ตามกฎกติกาเหล็ก) ครั้งแล้วครั้งเล่า จำยอมปล่อย-ทิ้งให้ อาย ปาลิตา เดินหน้าท้าชนแหลกทุกคู่ต่อสู้ดุเดือด สมัยแล้วสมัยเล่าอย่างเข้มแข็งทระนงและ “สู้ยิบตา”มาถึงสมัยที่ 12 ด้วยเดิมพันที่พร้อมจะสูงลิ่วและลดฮวบ กับคู่ต่อสู้ที่โหดหินและสุดกดดัน จนอายถึงกับต้องใช้ตัวเลือก “ล้มกระดาน” ต่อลมหายใจ แต่ก็ยังแพ้พ่าย ต้องใช้ตัวเลือกสุดท้ายที่เหลือให้เลือกได้เพียงหนึ่งแล้วเท่านั้น นั่นคือ “ร้องแก้ตัว”อายเลือก “เจ็บคูณเจ็บ” มาเก็บปิดแผลเป็น “แส้สุดท้าย” ฟาดกระหน่ำคู่ต่อสู้อย่างไม่ยั้งวิญญาณ เธอร้องอย่าง “ถวายชีวิต” ด้วยทุกหยดน้ำตาที่หยาดหลั่งลงมาบนเรือนแก้มนวลปลั่งของสาวนักสู้สุดแสนทรหดอย่างเธอจนคว้าชัยชนะจากมวลความเจ็บนั้นได้ในที่สุด สำคัญที่สุดเธอ “เอาชนะใจตัวเอง” ได้สำเร็จปริญญา “มหาวิทยาลัยสู้ฟัด”เพราะมันเป็นเสมือนลมหายใจ “เฮือกสุดท้าย” ของอาย ปาลิตา คนนี้จริงๆ.“ดร.ศาสตร์ธนิก จุลมณี”‘‘แจ๋วริมจอ’’jaewrimjor@gmail.com