ตอนถอนสายบัวลาออกจากราชวงศ์อังกฤษ “เมแกน มาร์เคิล” เคยสร้างวีรกรรมไว้ลือลั่น จนชาววินด์เซอร์ไม่รู้จะเอาหน้าไปซุกไว้ที่ไหน เมื่อถึงคราวได้รับเชิญขึ้นเวทีใหญ่ระดับโลก “การประชุมสุดยอดผู้นำหญิงเจเนอเรชันใหม่ที่ทรงอิทธิพลที่สุดของโลก” จัดโดยนิตยสารฟอร์จูนในรูปแบบเสมือนจริงทางออนไลน์ ก็ไม่วายทิ้งระเบิดใส่ราชวงศ์ โดยระบุชัดว่า ราชวงศ์อังกฤษก็เป็นเพียงสถาบันหนึ่ง ขณะที่เปรียบเทียบผู้ใช้โซเชียลมีเดียว่าเหมือนคนติดยาเสพติด!! ถ้าไม่เลิกชีวิตพังวาทะดุเด็ดเผ็ดร้อนของสะใภ้เจ้านอกคอก มีขึ้นภายใต้การเสวนาในหัวข้อ “ความเป็นผู้นำที่กล้าหาญ” โดย “เมแกน” ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการสนทนาพูดถึงอันตรายของสื่อโซเชียลมีเดีย ถึงขนาดเปรียบเทียบ “ผู้ใช้สื่อโซเชียล” ว่าเหมือน “คนติดยาเสพติด” ที่วันๆเอาแต่หมกมุ่น มัวเมาเลิกได้ยาก ซึ่งกระบวนการทำงานของโปรแกรมอัลกอริทึมสามารถก่อให้เกิดอาการเสพติดงอมแงมและครอบงำจิตใจได้เหมือนการเสพยา นี่คือปัญหาใหญ่ที่น่าห่วงที่สุดของสังคมยุคปัจจุบันแม้จะประกาศชัดว่าทุกวันนี้เลิกขาดไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับโซเชียลมีเดียแล้ว แต่ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน นางเองก็หมกมุ่นกับการเล่นอินสตาแกรมและมีบล็อกส่วนตัวชื่อ “The Tig” โดยก่อนจะปิดบัญชีอินสตาแกรมส่วนตัวอย่างเป็นทางการ เมื่อปี 2018 เพื่อเข้ามาเป็นสมาชิกราชวงศ์วินด์เซอร์เต็มตัว “เมแกน” มียอดฟอลโลเวอร์มากกว่า 1.9 ล้าน และยังใช้สื่อโซเชียลอย่างแอ็กทีฟทุกช่องทาง ทั้งทวิตเตอร์และเฟซบุ๊ก นี่ยังไม่นับรวมถึงบัญชีไอจีร่วมกับเจ้าชายแฮร์รี่ในนามของ “ซัสเซกซ์ รอยัล” ซึ่งเปิดเพื่อโปรโมตตัวเองสมัยยังรับใช้สถาบัน และปิดตัวทันทีหลังทั้งคู่หอบผ้าหอบผ่อนลาออกจากราชวงศ์อังกฤษ ไปใช้ชีวิตอิสระเสรีโนสนโนแคร์ที่อเมริกาขณะที่ “เมแกน” แอนตี้การใช้สื่อโซเชียลมีเดีย และไม่ข้องเกี่ยวกับโลกออนไลน์มานานแล้ว นางกลับยืนกรานว่าจะใช้ดิจิทัลแพลตฟอร์มอื่นๆในทางสร้างสรรค์ให้ดู โดยตอบรับคำเชิญไปเป็นสปีกเกอร์ทางออนไลน์มาหลายเวทีแล้ว รวมถึงการทำพอดแคสต์พูดคุยเสวนากับ “มาลาลา ยูซาฟไซ” สาวน้อยปากีสถานที่เคลื่อนไหวเพื่อสิทธิการศึกษาของสตรี จนได้รับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ เมื่อปี 2014 และปัจจุบันลี้ภัยการเมืองมาพำนักอยู่ในอเมริกาก่อนหน้านี้ “เมแกน” กับ “เจ้าชายแฮร์รี่” ยังออกมาแสดงทัศนะแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ผ่านช่องทาง “Time 100 video special” จนเหล่า ส.ส.รีพับลิกันดาหน้ากันออกมาจี้รัฐบาลอังกฤษให้ถอดถอนตำแหน่งทั้งคู่ โดย “เจ้าชายแฮร์รี่” เรียกร้องให้ชาวมะกันที่มีสิทธิเลือกตั้งปฏิเสธการสร้างวาทกรรมแห่งความเกลียดชัง ใช้ถ้อยคำโจมตีผู้อื่น ให้ข้อมูลบิดเบือนความจริง และแสดงความคิดเห็นลบๆบนโลกโซเชียล ขณะที่ “เมแกน” ปลุกกระแสว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2020 เป็นการเลือกตั้งที่สำคัญที่สุดสำหรับชีวิตของชาวอเมริกัน เมื่อเราไปใช้สิทธิเลือกตั้ง คุณค่าของเราก็ควรได้รับการยอมรับ และเสียงของเราก็ควรถูกได้ยินก่อนจบการเสวนา “เมแกน” ยืนกรานว่า ที่ออกมาสู้ทุกวันนี้ เพราะอยากมีส่วนทำให้โลกใบนี้น่าอยู่ขึ้นเพื่อลูกชาย ในฐานะคนเป็นแม่ อยากทำทุกอย่างเพื่อเตรียมอนาคตที่ดีให้กับลูก “อาร์ชี” คือแรงบันดาลใจและแรงขับเคลื่อนสำคัญในชีวิตของนาง.มิสแซฟไฟร์