กกต.มีมติให้ วันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม เป็น วันเลือกตั้งสมาชิกและนายก อบจ. 76 จังหวัดทั่วประเทศ เป็นชุดแรก โดย กกต.จะประกาศให้มีการเลือกตั้งสมาชิกและนายก อบจ. วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม เปิดรับสมัคร 2–6 พฤศจิกายน ใช้งบประมาณเลือกตั้ง 3,236 ล้านบาท ถือเป็นเงินลงทุนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่ได้คืนมา เพราะ ผู้บริหารแต่งตั้ง เช่น ผู้ว่าฯ กทม. ที่แต่งตั้ง โดย หัวหน้า คสช. คนกรุงเทพฯได้เห็นผลงานเห่ยๆแล้ว ฝนตกทีไรถนนตรอกซอยน้ำท่วมเป็นคลองทุกที ไม่แคร์ประชาชนความจริงการเลือกตั้งท้องถิ่น กกต.ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่รัฐบาลสืบทอดอำนาจ คสช.ดึงเกมมาเกือบสองปี เขาลือกันว่า รัฐบาลกลัวพรรคสีส้มการเลือกตั้งท้องถิ่นอีก 2 กลุ่ม คือ เทศบาล 2,472 แห่ง อบต.5,300 แห่ง รัฐบาล และ กกต.ยังไม่กำหนดวันเลือกตั้ง แต่มีข่าวว่าเมื่อมีการเลือกตั้ง อบจ.วันที่ 20 ธันวาคมแล้ว การเลือกตั้งในระดับเทศบาล และ อบต. 7,772 แห่งทั่วประเทศ อาจมีขึ้นในครึ่งปีแรกของปี 2564 ราวเดือนกุมภาพันธ์ 2564 แต่ รัฐบาล และ กกต. อาจเลื่อนออกไปอีกก็ได้ ด้วยข้ออ้างง่ายๆว่า ยังไม่พร้อม ส่วนการเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม. และ นายกเมืองพัทยา ยังไม่รู้จะเลือกตั้งกันเมื่อไหร่ เพราะแต่งตั้งโดย หัวหน้า คสช. ทั้งที่วันนี้เรามีรัฐธรรมนูญใช้แล้วการเลือกตั้งท้องถิ่นชุดแรก สมาชิกและนายก อบจ. ในวันที่ 20 ธันวาคมนี้ ผมเชื่อว่าจะมีเงินสดจากการหาเสียงเลือกตั้งทั่วประเทศ กระจายลงสู่ท้องถิ่นรากหญ้าในปลายปีนี้หลายหมื่นล้านบาท ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ 76 จังหวัดให้คึกคักขึ้นมาอีกมากโขเลยทีเดียวดร.สมบัติ ชนะสิทธิ์ ที่ปรึกษานายกสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย ที่ปรึกษารัฐมนตรีพาณิชย์ มีความเห็นเหมือนผมว่า การเลือกตั้ง อบจ.จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจทั่วประเทศ เกิดการจ้างงานสร้างรายได้ เช่น คณะหาเสียง คนทำอาหาร รถแห่ รถหาเสียง เวทีหาเสียง ทำป้าย ติดป้ายติดโปสเตอร์ หัวคะแนนตามชุมชนและหมู่บ้าน แต่ละจังหวัดจะมีผู้สมัครขั้นต่ำ 2-3 ทีม โดยเฉลี่ยก็ 2 ทีมต่อจังหวัด และมีผู้สมัครอิสระอีกดร.สมบัติ ให้ตัวเลขค่าใช้จ่ายการเลือกตั้งท้องถิ่นว่า จังหวัดเล็กมีค่าใช้จ่ายทีมละไม่ต่ำกว่า 70–100 ล้านบาท จังหวัดขนาดกลางต้องมีค่าใช้จ่าย 100 ล้านบาทขึ้นไป และ จังหวัดใหญ่มีค่าใช้จ่ายไม่ต่ำกว่า 200–300 ล้านบาทต่อทีม การเลือกตั้ง อบจ. 76 จังหวัด จะมีเม็ดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 15,000 ล้านบาท (ไม่รวมงบเลือกตั้งอีก 3,236 ล้านบาท) และจะเกิดการหมุนเวียนของเงินถึง 6 รอบ ไม่ต่ำกว่า 90,000 ล้านบาทเงินเลือกตั้งก้อนนี้ เป็นเงินที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะเป็นเงินที่กระจายลงสู่ประชาชนรากหญ้าโดยตรงทุกจังหวัด ถ้านายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้าใจเรื่องเศรษฐกิจลึกซึ้งพอ รัฐบาลก็ควรฉวยโอกาสนี้เร่งจัดสรรเงินกู้ที่เหลืออีก 5 แสนกว่าล้านบาท ลงไปสู่ระบบเศรษฐกิจ แทนที่จะเอาไปแจกทิ้งแจกขว้างอย่างไร้สาระ และไม่เกิด impact ทางเศรษฐกิจ เช่น จ่ายคนละครึ่ง และ ถ้าจะให้เศรษฐกิจรากหญ้าได้รับการกระตุ้นต่อเนื่อง รัฐบาล และ กกต.ต้องจัดให้มีเลือกตั้งท้องถิ่นอีก 7,774 แห่ง เทศบาล 2,472 แห่ง อบต. 5,300 แห่ง กทม. เมืองพัทยา ต่อเนื่องทุก 60 วัน หรือ 2 เดือนตามกฎหมาย ไม่ควรยื้อหรือดึงเกมเพื่อการเมืองผมประเมิน การเลือกตั้งท้องถิ่นทั่วประเทศ 7,850 แห่ง ค่าใช้จ่ายจังหวัดใหญ่เล็กและ กทม.ด้วย เฉลี่ยแห่งละ 100 ล้านบาท จะมีเม็ดเงินลงสู่เศรษฐกิจรากหญ้าต่อเนื่องถึงกลางปีหน้าไม่ต่ำกว่า 785,000 ล้านบาท ถ้าหมุนไป 6 รอบ จะมีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจรากหญ้าสูงถึง 4.71 ล้านล้านบาท รากหญ้าจะฟื้นทันที ไม่ต้องไปกู้มาด้วย.“ลม เปลี่ยนทิศ”