นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะอนุกรรมการมรดกโลกทางวัฒนธรรม ครั้งที่ 1/2564 ที่ประชุมได้ติดตามความคืบหน้าของการจัดทำเอกสารเพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดย มอบให้กรมศิลปากรในฐานะเลขานุการ เร่งจัดทำแผนและคำชี้แจงสถานภาพการอนุรักษ์แหล่งมรดกโลกนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาที่เกี่ยวกับการดูแลรักษาและมาตรการจัดทำแผนแม่บทในการบริหารจัดการพื้นที่แหล่งมรดกโลกส่งให้ที่ประชุมใหญ่สามัญองค์การยูเนสโกในช่วงเดือน ธ.ค.นี้ โดยเฉพาะกรณีผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการก่อสร้าง โครงการรถไฟความเร็วสูงที่มีขนาด ค่อนข้างใหญ่ และสร้างครอบเหนือสถานีรถไฟเดิมที่ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานนายอิทธิพล กล่าวว่า ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นพ้องให้ปรับแบบโดยลดขนาดสถานีรถไฟให้เป็นไปตามที่ได้รับอนุมัติไว้จากการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเดิม หรือพิจารณาปรับย้ายสถานีให้ออกห่างจากตัวเมืองประวัติศาสตร์ไปอีก เพื่อลดผลกระทบด้านทัศนียภาพ การเจริญเติบโตของเมือง และแรงสั่นสะเทือนของรถไฟฟ้า โดยให้คณะทำงาน ซึ่งประกอบด้วย การรถไฟแห่งประเทศไทย กรมการขนส่งทางราง สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติเร่งศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และสุขภาพของประชาชนควบคู่กันไป และให้ติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด ก่อนการประชุมอีกครั้งช่วงไตรมาสแรกของปี 2564“ที่ประชุมยังติดตามความคืบหน้าการจัดทำเอกสารเสนอต่อยูเนสโกของแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมที่ได้ขึ้นบัญชีเบื้องต้นไว้ 3 แหล่ง ได้แก่ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช เขตเมืองเก่า จ.เชียงใหม่ และพระธาตุพนม จ.นครพนม โดยมีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งได้เน้นย้ำถึงการสร้างการมีส่วนร่วมและการรับรู้ของชุมชนท้องถิ่น ให้ได้รับทราบสิทธิและสถานะที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงไป หากได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยในส่วนเมืองเก่าเชียงใหม่ได้จัดทำเอกสารคืบหน้าไปร้อยละ 80 แต่จะยังมีประเด็นพื้นที่ทับซ้อนดอยสุเทพ-ปุยที่ได้ประกาศเป็นเขตอุทยานของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชจึงต้องระวางแผนที่กำหนดขอบเขตให้ชัดเจน อย่างไรก็ตามในการประชุมคณะกรรมการฯ ชุดใหญ่ในปีหน้า จะนำความคืบหน้าของการจัดทำเอกสารของอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท จ.อุดรธานี และอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ ที่จะอยู่ในบัญชีเบื้องต้นมาร่วมพิจารณาด้วย” รมว.วัฒนธรรมกล่าว.