เทรนด์สุดฮิต สาวไทยรุ่นใหม่อยากสวมเครื่องแบบ “นักรบชุดดำ” แห่สมัครคัดเลือกเป็นอาสาทหารพรานหญิงชายแดนใต้หวังรับใช้ชาติ แต่ละนางมีความรู้ ความสามารถ จบวุฒิ ป.โท-ป.ตรี เดินทางมารายงานตัว จากทั่วประเทศกว่า 1 พันคน แต่รับชุดแรกเพียงแค่ 15 อัตรา อดีตวิศวกรสาวเปิดใจ ยอมทิ้งเงินเดือนหลายหมื่นบาทเพื่อทำตามฝัน และจะใช้ความสุภาพอ่อนโยนเอาชนะใจคนในพื้นที่ที่สนามฝึกค่ายอิงคยุทธบริหาร มณฑลทหารบกที่ 46 อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 25 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีสาวไทยจำนวนมากเดินทางมารายงานตัว เพื่อรับสมัครคัดเลือกเป็นอาสาสมัครทหารพรานหญิงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งนี้ถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่เนื่องจากมีสาวไทยสนใจสมัครมากเป็นประวัติการณ์จากทั่วทุกภูมิภาค ทั้งภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ผู้สมัครส่วนใหญ่มีความรู้ เรียนจบวุฒิการศึกษาระดับปริญญาโท ปริญญาตรี ส่วนมากมีหน้าที่การงานดี มีความสามารถ และมีประสบการณ์ในการทำงานจากบริษัทและหน่วยงานชื่อดัง แต่มีความใฝ่ฝันอยากสวมเครื่องแบบ “นักรบชุดดำ” เพื่อรับใช้ชาติบรรยากาศการคัดเลือกเป็นไปด้วยความคึกคัก หญิงสาวทยอยเดินทางมารายงานตัวตั้งแต่เช้า ทุกคนที่ผ่านการคัดเลือกตามคุณสมบัติรอบแรกแล้ว ต้องทดสอบสมรรถภาพ สอบภาคสนาม ทดสอบกำลังกายตามเกณฑ์มาตรฐานของทหารพราน เช่น วิดพื้น ลุกนั่ง วิ่ง จากนั้นทดสอบข้อเขียน แต่เนื่องจากผู้สมัครคัดเลือกในปีนี้มีจำนวนมาก จำเป็นต้องแยกทดสอบถึง 3 สนาม และต้องใช้ครูฝึก ครูควบคุมการสอบ จากหน่วยกำลังทหารพรานจากหลายหน่วยทั้งในและนอกพื้นที่ เพื่อให้การสอบครั้งนี้มีความโปร่งใสมากที่สุดขณะที่ พล.ต.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 ได้มาตรวจเยี่ยมการรับสมัครทหารพรานหญิงในครั้งนี้ ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า น่ายินดีมากที่น้องๆให้ความสนใจสมัครคัดเลือกเป็นทหารพรานหญิง รวมยอดมีจำนวนมากถึงกว่า 1 พันคน ขอให้เชื่อมั่นว่าผู้บังคับบัญชาทุกนายได้สั่งการไปแล้ว ให้ ผบ.กองกำลังทุกหน่วย ดำเนินการคัดเลือกทหารพรานหญิงทุกคนอย่างโปร่งใส ยุติธรรม และชอบธรรม ครั้งนี้ถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของสังคมไทยที่หญิงไทยรุ่นใหม่มีความตั้งใจ ทุกคนอยากมีส่วนร่วมและมีความคิดสร้างสรรค์ ขออาสาเข้ามาแม้จะเป็นผู้หญิง แต่มีความกล้าหาญพร้อมรับใช้ชาติ กองทัพต้องการบุคลากรเหล่านี้มาเป็นกำลังสำคัญ เพื่อสร้างความเข้าใจกับมวลชนในพื้นที่พ.อ.คมกฤช รัตนฉายา ผบ.กกล.ทพ.จชต. กล่าวว่า การรับสมัครทหารพรานหญิงครั้งนี้ เนื่องจากมีผู้ลาออกไป จากการสำรวจยอดพบมีผู้สมัครกว่า 1,300 คน วันนี้มารายงานตัว 1,116 คน ชุดแรกต้องการ 15 คน ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกที่เหลือจะขึ้นบัญชีไว้ การที่มีผู้มาสมัครจำนวนมากแสดงให้เห็นว่า ทหารพรานหญิงเป็นอาชีพที่มีเกียรติ เสียสละ ยืนยันจะคัดเลือกด้วยความโปร่งใส ยุติธรรม ถูกต้อง ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งลูกหลานมาสมัครกันมากมายจากทั่วประเทศ ตั้งแต่ จ.เชียงใหม่ ถึง อ.เบตง จ.ยะลา ส่วนใหญ่มีการศึกษาสูง หลายร้อยคนจบปริญญาตรี หลายคนจบปริญญาโท หน้าที่หลักของทหารพรานหญิงในจังหวัดชายแดนภาคใต้คือ ช่วยเหลือประชาชนตามภารกิจ ที่ผ่านมาทหารพรานหญิงได้สร้างภาพลักษณ์ที่ดี เข้าถึงเป้าหมาย เป็นตัวเชื่อมระหว่างทหารกับพี่น้องประชาชนได้ดีน.ส.ณฐชนก แก้วลือ อายุ 29 ปี 1 ในผู้สมัครกล่าวว่า เป็นชาว จ.ขอนแก่น จบการศึกษาปริญญาโท คณะวิศวะอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชมงคลอีสาน หลังเรียนจบทำงานเป็นวิศวกรใน จ.นครราชสีมา ได้เงินเดือนหลายหมื่นบาท แต่ยอมลาออกมาสมัครเป็นทหารพรานหญิงด้วยความตั้งใจของตัวเองและของพ่อ รู้ว่าทหารพรานเงินเดือนน้อย ส่วนตัวไม่ได้มีภาระอะไรเพราะใช้หนี้สินหมดแล้ว ชอบเป็นทหารเนื่องจากได้ช่วยเหลือชาวบ้าน ใช้ความเป็นผู้หญิง ใช้ความสุภาพอ่อนโยน และให้ความไว้เนื้อเชื่อใจได้ดีกว่าผู้ชาย ไม่รู้สึกกังวลในสถานการณ์ชายแดนใต้ เพราะมีพ่อเป็นทหาร และน้ากับพี่ชายก็เป็นทหารอยู่ จ.ยะลา เช่นกัน ก่อนมาสมัครได้ขอแม่หลายครั้ง ตอนที่มาส่งแม่ร้องไห้หนักมาก อยากให้เปลี่ยนใจ แต่ได้พูดให้แม่เข้าใจว่าเป็นความตั้งใจ ไม่กลัว ใจเราสู้ คิดถึงบ้านก็บินกลับบ้านได้น.ส.รัชนีกร ศิริมาตร อายุ 27 ปี ชาว อ.บ่อเกลือ จ.น่าน เปิดเผยว่า เดินทางมาคนเดียว ครอบครัวมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเจ้าหน้าที่ทหารพราน เพราะในหมู่บ้านที่อยู่ได้รับความช่วยเหลือจากทหารเวลาเดือดร้อน ทั้งแจกข้าวของช่วยเหลือประชาชน อีกทั้งช่วยงานพัฒนาหมู่บ้านต่างๆ ทำให้เกิดความประทับใจและกลายเป็นความผูกพัน เหตุผลที่มาสมัครทหารพรานหญิงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะต้องการช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ และช่วยแก้ไขปัญหาความรุนแรงด้วยความอ่อนโยน แม้จะมีข่าวว่าบางพื้นที่มีอันตราย ขอบอกว่าทุกที่ล้วนมีความอันตรายเหมือนกันหมด อยู่ที่เรา อยู่ที่ใจ เป็นทหารต้องมีความเตรียมพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ และตั้งสติไว้เสมอ