ใครจะไปนึกว่า ยักษ์ เก่ง ธชย ประทุมวรรณ นักร้องหนุ่มหัวใจไทย จะกลายเป็นนักร้องสายมูตัวพ่อ เพราะล่าสุดฝากเนื้อฝากตัวเป็นลูกศิษย์ อ.เชียง ปัณณวิชญ์ ซินแสคิวทอง ไปเรียบร้อยแล้ว ล่าสุด เก่ง ขยับนั่งเก้าอี้ CEO ค่ายเพลง ไวท์ไลน์ พร้อมผุดโปรเจกต์ “Tossagirls ทศเกิร์ล 2020” ขึ้นมา แต่กว่าจะออกสู่สายตาแฟนๆ เก่ง เล่นหอบใบสมัครของน้องๆ ให้ อ.เชียง เช็กดวงความปังมาเรียบร้อย งานนี้เลยต้องคว้า อ.เชียง&เก่ง มาบอกเรื่องราวกับความเชื่อ ความศรัทธา ใน “คนดังนั่งคุย”เป็นมายังไงเก่งถึงได้มาเป็นลูกศิษย์ อ.เชียงได้ล่ะเก่ง “จริงๆติดตามอาจารย์มานาน เพราะเราก็เป็นสายมูอยู่แล้ว กำลังหาจังหวะโอกาสแต่จังหวะไม่ได้ บังเอิญช่วงนั้นเก่งมีโอกาสได้สร้างพระพิฆเนศรุ่นนึง จนได้ปัจจัยมาก้อนนึง แต่เราไม่รู้จะเอาเงินไปต่อยอดยังไง ไม่รู้จะทำบุญที่ไหนจนนึกถึงอาจารย์ ไม่มีใครติดต่อก็เลยติดต่อไปเองแล้วกัน ไดเรกต์ข้อความ ผมว่าอยากจะนำปัจจัยไปร่วมทำบุญ อาจารย์น่าจะต่อยอดได้ก็เลยบอกอาจารย์ ปกติเป็นคนไม่ว่าง แล้วอาจารย์บอกวันมาแค่วันเดียว แล้วอาจารย์บอกว่าเชิญนะครับ ถ้าว่างแสดงว่ามีบุญสัมพันธ์กัน สรุปคือว่างพอดี (หัวเราะ) เลยเข้ามาแล้วมอบให้”อ.เชียง “หล่อเป็นเงินต้น จริงๆที่วัดไทยที่อเมริกา วัดธรรมประทีป วอชิงตัน ดี.ซี. ท่านขอประธาน สูง 4 เมตร ประดิษฐานหน้าโบสถ์มานานแล้ว ปีนี้เลยตั้งใจจะทำ อยู่ๆเก่งติดต่อมา วันนั้นที่อาจารย์ว่างให้เก่งเข้ามาพบ คือเป็นวันที่คุยกับท่านเจ้าพระคุณเสร็จ เรื่องนี้ผมจะเริ่มแล้วปีนี้ เท่ากับปัจจัยนั้นเป็นเงินต้นในการสร้าง อาจารย์จะเททองหล่อ ที่วัดพระปฐมเจดีย์ 6 ธ.ค.63 เพิ่งไปกราบเจ้าคุณพรหมเวที เจ้าอาวาส ขอใช้สถานที่ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ถ้าคนรู้จักจะรู้ว่าอาจารย์เป็นคนรับเงินคนยากมาก บังเอิญมาก เค้าพูดว่าเป็นเงินขององค์พ่อ คำนี้แหละ แสดงว่าองค์พ่อให้เราทำแล้ว”เก่งมาสายองค์พระพิฆเนศได้ยังไงเก่ง “คือเราเป็นสายดนตรีไทยอยู่แล้ว เรารู้จักและคุ้นชิน เราอยู่กับดนตรีไทย คลุกคลีมาตลอด วันนั้นได้เจออาจารย์ ได้คุย อาจารย์สอนหลายๆอย่าง หลักคำสอน มีให้กำลังใจและที่สอน ขอบคุณองค์พ่อ ความสำเร็จที่เรามีได้เพราะใคร วันแรกมาเข้าใจนะ เป็นเทพที่เรานับถือแต่ยังไม่ลึกซึ้ง ขอบคุณ เข้าใจรู้ว่าท่านมีอยู่จริงและคุ้มครองเราอยู่ มีหลายๆเหตุการณ์เกิดขึ้นในชีวิต มีทั้งบังเอิญ ยิ่งอยู่กับอาจารย์อะไรหลายๆอย่าง ทำให้เรารู้ว่า มันค่อยๆเข้าใจมากขึ้นจนวันนี้ รู้สึกเลย ทุกๆความสำเร็จมาจากองค์พ่อจริงๆ ไม่ว่าประกวดครั้งแรก เรียนดนตรีไทยครั้งแรก แม้กระทั่งดีดจะเข้ 14 เหรียญทอง เก่งอินเป็นพิเศษ ทีมงานเก่งจะรู้เลยว่า หน้าบ้านดูดี (หัวเราะ) แต่หลังบ้านเราเป็นเด็กเอาแต่ใจ เราหนีแล้วเป็นเด็กเกเรมากแต่สุดท้ายก็คือเราดีดจะเข้สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย เราดื้อเราหนีแต่ท่านอุ้มเราไว้อยู่ ตอนนั้นไม่รู้สึก ตอนนี้กลับไปทบทวน”ตอนที่เก่งจะมาหาอาจารย์เชียงได้เห็นอะไรในตัวเก่งบ้างอ.เชียง “ก่อนที่เก่งจะมา อาจารย์ได้สัญญาณบางอย่างเป็นความเชื่อส่วนตัว จะรู้สึกสัมผัสถึงพญานาคราชบ่อยมาก เช่น งูเข้าบ้าน อยู่ๆมีคนขอให้อาจารย์บวงสรวง พญานาคราชศรีภุชงค์ มันเป็นสัญญาณมาเรื่อยๆ ก่อนที่เก่งเข้ามาช่วงนั้นอาจารย์ อยู่ในจุดจะทำ ไปอเมริกาปีนี้มั้ย คืออาจารย์จะไม่เอ่ยหรือเรี่ยไรให้ใครทุกข์ ถ้ามีส่งสัญญาณและเชื่อว่าเทวดามาช่วย อยู่ๆเค้ามาบอกแบบนี้”เก่ง “จริงๆก็ไปมาหลายที่แล้ว (หัวเราะ) ผมเป็นคนเชื่อมูเตลูและไปทุกที่ที่คนคอมเมนต์ ขนาดหมอดู ดูจนหลังๆดูเองได้แล้ว (หัวเราะ) ไม่ๆ ความจริงเป็นคนไม่มีเซ้นส์แต่ดูดวงจนเข้าใจระบบ กราฟแบบนี้ ไม่เครียดกับมัน แต่ถ้าเป็นเมื่อก่อนดูดวงจะเครียดแต่ตอนนี้ อ่อๆดวงปรับกันได้ และที่หยุดที่ อ.เชียงก็คือขั้นสุด อีกเรื่องที่เห็นต่างคนอื่นคือเวลาเราถามทางคนอื่นจะแค่บอกทางกับเราแต่กับ อ.เชียงคือถามทางแต่ได้ดวงตา จะไปที่ไหนก็ได้ ให้ทางออก (เสียงสั่นเครือพร้อมน้ำหูน้ำตาไหล)"แสดงว่าตอนนั้นเก่งมีปัญหาอยู่“จริงๆปัญหามันมีทุกวันอยู่แล้ว คือ อ.สอนให้เราเข้าใจตัวเอง โชคดีมากเลย”ทราบมาว่า อ.เชียงชวนเก่งไปทำบุญอินเดีย เชื่อว่าคงไม่เอ่ยปากชวนใครไปด้วยกันง่ายๆ ทำไมถึงเลือกเก่งอ.เชียง “ตั้งใจจะไปบวงสรวงพญานาคราชที่สระมุจลินท์ สระจริงตามตำนาน ก่อนพระพุทธเจ้าตรัสรู้ ท่านเอาคำสอนมาแสดงธรรมสิ่งที่ท่านได้เป็นของสูงของยากทำให้คนเข้าใจ ท่านไปนั่งสมาธิใต้ต้นมุจลินท์ 7 วัน ในการเข้านิโรธมาแพร่ เลยกลายเป็นพระพุทธรูปปางนาคปรก อยู่ 7 วันเพื่อไม่ให้สิงสาราสัตว์มาทำร้ายพระพุทธเจ้า สระนี้มีอยู่จริง เลยจากต้นพระศรีมหาโพธิ์ 3 กม. คนไม่ค่อยรู้เลยไม่ได้ไป คนเข้าใจ สระมุจลินท์ พุทธคยา แต่จริงๆเป็นสระจำลอง อาจารย์จะพาไป แล้ววันที่บวงสรวงเมฆเป็นหัวงูเลย โพสต์ในไอจี เป็นความเชื่อส่วนบุคคล เลยคิดถึงเก่ง ภูมิรู้ ศรัทธา ความผูกพันที่เค้ารู้สึก ก็น่าไป เป็นการเติมบารมี เติมใจเค้าให้เต็มด้วย”เก่งพร้อมไปแสวงบุญมั้ยเพราะเราคิวทองมาก“พร้อมครับ (หัวเราะ) ผมว่ามองกลับกันช่วงโควิดแย่ๆ วิกฤติแต่เราได้มองมุมต่าง เป็นไทม์มิงได้ถือศีล ช่วงนั้นเก่งได้ถือศีล 9 วัน เมื่อก่อนไม่ได้ว่าง 9 วันได้ มันชาร์จแบตมันดีมาก ผมเป็นคนเพ้อเจ้อ ช่างคิด อารมณ์ค่อนข้างชัดเจน พออยู่ตรงนั้น รู้เลยใครคุมเราไม่ได้นอกจากตัวเราเอง ล่าสุดไป 3 ครั้งค่อยๆ ดีขึ้น นิ่งขึ้น”อ.เชียงเสริม “ทุกๆครั้งที่ไปก็จะดังทุกครั้ง” เก่งเจออาจารย์ทักเรื่องอะไรถึงกับทำให้เราอึ้งไป“ช่วงถือศีล 9 วัน ก็ปรึกษาอาจารย์ ปกติเก่งถือศีลจะไม่เล่นโซเชียล ช่วงโควิด ปล่อยให้น้องเล่นเราก็ขอ ก้าวเท้าออกจากโบสถ์ก็ขอโคตรดัง โคตรรวย ขอให้เกิดขึ้นโคตรเร็ว เปิดมือถือเป็นข่าวเลยเรื่องข่าวคู่จิ้น ไม่มีไมค์มาจ่อนานแล้ว ไทม์มิงเก่งกำลังสึก เลยบอกอาจารย์ มีอาจารย์ทักเรื่องเดือน จะมีทัวร์เขมรลงในติ๊กต่อก มีหลายๆ อย่างครับ”ความสุขของเก่งตอนนี้ไม่ใช่ชื่อเสียงเงินทองเหมือนเมื่อก่อนแล้ว“ใช่ เมื่อก่อนรู้สึกจะต้องจะโน่นจะนี่ ตอนนี้พอเราเข้าใจชีวิตมากขึ้นก็รู้สึกว่ามันก็แค่นั้น แต่ท้ายที่สุดชื่อเสียงถ้าเกิดสร้างประโยชน์ให้กับคนอื่น แล้วตัวเราสามารถทำหน้าที่ตรงนั้นได้เราก็ยินยอมที่จะเหน็ดเหนื่อยที่จะทำตรงนั้น”อ.เชียงเสริม “สิ่งนี้เรียกว่าอธิษฐาน ไม่ใช่การขอ คนชอบถามอาจารย์ การขอกับคำอธิษฐาน ฟังดูก็เหมือนกัน แต่อย่างที่เก่งพูดคืออธิษฐานขอชื่อเสียงให้เกิดมีขึ้นเพื่อที่จะได้เป็นลีดเดอร์ในการนำ การขอแค่สนองกิเลสให้ได้กิเลสสำเร็จ หลักลอย คนพวกนี้สำเร็จไม่นานก็ตายเปล่า ไม่รู้เอาความสำเร็จชื่อเสียงไปยังไง”เก่งพอเรามาทางสายมูแบบนี้ คนจะพูดว่าเก่งงมงาย“ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงจัดการตรงนี้ไม่ได้แต่เดี๋ยวนี้ปล่อยวาง แม้กระทั่งเรื่องข่าวคู่จิ้น เมื่อก่อนปวดหัว คงต้องออกมาตอบโต้แล้วแต่ตอนนี้ชิลมากเลย วางเฉย เรารู้สึกแล้วว่าชีวิตเราต้องทำอะไร กลายเป็นสงสารคนอื่นคงทุกข์แหละ เราสงสารเค้าได้แค่มอง เพราะเราก็มีปัญหาที่จะต้องแก้อยู่ (หัวเราะ)”มีคนเข้ามาปรึกษาเก่งมั้ยในด้านความเป็นสายมูตัวท็อป อ.เชียงตอบแทน“ยังๆ ตัวท็อปนี่ต้องมดดำครับ (ยิ้ม)”อ.เชียงกับเก่งพอเป็นศิษย์-อาจารย์กันแล้วมีแพลนที่จะทำอะไรร่วมกันเก่ง “จริงๆงานตอนนี้แทบทุกอย่างพยายามปรึกษาอาจารย์ เมื่อก่อนมองเชิงของคุณภาพ ตัดสินเชิงวิทยาศาสตร์ เรารู้ทุกอย่างทั้งหมดไม่ได้ เราเห็นคนยิ่งใหญ่หลายๆคน ทุกคนมีกุนซือหมด เค้าคัดแม้กระทั่งคนที่ทำงาน เก่งเลยให้อาจารย์เป็นที่ปรึกษา แม้กระทั่งการคัดเลือกศิลปินหรือการไทม์มิงการปล่อยเพลง อ.เชียงจะอิงกับการตลาดด้วย มองหลักความจริงด้วย ไม่ใช่ให้มูสุดตัว ให้คำปรึกษาทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องการงานด้วย”อ.เชียงเสริม “เรื่องเดียวที่เก่งไม่เคยปรึกษาเลยคือเรื่องความรักครับ เอ๊ะ หรือยังไม่ค้นพบตัวเอง (อาจารย์ชงประเด็นเก่งแบบนี้ ทำให้เก่งหัวเราะลั่น) ต้องถามย้ำ เพราะอะไรเก่ง “ไม่ค่อยมีครับ เรื่องความรักยังไม่ได้มองเจ้าไหน”ยังเลือกไม่ได้หรือเปล่า“ยังครับ ช่วงนี้เข้าพรรษาด้วย ผมชอบนะ พอเราโสด เราบริหารเสน่ห์ เมื่อก่อนคนทักมาเราก็โน่นนี่นั่นแต่ตอนนี้เรารู้สึกว่ายิ่งมีคนสนใจปุ๊บ เราคุมมันได้ เรายิ่งรู้สึกว่าเนื้อหอมมันมีอยู่จริงๆ ตอนนี้เราโฟกัสงานเป็นหลัก เคยลองแล้วรู้สึกไม่รอด มันพังเรื่องงานด้วย พอลิงก์เข้าสู่หลักธรรม มันน่าจะไม่ใช่ช้อยส์หลัก ส่วนตัวเรา เราเกิดมาเพื่อทำบางอย่าง ความรักไม่ได้มาช่วยเสริมหน้าที่ของเรา”ถ้ามีคนเข้ามาก็ไม่ปฏิเสธถูกมั้ย“ใช่ครับ ปล่อยไปตามไทม์มิง ตามเวลา แต่ปัจจุบันมองงานเป็นหลัก งานผมค่อนข้างพอยต์ใหญ่” ตอนนี้เก่งกำลังมีโปรเจกต์ใหญ่เก่ง “ใช่ครับ ทศเกิร์ล วงที่เราจะทำรีแบรนด์ใหม่ มีอาจารย์เป็นที่ปรึกษา ปกติค้นหาศิลปินเค้าต้องออดิชัน แต่อันนี้ออดิชันก็คือต้องเปิดดวงด้วย (หัวเราะ)”จากคนที่มาสมัครเราก็เอาโปรไฟล์ให้อาจารย์ส่องดวงด้วยเก่ง “ใช่ครับ (หัวเราะ) ไหนๆ แล้วก็เริ่มก่อนเลย กางโปรไฟล์ให้ อ.ดูเลย ดูโหงวเฮ้ง พื้นดวงและความเป็นไปได้ แมตช์กับของเรามั้ย อนาคตความเป็นไปได้ วงนี้ทศเกิร์ล เคยเดบิวต์มาปีกว่าๆ แล้ว แต่ตอนนี้ปรับเปลี่ยนพัฒนาใหม่เพราะว่าคิดว่าน่าไปได้ไกลกว่านี้เลยออดิชันปรับเปลี่ยนสมาชิก”จะผลักดันสู่ตลาดโกอินเตอร์ด้วยใช่มั้ย เก่งหันไปถาม อ.เชียงว่า น้องๆโกอินเตอร์มั้ยครับอ.เชียง “โกอินเตอร์ครับ ทำอะไรที่ชัดเจนรูปแบบเอกลักษณ์ เราโชว์ความเป็นไทยที่ประเทศชาติอื่นไม่มี และอันนี้เป็นของใหม่ เก่งเค้ามีพรสวรรค์ มีทักษะ หลักธรรม มีสกิลชาติเดียวไม่พอ เค้าสะสมในแง่พัฒนา ต่อยอด หยิบตรงนี้มาพัฒนาไป”เก่ง “มิวสิกหลังๆจะอินกับศาสนา ธุจ้า เกี่ยวกับเรื่องมู ยูทูบมี มาแรง ใช่มั้ย ไม่ได้ติดมาแรงนานแล้วพอไปถือศีลก็ติดมาแรงเลย ไม่ได้มูๆๆๆ แต่ติดเลย ไม่ได้งมงายด้วย (หัวเราะ)”ทีมข่าวบันเทิง