จีนกล่าวหาอินเดียว่าได้กระทำการยั่วยุอย่างรุนแรงหลังจากที่กองกำลังทหารอินเดียลอบข้ามพรมแดนทางตะวันตกและเปิดฉากยิงข่มขู่ทหารลาดตระเวนของจีน นับเป็นครั้งแรกในรอบ 45 ปี ที่เกิดการยิงในพื้นที่ชายแดนพิพาท และระบุว่าอินเดียได้ละเมิดข้อตกลงร่วมกันของทั้งสองประเทศอย่างร้ายแรง ส่วนอินเดียก็อ้างจีนเป็นฝ่ายยิง สื่อของทางการจีน โกลบอล ไทมส์ กล่าวว่ากองกำลังของอินเดียได้ข้ามแนวเส้นแบ่งเขตควบคุมตามความเป็นจริงไปยังพื้นที่ภูเขาเชนเป่า ใกล้กับฝั่งใต้ของทะเลสาบปันกอง พันเอกจาง ฉุยลี่ โฆษกของกองทัพปลดปล่อยประชาชน ระบุว่าการเคลื่อนไหวของอินเดียเป็นการละเมิดข้อตกลงที่เคยทำไว้ในปี 2539 กำหนดไม่ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโจมตีใช้อาวุธไม่ว่าจะเป็นปืนหรือระเบิดภายในเขตแนวเส้นแบ่งเขตควบคุมตามความเป็นจริงของพื้นที่พิพาท ทางการจีนยังเรียกร้องให้อินเดียถอนทหารออกจากพื้นที่ ดำเนินการสอบสวนและลงโทษเจ้าหน้าที่ที่ก่อเหตุ ในขณะที่อินเดียปฏิเสธและโต้ว่าการกระทำของจีนเป็นความพยายามที่จะยกระดับความตึงเครียด และทำให้ประชาคมโลกเกิดความสับสนและเข้าใจผิด เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพียง 1 วัน หลังจากที่กองทัพของอินเดียแจ้งเจ้าหน้าที่ของจีนว่าพลเรือนอินเดีย 5 คน ถูกกองกำลังจีนลักพาตัวไปจากพื้นที่ใกล้ชายแดนพิพาท ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองเริ่มตึงเครียดตั้งแต่เหตุปะทะในเขตลาดักห์ ในเดือนมิถุนายน ส่งผลให้ทหารอินเดียเสียชีวิต 20 นาย ต่อมาในเดือนสิงหาคมอินเดียกล่าวหาจีนว่ากระทำการยั่วยุในบริเวณชายแดนพิพาท 2 ครั้ง ภายในระยะเวลาหนึ่งเดือน จีนไม่ยอมรับและแย้งว่าความขัดแย้งทั้งหมดเป็นความผิดของอินเดีย อย่างไรก็ตามกระทรวงกลาโหมของทั้งสองประเทศได้หารือกันนอกรอบแล้วที่กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ในงานประชุมระดับนานาชาติเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ทั้งสองฝ่ายต่างก็ยังกล่าวโทษกันไปมา ที่ผ่านมาทั้งสองประเทศเคยสู้รบกันเพียงครั้งเดียวในปี 2505 และอินเดียเป็นฝ่ายพ่ายแพ้อย่างน่าอับอาย ขณะเดียวกัน ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดที่เกิดขึ้น ทางการอินเดียได้ทำการตอบโต้ด้วยการสั่งแบนแอปพลิเคชันจากจีน รวมทั้ง TikTok แอปฯวิดีโอคลิปยอดฮิต โดยให้เหตุผลว่าอาจเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของอินเดีย.