ก่อนพุทธกาลสอง-สามร้อยปี มีศาสนานิครนถ์ เรียกเต็มที่ เดียรถีย์นิครนถ์ เดียรถีย์ แปลว่า ศาสนา นิครนถ์ แปลว่า ไม่มีกิเลส และผู้ที่ไม่มีกิเลส ก็คือ “ไชนะ” หรือผู้ชนะตอนที่พระสิทธัตถะออกบวชเพื่อแสวงหาความหลุดพ้น ท่านก็มุ่งหน้าไปหาสำนักที่ดีที่สุด สำนักอาฬารดาบส สำนักอุทกดาบส ที่เชื่อว่าดีที่สุดนั้น ก็คือศาสนานิครนถ์ หรือศาสนาไชนะ นี่เองพระพุทธองค์ตรัสไว้เอง เสด็จไปประพฤติวัตรอย่างที่เรียกว่าเดียรถีย์การเปลือยกาย การไม่กินอาหาร การนอนบนหนาม นอนในป่าช้า ฉันอุจจาระ หรือเรื่องอะไรต่างๆทำนองเดียวกันนี้ พระสิทธัตถะทรงทำเพื่อศึกษาทั้งหมดท่านอาจารย์พุทธทาสเขียนไว้ในหนังสือเล่มอิทัปปัจจยตาว่า การที่ท่านเข้าไปเป็นศิษย์ของหมู่นิครนถ์ก็ต้องมีเพื่อนร่วมชั้นเรียนหลายๆคน คนหนึ่งก็คือมหาวีระ ที่เรียกอีกชื่อว่า นิครนถ์นาฏบุตรการเรียนสำนักเดียวกัน พ้องสมัยกัน จะเรียกว่าเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนก็ได้ก่อนสมัยพระพุทธเจ้า ผู้คนที่แสวงหาทางพ้นทุกข์รู้จักท่าน ปารศวนาถ จากรูปสลักเปลือยทำด้วยศิลา นับถือกันว่าเป็นศาสดา ศาสนาไชนะองค์แรกที่เน้นหนักไปทางทรมานกิเลสหรือทรมานร่างกายสาวกศาสนานี้ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้เป็นอิสระ เพราะถ้าไม่เป็นอิสระก็หมายความว่ามีครันถะ คือมีเครื่องผูกพัน อะไรที่เป็นเครื่องผูกพันก็เปลื้องทิ้งไปเสียเปลื้องผ้านุ่งแล้ว ที่อยู่ก็ไม่มี บาตรก็ไม่มี ใช้ใส่มือฉัน มีดโกนก็ต้องไม่ใช้ เมื่อผมยาวก็ถอนผมทิ้ง เนื้อไม่ฉันมานาน ผักก็เหมือนกัน ถ้าเจาะจงมาให้ก็ไม่ฉันอาหารที่เอามาให้ ถ้าแมลงวันตอมก็ไม่เอา ถือว่าแย่งแมลงวัน ถ้าคนเอาอาหารมาถวาย อุ้มลูกมาด้วยก็ไม่ฉัน เพราะถือว่าทำความลำบาก เบียดเบียนเด็กอ่อนพวกนุ่งผ้าเรียกเศวตัมพร มีนุ่งผ้าขาวบ้าง พวกไม่นุ่งเลย เรียกทิฆัมพร เป็นไชนะด้วยกัน มีคำสอนอย่างเดียวกันส่วนที่นุ่งผ้าเหลืองอย่างพระของเราๆเป็นได้แค่เณรพระสิทธัตถะทรงลองทำตามศาสนานิครนถ์มาแล้วทุกอย่าง ท่านเห็นว่าเป็นอัตตกิลมถานุโยค คือ “ตึง” เกินไปส่วนกามสุขัลลิกานุโยค สนุกบันเทิงอยู่ในกาม ท่านก็ผ่านบทเรียน ตอนเสวยสุขเป็นเจ้าชายอยู่ในวัง สรุปชัดเจน “หย่อนเกินไป”ท่านจึงหาหนทางค้นคว้าตามแบบของท่าน คือ “มรรคาปฏิปทา” หรือ “ทางสายกลาง” จึงเกิดพุทธศาสนาที่ชาวพุทธทั่วโลกศรัทธาว่าดับทุกข์ได้อย่างแท้จริงส่วนเพื่อนร่วมชั้นเรียน นิครนถ์ นาฏบุตร หรือ “มหาวีระ” นั้น ยังสู้อยู่ในชั้นเรียนเดิม จนกระทั่งตั้งตัวเป็นพระศาสดาศาสนานิครนถ์ องค์ที่ 28ซึ่งถึงวันนี้ ศาสนาไชนะ คนไทยเรียกศาสนาเชน มีพระอรหันต์ไม่นุ่งผ้า ยังยืนยงมั่นคงอยู่ในอินเดียคนไทยเราเป็นชาวพุทธ พ่อแม่ก็พอเข้าใจคำสอนของพระพุทธเจ้า ไม่เลือกข้างที่ตึงเกินไป หรือข้างที่หย่อนเกินไป แต่ทางสายกลางจะนำไปสู่การดับทุกข์ได้มากน้อยแค่ไหน เป็นเรื่องที่จะต้องหาวิธีสอนลูกหลานผมยังเชื่อว่า ผู้ใหญ่คงไม่ถูกอำนาจบังตาจนเข้าข่ายโง่ เด็กๆของเราที่กำลังฮึกเหิมกับความหวังใหม่ๆจนไม่เข้าข่ายบ้า ประวัติศาสตร์บ้านเรา โง่กับบ้าเจอกันเมื่อใด ก็ต้องฆ่ากันบรรลัยไปทุกที.กิเลน ประลองเชิง