วันนี้ยังอยู่ในช่วงหยุดยาว 4 วัน ทำให้แหล่งท่องเที่ยวทั่วไทยกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ภาพรถติดยาวเหยียดบนถนนมิตรภาพกลับมาให้เห็นอีกครั้ง 15 กรกฎาคมนี้ กระทรวงการคลัง เปิดให้จองสิทธิโครงการ “เราไปเที่ยวกัน” โดยรัฐบาลจ่ายค่าห้องให้ 40% แต่ไม่เกินคืนละ 3,000 บาท เท่ากับค่าห้องคืนละ 7,500 บาท เป็นเวลา 5 คืนต่อคน ตั้งเป้าไว้ 5 ล้านห้องต่อคืน หวังใช้เครื่องยนต์ท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่รู้จะสำเร็จแค่ไหน ราคาห้องหรูเหลือเกิน ผม ไม่กล้าเข้าพัก ต้องจ่ายเองอีกคืนละ 4,500 บาทพูดถึงโรงแรมหรูแล้ว วันนี้ผมขอพาท่านผู้อ่านไปดู โรงแรมหรูในเวียดนามระดับ 5 ดาว สำหรับนักท่องเที่ยวระดับเศรษฐี เพิ่งกลับมาเปิดใหม่วันเสาร์ที่ 4 กรกฎาคม หลังจากที่รัฐบาลเวียดนามผ่อนคลายล็อกดาวน์ที่ปิดประเทศมานานกว่า 3 เดือนโรงแรมใหม่แห่งนี้ตั้งอยู่ใน กรุงฮานอย เมืองหลวงของเวียดนาม ประเทศคู่แข่งสำคัญของไทย ชื่อ โรงแรม Dolce by Wyadham Hanoi Golden Lake เขาคุยว่าเป็น โรงแรมที่ตกแต่งด้วยทองคำแห่งแรกของโลก ตั้งตระหง่านอยู่ในย่านใจกลางกรุงฮานอย อาคารเป็นสีทองอร่ามสูง 25 ชั้น ใช้เวลาก่อสร้าง 11 ปี ภายในประดับด้วยกระเบื้องเคลือบทองคำเป็นสีทอง เฟอร์นิเจอร์เครื่องใช้ก็หุ้มด้วยทองคำ 24 กะรัต เช่น โถส้วม อ่างล้างหน้า อ่างอาบน้ำ ถ้วยกาแฟในห้องพัก ใครอยากลอง ใช้ส้วมทองคำ อาบน้ำในอ่างทองคำ จิบชากาแฟด้วยถ้วยทองคำ ก็ควรจะไปพักที่โรงแรมแห่งนี้สักครั้งราคาห้องพักเริ่มต้นที่ คืนละ 250 ดอลลาร์ ประมาณ 7,625 บาท เท่ากับค่าห้องโรงแรมโครงการ “เราไปเที่ยวกัน” ของกระทรวงการคลังปีที่แล้ว 2562 เวียดนามมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 18 ล้านคน เพิ่มขึ้น 16.2% แต่ไทยที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 39.8 ล้านคน เวียดนามยังห่างไกลไทยมาก ปี 2563 กระทรวงวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยวเวียดนาม ตั้งเป้านักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มเป็น 20.5 ล้านคน รายได้ 36,000 ล้านดอลลาร์ แต่วันนี้คงทำได้ไม่ถึงเป้าแล้ว เพราะเวียดนามล็อกดาวน์ปิดประเทศหนีโควิด-19 ไป 3 เดือนกว่าทุกครั้งที่ไปเวียดนามจะเห็น โรมแรมระดับ 4-5 ดาว เพิ่มขึ้นอย่างเป็นระบบ สอดรับกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้ง แหล่งท่องเที่ยวใหม่ ที่ภาครัฐเวียดนามให้สัมปทาน สร้างขึ้นมาใหม่ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว แต่ห้ามทำลายธรรมชาติดั้งเดิม แม้แต่การให้สัมปทาน สร้างสนามกอล์ฟบนภูเขา ภาครัฐเวียดนามก็ยังสามารถรักษาธรรมชาติให้กลมกลืนได้อย่างน่าชื่นชม ไม่ปล่อยให้มีการตัดไม้ทำลายป่าทำลายธรรมชาติเกิดขึ้นทุกวันนี้ เวียดนามกำลังเปลี่ยนโครงสร้างนักท่องเที่ยวไปสู่ นักท่องเที่ยวระดับบนที่มีกำลังซื้อสูงขึ้น สามารถขยายการท่องเที่ยวต่อหัวได้ราคาแพงขึ้น เช่นเดียวกับ กัมพูชา เพื่อนบ้านไทยอีกประเทศ ก็หันมาส่งเสริมนักท่องเที่ยวระดับบน ปีก่อนโน้นเพื่อนพาผมไปพักที่ โรงแรม Rosewood ใน กรุงพนมเปญ เป็นโรงแรมระดับ 6 ดาวที่สวยงามมาก ภายในโรงแรมและห้องพักตกแต่งด้วยศิลปะวัตถุต่างๆ ที่แสดงออกถึงรสนิยมหรู และที่น่าทึ่งที่สุดก็คือ บาร์เหล้าที่มีแต่ Single Malt อย่างเดียวทุกยี่ห้อในโลก บางยี่ห้อสามารถเลือกปียอดนิยมได้อีกด้วย นึกไม่ถึงว่าจะมีบาร์เหล้าหรูแบบนี้ในกรุงพนมเปญดูเพื่อนบ้านแล้วกลับมาดูไทย เราพูดถึงการยกระดับนักท่องเที่ยวต่างชาติมานานหลายปีแล้ว เพื่อลดความเสียหายทรัพยากรธรรมชาติอันสวยงามของไทย แต่ไม่คืบหน้าไปถึงไหน วันนี้ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ การท่องเที่ยวฯ และ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ควรจะใช้โอกาสวิกฤติโควิด-19 นี้ ปรับโครงสร้างนักท่องเที่ยวต่างชาติ จาก ระดับล่าง เช่น ทัวร์ศูนย์เหรียญไปสู่ ระดับกลาง ระดับบน เพื่อเพิ่มรายได้การท่องเที่ยวและรักษาสมดุลของธรรมชาติเอาไว้การตั้งเป้าด้วย “รายได้การท่องเที่ยว” แทน “จำนวนนักท่องเที่ยว” ผมเชื่อว่า จะทำให้สิ่งแวดล้อมไทยดีขึ้น มีรายได้จากการท่องเที่ยวมากขึ้น เมืองไทยน่าอยู่น่าเที่ยวมากขึ้น ไม่แออัดไปด้วย “สลัมนักท่องเที่ยว” ถ้าไม่เริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ วันพรุ่งนี้อาจสายไปแล้วก็ได้.“ลม เปลี่ยนทิศ”