วันเสาร์สบายๆ วันนี้ ผมชวนท่านผู้อ่านไปคุยเรื่องบันเทิงกันดีกว่านะครับ ปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากที่ เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน ได้ยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ป้องกันโควิด-19 แล้ว ก็อนุญาตให้มีการจัดงานหรือการแสดงด้านวัฒนธรรมได้แบบจำกัดจำนวนผู้ชม แกรนด์ เธียเตอร์ เดล ลิชิว (Gran Teatre del Liceu) โรงอุปรากรชื่อดังของเมืองบาร์เซโลนา ที่ต้องปิดไปตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม ก็ได้จัดแสดง คอนเสิร์ตเครื่องเสียงสี่ชิ้น (String Quartet) ขึ้น ที่โรงอุปรากรแห่งนี้ความไม่ธรรมดาของคอนเสิร์ตครั้งนี้ จนเป็นข่าวที่ต้องนำมาพูดถึงก็คือ ผู้ชมคอนเสิร์ต ครั้งแรกของโรงอุปรากรแห่งนี้ ไม่ใช่คน แต่เป็น ต้นไม้เกือบ 2,300 กระถางผู้จัดคอนเสิร์ตครั้งนี้ ได้ไประดมต้นไม้ในกระถางมาจากโรงเรือนเพาะชำ ในละแวกโรงละคร แล้วนำไปวางไว้บนเบาะกำมะหยี่สีแดง ในโรงอุปรากรจนเต็มทุกที่นั่งแทนผู้ชม ถ้าท่านผู้อ่านได้เห็นภาพจะแปลกตาและสวยงามมาก บทเพลงที่เลือกสรรมาบรรเลงในวันนั้นก็เข้ากับบรรยากาศมาก เป็นเพลง Crisantemi หรือ ดอกเบญจมาศ ของ พุชชินี (Puccini) ผู้ประพันธ์เพลงโอเปร่าชื่อดังก้องโลกผู้จัดการโอเปร่าเฮาส์แห่งนี้เปิดเผยว่า เป้าหมายของการจัดคอนเสิร์ตให้ต้นไม้ฟังครั้งนี้ ก็เพื่อนำเสนอมุมมองเกี่ยวกับการกลับไปใช้ชีวิต หลังจากที่สเปนต้องผ่านช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่เจ็บปวด (สเปนมีผู้ติดเชื้อ 3 แสนคน มากเป็นอันดับ 6 ของโลก เสียชีวิตกว่า 28,000 คน) หวังว่าเป็นมุมมองที่ทำให้คนหันกลับไปหาธรรมชาติ และพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ และยังได้เห็นคุณค่าของศิลปะและดนตรีอีกด้วยการแสดงคอนเสิร์ตครั้งนี้ แม้จะมีผู้ชมที่เป็นต้นไม้เต็มทุกที่นั่ง แต่ ประชาชนทั่วไปก็มีโอกาสได้ชมด้วย เพราะผู้จัดคอนเสิร์ตได้ ถ่ายทอดสด ผ่าน Livestream ไปให้ผู้ชมทางบ้านได้ชมด้วย ต้นไม้ที่ผู้จัดไประดมมาเป็นผู้ชม ก็ทำหน้าที่ผู้ชมที่มีมารยาทได้เป็นอย่างดี ไม่มีการพูดคุยกัน ไม่มีการก้มดูโทรศัพท์มือถือ ไม่มีการใช้แฟลชถ่ายรูป เมื่อจบการแสดง คอนเสิร์ตในคืนนั้นแล้ว วันรุ่งขึ้นผู้ชมที่เป็นต้นไม้ ดอกไม้ทั้งหมด จะถูกนำไปบริจาคให้กับโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองบาร์เซโลนาทุกวันนี้มนุษย์มุ่งพัฒนาวัตถุและเทคโนโลยีใหม่ๆ จนลืมธรรมชาติที่เป็นรากฐานชีวิตของมนุษย์ไป จึงถูกธรรมชาติลงโทษ สร้างไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่ร้ายแรงขึ้นมาทำลายล้างมนุษย์ ไม่กี่วันก่อนจีนก็เพิ่งค้นพบไวรัสไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่อีกชนิดเป็น ไข้หวัดหมูสายพันธุ์ G4 EA H1N1 ที่พัฒนากลายพันธุ์มาจาก ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ H1N1 ที่เคยระบาดในปี 2009 ซึ่งหลบเข้าไปฟักตัวซ่อนอยู่ในหมู แม้จะยังไม่ออกฤทธิ์แพร่เชื้อสู่คน แต่ในอนาคตไม่แน่การสร้างจิตสำนึกเพื่อ นำโลกคืนสู่ธรรมชาติ Back to Nature จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง New Normal ชีวิตวิถีใหม่ ที่ขาดไร้ซึ่งธรรมชาติ ไม่ใช่สังคมของเราแต่การระบาดของโควิด-19 ก็ทำให้มนุษย์หวนกลับไปหาสังคมยุคเก่า เพื่อทดแทนสิ่งที่หายไปช่วงนี้ นั่นก็คือ “หนังกลางแปลง” หรือ “หนังขายยา” ที่มีมาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ตอนนี้หาดูไม่ได้ แล้ว แต่ช่วงวีกเอนด์นี้เจ้าของโรงภาพยนตร์สองค่ายใหญ่ คุณวิชาพูลวรลักษณ์ ค่ายเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ คุณสุวัฒน์ ทองร่มโพธิ์ ค่ายเอสเอฟซีเนม่า ต่างก็จัด “ฉายหนังกลางแปลง” ให้ชาวกรุงได้ชมกันอีกครั้งระหว่าง 2-5 กรกฎาคม จะต่างกันก็ตรงที่เป็น หนังกลางแปลงแบบ Drive-in นั่งดูอยู่ในรถ มีระบบแอร์ ระบบหูฟัง ป๊อปคอร์น เครื่องดื่ม บริการเหมือนในโรงหนัง เครื่องฉายเป็น Laser Projector 4K ที่ให้ภาพคมชัดเหมือนในโรงหนังค่ายเมเจอร์ ฉายที่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ ส่วน ค่ายเอสเอฟ ฉายที่ คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ หนังกลางแปลงทั้งสองโรงอยู่แถวเลียบทางด่วนรามอินทราในอนาคตเมื่อ เทคโนโลยี 5G เปิดใช้เต็มที่ในเมืองไทย อาจเกิด โรงหนังขนาดเล็ก ที่ไหนก็ได้ ในบ้าน ร้านห้องแถว กลางทุ่งนา เป็นการนำ วิถีชีวิต แบบ New Normal มาผสมผสานกับ Old Normal เพื่อให้ชีวิตกลับมาติดดินอีกครั้ง ก็น่าจะสนุกดีนะ.“ลม เปลี่ยนทิศ”