(ภาพ : รูปปั้นพระเจ้าเหา)คนรุ่นเก่าเมื่อเอ่ยคำ “ครั้งกรุง” ก็เข้าใจตรงกัน หมายถึงกรุงเก่า หรือกรุงศรีอยุธยา เริ่มแต่ พ.ศ.1890 จน พ.ศ.2310 แต่ถ้าพูดว่า ครั้งบ้านเมืองดีก็เป็นที่เข้าใจ หมายถึงสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ปลายกรุงศรีอยุธยานับแต่เจ้าพี่เจ้าน้อง เจ้าลุงเจ้าอา ทำสงครามชิงราชบัลลังก์กัน บ้านเมืองก็เริ่มไม่ดีจนกระทั่งเสียกรุงอีกสำนวนครั้งพระเจ้าเหา สำนวนนี้อายุเก่าเกินกรอบ เรื่องในเมืองไทย หมายถึงสมัยพระเจ้าเหาหรือไตเฮา กษัตริย์องค์แรกของจีน ที่ประวัติศาสตร์บันทึกไว้ชัดว่าทรงราชย์ระหว่าง พ.ศ.2410-2296 ปีก่อนพุทธกาลเกือบห้าพันปีนั่นเทียวกาญจนาคพันธุ์เขียนไว้ในหนังสือ คอคิดขอเขียนว่า พระยาโกษากรวิจารณ์ ค้นคว้าเรื่องจีนไว้มากว่า พระเจ้าเหาหรือไตเฮา คนไทยเรียก “เหาใหญ่” จำกันได้คู่กับกษัตริย์จีนองค์ที่สองพระนามเหาน้อยบ้านเมืองใกล้ห้าพันปี ค้าขายกันด้วยการแลกเปลี่ยนสินค้า จะใช้เบี้ยหอยหรือลูกปัดเป็น “ตัวกลาง” แทนหรือยัง ยังไม่พูดถึง พูดถึงกันว่า พระเจ้าเหาใหญ่เป็นผู้ริเริ่มการเอาเงินหรือทองเป็นเครื่องแลกเปลี่ยนเรื่องของพระเจ้าเหาดูๆจะมีอะไรข้องเกี่ยวกับเมืองไทย กาญจนาคพันธุ์เล่าว่า ที่ลพบุรีมีตึกหลังหนึ่งสร้างแบบฝรั่งเศส สมเด็จพระนารายณ์ทรงใช้เป็นท้องพระโรงว่าราชการ เรียกกันต่อๆมา ตึกพระเจ้าเหาเหตุใดจึงเรียกตึกพระเจ้าเหาก็ไม่มีใครทราบ แต่อาจจะโยงใยไปถึงพระเจ้าเหาได้...เพราะคำ “เหา” ของจีนแปลเป็นไทยได้ว่า “รุ่งฟ้า” ใกล้กับคำไทยอีกคำว่า “หาว” ที่แปลว่า ฟ้าสำนวนครั้งพระเจ้าเหา...อาจจะหมายถึงครั้งสมเด็จพระนารายณ์หรือไม่ “กาญจนาคพันธ์ุ” ไม่แน่ใจ แต่มีความหมายว่าครั้งเก่าแก่ดึกดำบรรพ์เช่นเดียวกับสำนวน “ปีมะโว้”มะโว้ หมายถึง ละโว้ คือ ลพบุรี ที่มีตึกพระเจ้าเหา เรื่องลพบุรีเก่าแก่แค่ไหน อย่างไร วันนี้คงไม่ต้องคุยอะไรมาก เพราะรู้จักกันดี ตั้งแต่มีละครทีวีเรื่องบุพเพสันนิวาส ผู้คนก็ชวนกันดู ตึกพระเจ้าเหาก็ยังอยู่ให้เห็นประเด็นที่กาญจนาคพันธุ์บอก เหา หรือหาวที่แปลว่าฟ้า จะข้องเกี่ยวกับไทย ผมเคยอ่านหนังสือประวัติศาสตร์จีน ลิขิต ฮุนตระกูล แปล หน้าแรก สี่ห้าบรรทัดแรก ผมอ่านแล้วจำได้ว่าหลักฐานยืนยันตัวตน พระเจ้าเหายังมีเป็นฮวงซุ้ยเก่า จารึกปี พ.ศ.กว่าสี่พันปีเอาไว้มีคำอธิบาย...ต่อเนื่องจากความรู้ว่า สมัยพระเจ้าเหาริเริ่มการใช้เงินทองเป็นตัวกลางแลกเปลี่ยนสินค้า...ซึ่งแสดงว่าสมัยนี้มีการค้ารุ่งเรืองเฟื่องฟู ท่านใช้คนเผ่า “ไท-ไท” เป็นขุนนางใหญ่ มีหน้าที่เก็บภาษีอากรการค้าผมฝังใจคำ “ไท-ไท” มาเติมกับความรู้ใหม่ ชนเผ่าไต ไท เผ่าเย่ว์ เผ่าจ้วง...ที่มีหลักแหล่งอยู่ในกวางสีของจีน หรือแถวสิบสองจุไท ชายแดนเวียดนาม ที่ผู้รู้ไทยกำลังศึกษาวิถีชีวิต ไทดำ ไทขาว ไทแดง ฯลฯแสดงว่าคนไทหรือคนไตพัวพันอยู่กับเผ่าฮั่นของจีนมาแต่เนิ่นนานอย่างน้อยก็มีหลักฐานยืนยันเป็นมือไม้เก็บเงินเก็บทองให้พระเจ้าเหานั่นเชียวความรู้ที่ผมได้จากคุณสุจิตต์ วงษ์เทศ คนไทยไม่ได้อพยพมาจากไหน คนไทยอยู่ที่นี่ คนไทยเป็นเผ่าพันธุ์ผสมที่ใช้ภาษาไทยเป็นภาษาทางการค้า คำ “ไทหรือไทย” มีหลักฐานใช้กันกว่า 1,500 ปีผมขออนุญาตเติมตัวเลขใหม่ คำไทหรือไทยเรียกกันเก่าแก่ใกล้ห้าพันปีสรุปความรู้ใหม่คนไทย หรือคนไท...เก่งทางการค้า มาตั้งแต่สมัยพระเจ้าเหา...และเข้าใจเอาว่า วันนี้คนไทยก็ยังเก่งอยู่ ผมจึงไม่ได้วิตกกังวลอะไรไปกับเขา เจอโควิด-19 ไทยเราจะย่ำแย่ไปอีกหลายๆปี.กิเลน ประลองเชิง