มร.ยูโตะ ชิโนฮาระ เชฟชาวญี่ปุ่น อายุ 26 ปี ที่ไม่ใช่ระดับมือโปรฯ ผู้ชื่นชอบทุกสิ่งอย่างที่เกี่ยวกับธรรมชาติ และหลงใหลอะไรที่เกี่ยวกับแมลงตั้งแต่วัยเยาว์ วันๆก็จะออกไปตามป่าและทุ่งหญ้า ไล่จับตั๊กแตนและจิ้งหรีด จนถึงขนาดแอบเอามากิน“ผมไม่ได้บอกใครเลยเรื่องที่ผมคลั่งไคล้แมลง หรือกินแมลง จนอายุได้ 20 ปี เพราะกลัวว่าจะเป็นตัวประหลาดและถูกแกล้ง” ชิโนฮาระ เล่าให้ฟังด้วยน้ำเสียงอายๆ “แต่ผมอยากจะแนะนำความรื่นรมย์กับการกินแมลง เพื่อว่าจะได้รับการเคารพเทียบเท่ากับบริโภคสัตว์และพืชผักต้นไม้อื่นๆ”ชิโนฮาระ เปิดร้านอาหารในกรุงโตเกียว ชื่อ “Antcicada” ใช้ส่วนผสมของ “จิ้งหรีด” ในการเตรียมทำน้ำสต๊อกสำหรับราเม็ง... 10,000 ตัว สามารถทำน้ำซุปได้ 100 ชาม ซึ่งราเม็ง 1 ชามที่ปรุงดูจากสายตากับกลิ่นที่โชยมาก็เหมือนร้านอาหารที่มีอยู่ทั่วประเทศ หน้าตาของบะหมี่สีขาววางเรียงเส้นบนชามซุปสีข้น โปะหน้าด้วยแผ่นหมูสามชั้นสไลด์...ที่แตกต่างเพิ่มจิ้งหรีดทอดวางเคียงคู่ไปด้วยแต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ต้องปิดร้านที่เพิ่งเปิดเดือน เม.ย. เขาจึงเปลี่ยนเป็นออกแบบเป็นแพ็กเกจที่ลูกค้าสามารถนำกลับไปปรุงเองที่บ้าน ซึ่งช่วงกลางเดือนมานี้มียอดสั่งทางออนไลน์ 600 ชุด และกระแสตอบรับดีด้วยรสชาติที่มีความเป็นพิเศษว่าไปมนุษย์เราก็กินแมลงเป็นอาหารมาแล้วหลายพันปีก่อน และยังคงเป็นเมนูทั่วไปทั้งเอเชีย แอฟริกา ละตินอเมริกา และโอเชียเนีย แต่หลายประเทศในฝั่งตะวันตกหรือที่อื่นๆ ซึ่งมีอคติแรงเรื่องแมลงเป็นอาหาร ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายก็พยายามฝ่ากำแพงความคิดด้านลบเหล่านี้ โชว์หลักฐานว่าแมลงเป็นมิตรกับ สลว.+อุดมไปด้วยแร่ธาตุและโปรตีนสำหรับ ชิโนฮาระ ยังหวังไปไกลอีกว่าจะขยายโปรดักส์ที่เกี่ยวกับแมลงเช่น...เบียร์ที่หมักบ่มจากจิ้งหรีด ชาที่ทำจากอึตัวไหม!!!ฤทัยรัช จันทร์เพ็ญ