ปิดประตู "หัวใจ" ยังไม่พร้อมมี "ความรัก" ระหว่างเรียนเบรกความห้าว สายลุยไปก่อน เมื่อสาว เหม่เหม-ธัญญวีร์ ชุณหสวัสดิกุล นางเอกดาวรุ่ง รับบทเป็น “กอบกุล” ผู้หญิงคิดบวก มองโลกในแง่ดี ในละครสะท้อนสังคม “เด็กเสเพล” ทางช่อง 7HD ประกบคู่ บลิว-วรพล พระเอกรุ่นน้อง เคมีเข้ากันอย่างดี บรรยากาศการทำงานกองนี้คล้ายๆ “จับปูใส่กระด้ง” สาวเหม่เหมยังยอมรับบทนี้มีความคล้ายตนเองแค่บางมุม แล้วแบบนี้จะมีหนุ่มคนไหนมาจีบบ้างมั้ยน้า...า มาทำความรู้จักสาวชื่อเล่นสุดเฟี้ยวๆใน “คนดังนั่งคุย” >> อ่านเรื่องย่อนิยายทุกเรื่อง คลิกที่นี่ <<ขอถามที่มาที่ไปของชื่อเหม่เหมดีกว่า แปลว่าอะไร“เหม่เหมเป็นภาษาจีนค่ะ คุณพ่อเป็นคนจีนแท้ๆเลย ตัวหนูเองก็เป็นจีน 75% (หัวเราะ) จริงๆ คุณแม่ตั้งชื่อว่าเมษา แต่ว่าคุณพ่อจะเรียกว่าเหม่เหม แปลว่าหนูน้อยอะไรประมาณนี้ ซึ่งต้องบอกว่า ป๊ะป๋าชนะค่ะ เพราะตอนหลังทุกคนเรียกว่าเหม่เหมตามป๊ะป๋าหมดเลย”ฟีดแบ็กละครเด็กเสเพลเป็นอย่างไรบ้างคะ“กระแสตอบรับดีมากๆ มีคำชมทั้งในส่วนของนักแสดงด้วย ชมในเรื่องบทด้วย และคุณภาพของภาพ แสง ในละครจะมีคอมเมนต์มาว่าทำดีค่ะ ตัวเหมเองก็ดีใจกับทีมงานและนักแสดงทุกคนที่ได้รับคำชมมาแบบนี้จริงๆ ตัวละครกอบกุลในเรื่อง ถือว่าทำให้เราได้เปลี่ยนคาแรกเตอร์จากเรื่องอื่นๆที่เล่นมา ที่ผ่านมาจะเล่นเป็นวัยนักเรียนวัยมัธยม แต่เรื่องนี้จะโตขึ้น เป็นผู้ใหญ่ขึ้น”ทำการบ้านเพิ่มอย่างไรบ้าง “ถือว่าก็ตรงตามวัยของเหมที่ตอนนี้เรียนมหาวิทยาลัยอยู่ ส่วนที่ต้องเรียนเพิ่มคือเรื่องการขับรถ เพราะตัวละครในเรื่องต้องขับรถด้วย เหมยังขับไม่ค่อยเป็น พอมาเล่นละครเรื่องนี้ ตอนนี้ขับเก่งเลยค่ะ (หัวเราะ)”กอบกุลและเหม่เหมต่างกันเยอะมั้ย“กอบกุลเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี เชื่อมั่นในตัวเพื่อนว่าเพื่อนเป็นคนดี แม้เขาจะแสดงออกมาว่าเป็นเด็กเสเพลก็ตาม พยายามชักชวนให้เขากลับมาเป็นเด็กดีให้ได้ กอบกุลจะเป็นคนที่คิดบวก ถ้าเทียบกับตัวเหมเองก็จะคล้ายกัน เป็นคนมองโลกในแง่ดี ส่วนที่ต่างกันก็คือ กอบกุลค่อนข้างเป็นผู้หญิงมากๆ แต่ตัวเหมอาจจะแมนๆกว่า อย่างเวลามีปัญหากอบกุลอาจจะร้องขอความช่วยเหลือจากพระเอก แต่ถ้าเป็นเหม ปัญหาบางอย่างอาจจะแก้ไขด้วยตัวเองก่อน กอบกุลจะร้องไห้บ่อย แต่เหมจะร้องไห้ยาก คือเราเป็นคนลุยๆห้าวๆ มากกว่าค่ะ”เล่าวีรกรรมความห้าวให้ฟังสักเรื่อง“สมัยเด็กๆคือเหมบอกก่อนนะว่าเหมไม่ได้เป็นทอม แต่เหมแค่รู้สึกว่าบางเรื่องทำไมผู้ชายทำได้ แล้วผู้หญิงทำไม่ได้ล่ะ ตอนนั้นจำได้ว่าชอบสไปเดอร์แมนมากๆ อยากชักใยได้เหมือนสไปเดอร์แมน ก็เลยกระโดดลงมาจากชั้น 2 ลงมาชั้นล่าง ปรากฏว่าคิ้วแตก ทุกวันนี้ก็ยังเป็นแผลเป็นอยู่เลยคิ้วอีกข้าง วิ่งเล่นกับเพื่อนแล้วสะดุดขาโต๊ะ ก็เจาะเข้าที่คิ้ว คิ้วแตกอีกค่ะ ห่างกันปีหนึ่งพอดี”พอโตแล้วยังซนอยู่มั้ย “ไม่ซนแล้วนะคะ แต่เหมจะชอบกิจกรรมที่แอดเวนเจอร์ อย่างปีนหน้าผา ชอบมากๆ ล่าสุดก็เพิ่งไปเล่นที่เชียงใหม่ สนุกมาก ถามว่าทำไมชอบกิจกรรมแบบนี้ อันนี้ก็ตอบยาก อาจจะเพราะเด็กๆคุณแม่อยากให้สูงมั้งคะ เลยให้เราโหนบาร์มาตั้งแต่เด็ก พอเข้าโรงเรียนก็ไปอยู่ชมรมปีนเขา จากนั้นก็ชอบมาเรื่อย ตอนนี้พอว่างวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ก็จะไปออกกำลังกายด้วยการปีนผา กลัวเป็นแผลบ้างไหม ก็เป็นเรื่องปกติ แผลมันก็เป็นแล้วก็หายได้นะคะ (ยิ้ม)”กลับมาที่ละคร ร่วมงานกับน้องบลิว (วรพล จินตโกศล) เป็นอย่างไร“ดีมากๆ น้องเป็นคนที่มีความสามารถเยอะ เคยร่วมงานกันมาครั้งหนึ่งแล้ว เลยรู้ทางจับทางกันถูกหมด เรื่องนี้ก็เลยง่ายขึ้น อีกอย่างน้องๆคนอื่น ในกองก็น่ารักหมด”บรรยากาศการทำงาน “สนุกแต่พี่ทีมงานอาจจะไม่ได้คิดอย่างนี้ เหมือนจับปูใส่กระด้งหรือเปล่า (หัวเราะ) เพราะทุกคนอยู่ในวัยใกล้เคียงกัน ก็จะสนุกสนานมาก คนที่แสบที่สุดคือพี่วิน (ชวินทร์วุฒิ ก้องธรนินทร์) เขาชอบแกล้งคนอื่น อย่างเวลาเหมมากองตอนเช้าก็จะหน้าสดใช่ไหมคะ พี่เขาก็จะมาถ่ายรูปปาปารัสซีเลย ต้องคอยระวัง (หัวเราะ)”วางเป้าหมายในชีวิตไว้อย่างไร“เป้าหมายในชีวิตอย่างแรกคือ อยากเรียนให้จบค่ะ อยากเป็นนักบิน อยากมีอาชีพที่มั่นคง และสามารถดูแลตัวเองได้ ตอนนี้เหมเรียนที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ปี 2 คณะวิศวะการบิน และกำลังฝึกบินที่บางกอกเอวิเอชั่น เซ็นเตอร์ด้วย มันเป็นความฝันของเหม ตั้งแต่เด็กๆปะป๊าจะชอบพูดว่าอยากให้ลูกคนใดคนหนึ่งเป็นนักบินหรือไม่ก็หมอ เพราะมองว่าเป็นอาชีพที่มั่นคง ตัวเหมเองก็ลองศึกษามาตั้งแต่เด็กแล้ว เคยเรียนไปทางหมอด้วย แต่คิดว่าไม่ใช่ทางเท่าไหร่ เรามีความสนใจด้านนักบินมากกว่า แล้วพอได้มาเรียนจริงๆก็รู้เลยว่านักบินนอกจากเป็นอาชีพที่มีเกียรติแล้ว เป็นอาชีพที่ท้าทาย ตัวเหมชอบเห็นอะไรใหม่ๆตลอดเวลา ถ้าเป็นนักบินเราจะมีโอกาสได้มองท้องฟ้า ที่แปลกตาทุกวันตลอดเวลา มันเป็นความรู้สึกที่ดีค่ะ” ได้ทดลองขับเครื่องบินบ้างหรือยัง“เคยขึ้นบินแล้วค่ะ ตอนนี้บินรวมสะสมประมาณ 20 ชั่วโมงแล้ว ความรู้สึกตอนแรกคิดว่ามันต้องสนุกมากแน่ๆ แต่พอถึงเวลาจริงๆไม่ใช่ การเป็นนักบินต้องรับผิดชอบชีวิตของคนอื่น ดังนั้นเราจะคิดแค่ความสนุกไม่ได้ เราต้องเรียนรู้ทุกอย่างจริงๆ ทั้งระบบ อุปกรณ์ ก่อนที่จะได้ขึ้นบิน ต้องสอบตัวต่อตัวกับอาจารย์ที่สอน เป็นคำถามเกี่ยวกับเรื่องเครื่องบิน เวลาตอบต้องมีตัวอย่างมาให้อาจารย์ดูด้วย ต้องเรียนรู้เยอะมากๆ คือต้องรู้ทุกส่วนประกอบ ทุกปุ่มที่อยู่บนเครื่องบิน มีการทดสอบแบบให้หลับตา แล้วจับไปตามปุ่มต่างๆแล้วอธิบาย ถ้าทำได้ต่ำกว่า 80 เปอร์เซ็นต์คือสอบตก”อาชีพนักบินเปลี่ยนตัวเหม่เหมไปเลย “ใช่ค่ะ ยิ่งได้เรียนเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เรารู้ว่า เราต้องมีสติมากๆ ต้องมีสมาธิ เพราะอาชีพนี้คืออาชีพที่ต้องรับผิดชอบต่อชีวิตของผู้อื่น”จะว่าไปนักบินผู้หญิงไม่ค่อยมี “นี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ตัดสินใจอยากเป็นนักบิน เพราะว่าหลายๆคนจะคิดว่า ต้องเป็นผู้ชายถึงจะขึ้นบินได้ คนส่วนมากจะมองว่าเป็นผู้หญิงทำไมไม่ไปเรียนเป็นแอร์โฮสเตสมาเป็นนักบินทำไม แต่เราชอบเป็นนักบิน เราไม่ได้ชอบเป็นแอร์ และคิดว่าอาชีพนี้ผู้หญิงก็ทำได้ค่ะ”อาชีพด้านการแสดงล่ะ“การแสดงสำหรับเหม ก็เป็นอาชีพที่เราทำแล้วมีความสุขมาก วันนี้ตั้งใจจะทำเต็มที่เท่าที่ความสามารถเราสามารถทำได้ เหมอาจจะไม่ได้รับงานเยอะมาก เพราะหลักๆ เรายังอยู่ในวัยที่ต้องเรียนหนังสือ อาชีพนักแสดงคือโอกาสที่เข้ามาและเราอยากลองทำด้วยในอนาคตอย่างไร เหมก็คิดว่าต้องมีอาชีพที่มั่นคงเป็นหลัก และได้ทำงานที่รักไปพร้อมกัน จริงๆ อาชีพนักแสดงทำให้เหมโตขึ้นเหมือนกัน ได้รู้จักคนเยอะขึ้น มีความรับผิดชอบต่อตัวเองเหมือนกัน ถามว่าเหนื่อยมั้ยกับการเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย ยอมรับว่าเหนื่อย แต่อยากตั้งใจทำออกมาให้ดีที่สุด” เวลาเหนื่อยหรือท้อ เหมทำอย่างไร“จะคิดถึงวันแรกที่เราทำสิ่งๆนั้นค่ะ คิดว่าเราทำสิ่งๆนั้นเพราะอะไร ย้อนกลับไปคิดถึงวันแรกแล้วจะมีกำลังใจ อย่างเรื่องงาน เรื่องเรียน จะคิดว่าเราอาจจะต้องเหนื่อยตอนนี้นะ แต่อนาคตเราจะสบายขึ้น เราจะมั่นคงขึ้นก็จะหายเหนื่อย”เหมรู้สึกอย่างไรกับคำว่าเป็นผู้หญิงเก่ง คิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิงเก่งมั้ย“เหมไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นคนเก่ง เพราะคิดว่าทุกคนสามารถทำสิ่งที่เราทำได้เหมือนกัน อยู่ที่ความตั้งใจมากกว่า แค่เป็นคนดีเป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ ตั้งใจเรียน สำหรับเหมเพียงเท่านี้ทุกคนก็คือคนเก่งแล้วค่ะ”ถามเรื่องหัวใจบ้างดีกว่า ห้าวขนาดนี้มีหนุ่มๆกล้ามาจีบมั้ย“ก็มีค่ะ แต่ในวัยของเหมตอนนี้ ความรักก็น่าจะเป็นแบบเข้ามาเป็นเพื่อน เป็นพี่น้องกันมากกว่าค่ะ คือเป็นห่วงเป็นใยกันในลักษณะของเพื่อนน่าจะดีกว่า” แหม่ๆ.ทีมข่าวบันเทิง